ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=_Gu7GI2KBxY
Monthly Archives: December 2016
เที่ยวฮาวาย 4 วัน ใช้เงินกี่บาทดี ?
เที่ยวฮาวาย 4 วัน ใช้เงินกี่บาทดี ?
ฮูลา ฮูลา… ฮาวาย เกาะสวาทหาดสวรรค์ของคู่รัก และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ไปเที่ยวถึงฮาวายทั้งที ใช้งบเท่าไหร่ดีนะ ว่าแล้วก็เก็บเงินเลยดีกว่าแล้วลัดฟ้าไปกอดผืนทราย ก่ายแผ่นฟ้าที่ฮาวายด้วยกันเลย
ฮาวาย หรือ มลรัฐฮาวาย เป็นหนึ่งมลรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของสหรัฐไปประมาณ 3,700 กิโลเมตร หมู่เกาะฮาวายเกิดจากแนวของภูเขาไฟที่โผล่ขึ้นมากลางมหาสมุทรแปซิฟิก และทอดตัวเป็นแนวยาว ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 8 เกาะ และเกาะเล็กเกาะน้อยอีกประมาณ 124 เกาะ ชื่อเล่นของฮาวาย คือ อะโลฮา ซึ่งใช้เป็นคำทักทาย มีความหมายตามภาษาฮาวายว่า “สวัสดี” และ “ลาก่อน”
โฮโนลูลู เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่บนเกาะโอวาฮู เป็นเมืองที่มีความเจริญสูงสุดของหมู่เกาะฮาวาย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาเริ่มต้นทริปกันที่นี่ โฮโนลูลู ในภาษาฮาวายแปลว่า ความสงบ อันหมายถึงความปลอดภัยและการใช้ชีวิตแบบวิถีของชาวเมือง สถานที่ท่องเที่ยวในฮาวายมีมากจนแทบอยู่นิ่งไม่ไหว แล้วแต่ละที่นั้นสวยงามอย่างธรรมชาติชาวเกาะ จนทำให้อยากโดดโอบผืนฟ้า กอดจูบท้องทะเลให้ลืมหายใจเลยทีเดียว มาเริ่มกันที่
Iolani Palace (พระราชวังอิโอลานี)
Iolani Palace (พระราชวังอิโอลานี) คือ พระราชวังเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ผู้ปกครองฮาวาย แต่ในปลายยุคศตวรรษที่18 ฮาวายก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอเมริกา และสภาถูกปกครองด้วยกลุ่มคนผิวขาว ทำให้กษัตริย์หมดอำนาจ และพระบรมราชินีลิลีอูกาลานี ได้ถูกกักขังโดยจำกัดอิสระภาพในพระราชวังแห่งนี้เป็นเวลานานนับปี สุดท้ายฮาวายจึงได้ถูกรวมให้เป็นมลรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ.2502 นับรวมถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึงครึ่งศตวรรษ
พระราชวังอิโอลานี จึงเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และได้มีการจดทะเบียนไว้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ฮาวายถูกนับรวมเป็นหนึ่งกับสหรัฐอเมริกา พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นศาลากลางเฉพาะการของรัฐบาลจนถึงปีค.ศ.1969 หลังจากนั้น ทางการก็สั่งให้มีการบูรณะ และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมในปีค.ศ.1978 เป็นต้นมา
Punchbowl Crater (สุสานทหาร พันช์โบลว์)
Punchbowl Crater (สุสานทหาร พันช์โบลว์) เขตแดนที่เป็นปากปล่องภูเขาไฟ อันมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลก ในช่วงปลายยุค 1890 คณะกรรมการของฮาวายอยากให้มีการจัดตั้งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสุสานในเมือง โฮโนลูลู เพื่อเป็นเกียรติ แด่เหล่าทหารกล้า แต่ก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากกลัวมลพิษทางน้ำประปา และระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ แต่ความตั้งใจยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น ผู้ว่าราชการของฮาวายได้นำเสนอโครงการจัดตั้งสุสานพันช์โบลว์ ให้เป็นสุสานแห่งชาติ ด้วยการจัดสรรงบประมาณมาลงเพื่อโครงการนี้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต่อมารัฐสภาและองค์กรที่มีประสบการณ์ในการวางแผนการจัดการที่ดี ร่วมกับทางกองทัพบก ได้เตรียมจัดหาพื้นที่บนโฮโนลูลู เพื่อการฝังศพแบบถาวรของทหารผู้กล้า ให้อยู่บนหมู่เกาะฮาวายได้สำเร็จ โดยได้รับการอนุมัติและเงินสนับสนุนจากสภาคองเกรส การก่อสร้างสุสานนี้จึงเริ่มต้นในปี 1948
Waikiki Beach (หาดไวกิกิ)
Waikiki Beach (หาดไวกิกิ) แรกเริ่มเดิมทีในปีค.ศ.1800 สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักผ่อนสำหรับเจ้าขุนมูลนาย ที่ชอบมาเล่นกระดานโต้คลื่น ในปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทมากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ที่หลงใหลกีฬาทางน้ำประเภทนี้ จึงไม่แปลกตาที่ตามชายหาดมีเซิร์ฟบอร์ดวางเรียงรายไว้คอยบริการ
Pearl Harbor (เพิร์ลฮาร์เบอร์)
Pearl Harbor (เพิร์ลฮาร์เบอร์) อนุสรณ์สถานเรือรบสหรัฐ ซึ่งเป็นสมรภูมิเดือดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยทหารสหรัฐยึดหัวหาดเพิร์ลฮาร์เบอร์บนหมู่เกาะฮาวาย เป็นฐานทัพในการสู้รบ กับกองกำลังทหารของญี่ปุ่น ปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านในอาคารจะเป็นนิทรรศการจัดแสดงเกี่ยวกับการสู้รบของกองกำลังทั้งสองฝ่าย และการโจมตีโดนการทิ้งระเบิดของทหารญี่ปุ่น เพื่อถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ ด้านนอกอาคารจะโชว์เรือรบสมัยสงคราม และระเบิดต่างๆ
หมุนไปหมุนมา เมื่อขึ้นบกกันแล้วก็ต้องต่อด้วยการลงน้ำ เพราะอยู่ฮาวายคงไม่มีอะไรจะสุขเท่ากับการเป็นสาวชาวเกาะ มาต่อกันด้วย
Hanauma Bay (หาดฮานาอูม่า)
Hanauma Bay (หาดฮานาอูม่า) หาดสวยน้ำไส ไหลเย็นเห็นตัวปลาแห่งนี้ เป็นหาดที่เลื่องชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของโฮโนลูลู ที่เกิดขึ้นภายในรูปทรงกรวยของภูเขาไฟ ทัศนียภาพสวยงามด้วยชายหาดที่โค้งตามรูปของปล่องภูเขาไฟ หากลงไปเล่นน้ำก็ไม่ต้องกลัวเหงา เพราะฝูงปลาทะเลน้อยใหญ่จะคอยเวียนว่ายอยู่ใกล้ตัว
เมื่อขึ้นจากน้ำก็คงต้องหากิจกรรมทำต่อ คราวนี้คงเป็นการช็อปปิ้งกันบ้าง ส่วนจะเป็นที่ไหน ต้องลอง ฮูลา ฮูลา ส่ายสะโพกติดตามในตอนต่อไป…
เรื่องโดย: Omyim
บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com