ชมวิวกลางหุบเขา ที่ “อุทยานหินเขางู” สวยจนน่าไปถ่ายรูป!

01

อุทยานหินเขางู” แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เดิมทีเป็นแหล่งระเบิดหิน ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เราจะพบวิวสวยๆ ของธรรมชาติ ทะเลสาบที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา คนที่ชอบถ่ายรูปห้ามพลาด!

02

อุทยานหินเขางู” เป็นอุทยานหิน สวนป่า ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 8 กิโลเมตร แต่เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินที่สำคัญของไทยตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เนื่องจากเป็นปูนที่มีคุณภาพดี

ต่อมาทั้งภาครัฐและประชาชนได้เล็งเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสภาพภูมิประเทศ และวิวทิวทัศน์ อีกทั้งที่เขางูนี้ยังเป็นศาสนสถานอันเก่าแก่ จึงได้มีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดและย่อยหินที่บริเวณนี้ไป

03

หลังจากยกเลิกสัมปทาน เขางูกลายเป็นเหมืองร้าง มีสภาพทรุดโทรม ทางจังหวัดราชบุรีจึงได้พัฒนาเขางูให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยว ทางโบราณคดี และได้สร้างพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ เต็มพื้นที่หน้าผา สร้างจากการยิงแสงเลเซอร์ลงหน้าผาหิน

04 05 06 07

ภายในอุทยานหินเขางูแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอยู่หลายแห่ง ซึ่งจะเป็นถ้ำที่อยู่บนภูเขา มี ถ้ำฤๅษี ถ้ำฝาโถ และถ้ำจีน-จาม ถ้ำต่างๆ นี้พบพระพุทธรูปจำหลัก หรือพระพุทธรูปที่สลักหินที่ฝาผนังถ้ำอยู่หลายองค์ ซึ่งพระพุทธรูปเหล่านี้เป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยทวารวดี แต่ละถ้ำอยู่ไม่ไกลกัน แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไต่เขาไปค่อนข้างสูง บริเวณรอบๆ ก็จะมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

08

ถ้ำในบริเวณอุทยานหินเขางู

  • ถ้ำฤๅษี พบพระพุทธรูปสมัยทวารวดี 2 องค์ องค์แรกประทับห้อยพระบาท (ประลัมพปาทาสนะ) พระหัตถ์ขวาอยู่ในปางแสดงธรรม (วิตรรกมุทรา) พระหัตถ์ซ้ายวางในพระเพลา ระหว่างพระบาทมีจารึกว่า ปุญกรมชฺระ ศฺรีสมาธิคุปฺต (ะ) แปลว่า พระศรีสมาธิคุปตะเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วยการกระทำบุญ อีกฟากของผนังถ้ำมีพระพุทธรูปยืนปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางสมาธิอื่นๆอีกหลายองค์
  • ถ้ำฝาโถ พบพระพุทธรูปนอนจำหลักปางมหาปรินิพพานมีประภามณฑลและลายปูนปั้นรูปต้นสาละ ด้านบนมีรูปเทพชุมนุม ผนังด้านตรงข้ามมีภาพสาวก2 องค์
  • ถ้ำจีน พบพระพุทธรูปจำหลัก 2 องค์ ปางสมาธิ พระหัตถ์แสดงวิตรรกมุทรา มีร่องรอยของการพอกปูนทับ องค์ที่อยู่ใกล้ปากถ้ำมีรอยหักพัง ไม่สมบูรณ์

ถ้ำจาม พบพบพระพุทธรูปนอนจำหลักปางมหาปรินิพพาน และภาพยมกปาฏิหาริย์ มีภาพปูนปั้นรูปต้นมะม่วง ถัดมายังพบรูปบุคคลยืนซ้อนกันและรูปพญานาคอีกด้วย

 

09 10 11

ที่อยู่  :  ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
เปิดบริการ :  8.00 น. – 18.00 น. ทุกวัน
ค่าเข้า  :  ไม่เสียค่าเข้า

ช่วงเวลาแนะนำ : ได้ทุกฤดู   ฤดูท่องเที่ยวที่แนะนำคือ ฝนและหนาว สำหรับฤดูร้อนตอนกลางวันที่นี่อากาศค่อนข้างร้อนจัดเพราะเป็นภูเขาหินปูน  ต้นไม้จะแห้งเปลี่ยนสีไม่ร่มรื่น แต่ในช่วงเย็นของหน้าร้อนที่นี่ลมจะดีมากเหมาะแก่การออกกำลังกายในตอนเย็น

การเดินทาง  : 

  • รถยนต์ส่วนตัว  เส้นทางที่ 1 ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3087 ถนนสายราชบุรี-จอมบึง-สวนผึ้ง ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 8 กิโลเมตร จะพบสี่แยกให้เลี้ยวขวาแล้วขับมาประมาณ 1 กม. จะพบ อุทยานหินเขางู อยู่ด้านซ้ายมือ  เส้นทางที่ 2 มาจากทางหลวงหมายเลข 3089 ( จากทางวัดหนองหอย) จะพบอุทยานหินเขางู อยู่ด้านขวามือ
  • รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารประจำทางจากตัวอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :  www.เที่ยวราชบุรี.com
เรียบเรียง: Travel MThai

 

 

 

“แก้ว 2 ใจ” By กาแฟถัง สดชื่นดับร้อนเป็นสองเท่า

01

เมื่อปีที่แล้ว ร้านกาแฟชื่อดังอย่างร้าน กาแฟถัง ในจังหวัดน่าน ที่มีกาแฟใส่ถังที่ในถังใบใหญ่มีช่องแยกน้ำสองช่อง กินน้ำได้สองรสชาติในถังเดียวชื่อว่า “2 ใจลังเล” และยุคของการแข่งขันต้องมีไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ ไอเดียของคุณออย เจ้าของแฟรนไชส์ ร้านกาแฟถังในปีนี้ก็คือ “แก้ว 2 ใจ” แก้วกาแฟขนาดปกติที่ถูกแบ่งเป็นสองช่อง ใส่เครื่องดื่มเย็นๆ ได้สองรสชาติในแก้วเดียว หลายคนที่เคยกินแบบถังอาจจะดูใหญ่เกิน สั่งมากินคนเดียวก็ไม่หมด คราวนี้เราได้เครื่องดื่มในปริมาณที่พอดีแถมยังได้สองรสชาติอีกด้วย ใครสนใจซื้อแฟรนไชส์ก็สามารถติดต่อสอบถามได้

02
“แก้ว 2 ใจ”

03
04
เลือกกินแบบรสชาติเดียวก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนเดิม

05
2 ใจลังเล

ขอบคุณรูปภาพจาก: กาแฟถัง ขายเฟรนไชค์
เรียบเรียง:
Food MThai

แนะนำ 10 ที่เที่ยวสุดร้อนแรง ประจำเดือนเมษายน

01

และแล้วปี 2560 ก็ย่างกรายเข้ามาถึงเดือนแห่งความร้อนแรง ทั้งสภาพอากาศ ทั้งเทศกาล และสถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ travel.mthai.com พร้อมเสิร์ฟให้คุณถึงหน้าจอ ด้วยการแนะนำ 10 ที่เที่ยวสุดร้อนแรง ประจำเดือนเมษายน เพื่อเป็นตัวเลือกในการเดินทางสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนดีในวันหยุดยาว โดยทั้ง 10 แห่งจะไม่เกี่ยวข้องกับเทศกาลวันสงกรานต์ แต่รับรองได้ว่าวันหยุดของคุณจะต้องมีความหมาย หากได้ไปเยือนสถานที่เหล่านี้ คุณจะได้พบกับความประทับใจและความทรงจำอันแสนพิเศษ แน่นอน …

1. ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

02
Cr. vivatchaipicture.wordpress.com

พบความมหัศจรรย์ของ ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินเก่าแก่ศิลปะขอมโบราณผ่านการเวลามาร่วมพันปี จากการรังสรรค์ด้วยภูมิปัญญาอันแยบยลของคนโบราณ ถ่ายทอดความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาฮินดูไศวนิกาย ที่วิจิตรงดงามผ่านลายสลักบนหินนับร้อยนับพันก้อน ก่อร่างสร้างจนเกิดเป็นความยิ่งใหญ่แห่งเทวสถาน บนยอดภูเขาไฟสูงที่ดับสนิทแล้ว หนึ่งในหกลูกสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์

ชมและสัมผัสปรากฏการณ์แสงแรกแห่งอรุณรุ่ง ฉายแสงผ่าน 15 ช่องบานประตูของปราสาทพนมรุ้ง ถือเป็นความเชื่อและความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นดำเนินชีวิตในวันใหม่ (วันที่ 3-5 เมษายน 2558 เวลา 06.00 น.)

2. หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

03
Cr. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะที่มีลักษณะทางธรรมชาติที่กำบังคลื่นลมทั้งสองฤดู เนื่องจากเกาะวางตัวอยู่เป็นกลุ่มและมีอ่าวขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแนวปะการังริมฝั่งอยู่รอบหมู่เกาะ และเกาะบริวาร นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมยังเหมาะต่อการพัฒนาของแนวปะการัง คือ น้ำใส อุณหภูมิพอเหมาะ และมีการผสมผสานของน้ำที่ได้รับสารอาหาร จากมวลน้ำเบื้องล่างที่ปะทะเกาะ ความอุดมสมบูรณ์ของแพลงตอน ซึ่งเป็นอาหารสำหรับปลาและสัตว์อื่นๆ

โดยมี กองหินริเชลิว เป็นไฮไลท์จุดดำน้ำของหมู่เกาะแห่งนี้ ที่นักดำน้ำชาวไทย และผู้มีประสบการณ์สูงหลายราย จัดให้ “ริเชลิว” เป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยงาม สมบูรณ์ และหลากหลายที่สุดเทียบเท่าหมู่เกาะสิมิลัน

3. ถนนสายดอกคูณ จ.ขอนแก่น

04
Cr. www.facebook.com/ththaan

ในช่วงหน้าร้อน เป็นช่วงที่ดอกไม้หลายชนิดออกดอกบานสะพรั่งให้ได้ชม “ดอกคูน” หรือ “ดอกราชพฤกษ์” ก็เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ออกดอกในช่วงหน้าร้อนนี้ ดอกไม้มงคลชนิดนี้มีดอกสีเหลืองอร่ามที่ลักษณะเป็นช่อย้อยลงมาจากต้น งดงามรับกับความสดใสของฤดูร้อน ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามสองฟากฝั่งถนน

แต่ที่สามารถชมได้อย่างสวยงามที่สุดก็คงจะเป็นที่ “ถนนสายดอกคูน” บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น และที่บริเวณสวนดอกคูณ ริมบึงแก่นนคร ซึ่งก็งดงามเข้ากับบรรยากาศงานดอกคูนเสียงแคนเป็นอย่างมาก สอบถามยามดอกไม้บาน ได้ที่ : ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7714-6

4. วัดใต้น้ำ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

05
Cr. www.chillDtravel.com

อุโบสถหลังเก่า ของวัดวังก์วิเวการาม (เดิม) ที่จมอยู่ใต้น้ำ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งยามใดที่น้ำได้ลดระดับลง เมืองบาดาลทั้งเมืองก็จะเผยความงดงามของโบราณสถาน ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้มาเยือนเสมอๆ หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่ยังไม่มีโอกาสมาเยือนเมืองบาดาล แนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุด คือระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน น้ำในเขื่อนจะลดลงต่ำที่สุด

 5. เกาะไข่ จ.สตูล

06
Cr. www.tourtooktee.com

เกาะไข่ เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 25 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง เสน่ห์ของเกาะไข่อยู่ตรงประติมากรรมธรรมชาติอย่างซุ้มประตูหินอันเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมีหาดทรายสีขาวนวลและละเอียด น้ำทะเลใสสีมรกตเห็นผืนทรายใต้น้ำได้ชัดเจน เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะที่ยังคงความเป็นธรรมชาติกลางทะเลอันดามันทะเลรอบ ๆ เกาะไข่มีแนวปะการังอยู่โดยทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปะการังเขากวาง เนื่องจากเป็นเกาะที่เงียบสงบ

6. หินสามวาฬ ภูสิงห์ จ.บึงกาฬ

07
Cr. facebook.com/pamai.komboon

หินสามวาฬ” อยู่ในอุทยานภูสิงห์ โดยด้านล่างเป็นที่ตั้งของ “วัดป่าภูสิงห์” และมีลานธรรมขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าของก้อนหิน 2 ก้อน ที่มีลักษณะคล้ายสิงโต 2 ตัวหมอบเข้าหากัน พื้นที่บริเวณนี้สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ เพื่อไหว้พระเป็นสิริมงคลและเดินไปยังจุดชมวิวลานธรรม

แต่หากอยากไปชมวิวยังจุดอื่นบนภูสิงห์ จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เสียก่อน เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างโหด ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้นถึงจะสามารถขึ้นไปได้ และควรมีผู้ชำนาญนำทางไปด้วย เมื่อได้ขึ้นไปมีจุดแนะนำอยู่ตรง “หินสามวาฬ” พื้นที่ชมวิวใหม่ของภูสิงห์ มีลักษณะคล้ายวาฬโมบี้ดิ๊ก 3 ตัวทอดยาวบนพื้นโลก

7. วัดพระธาตุแก่งสร้อย จ.ตาก

08
Cr. อนุสาร อสท.

วัดพระธาตุแก่งสร้อย เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญยิ่งในแม่น้ำปิง ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เป็นวัดหนึ่งในแคว้นเขตดินแดนแห่งล้านนาไทย เป็นดินแดนที่อยู่ในหุบเขาลำเนาไพร รถไม่สามารถเข้าไปได้ ใช้เส้นทางน้ำคือนั่งเรือไปอย่างเดียว

โดยในทุก ๆ ปี ในช่วงเดือนเมษายน จะมีงาน ประเพณีขึ้นไหว้สาสรงน้ำพระบรมธาตุแก่งสร้อย ซึ่งจะมีชาวบ้านในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง รวมทั้งผู้คนที่มีจิตศรัทธาจากจังหวัดอื่น ๆ มาร่วมงานกันอย่างมากมาย ท่านสามารถมาท่องเที่ยวและทำบุญที่ วัดพระธาตุแก่งสร้อย ไปพร้อม ๆ กันได้ในช่วงเดือนเมษายนนี้

8. หมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร

09
Cr. Little Potchara

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร ประกอบไปด้วย เกาะทะลุ เกาะกระโหลก เกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามเล็ก อยู่ห่างจากฝั่งโดยใช้เวลาเรือวิ่งราว 1 ชั่วโมง ปัจจุบัน “หมู่เกาะง่าม” นั้นถือว่าเป็นจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักดำน้ำทั่วโลก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามหน้าร้อนที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของจังหวัดชุมพรอีกด้วย

แม้ว่าทะเลแถบนี้แม้น้ำจะไม่ใสเหมือนแถบอันดามัน และไม่มีดงปะการังอ่อนสีสดมากเท่า แต่ก็รายล้อมด้วยดงปะการังดำที่หาชมได้ยากในจุดดำน้ำอื่นๆ นอกจากนี้แล้วทะเลชุมพรยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลและฝูงปลาจำนวนมาก นักดำน้ำมักพบปลากะพงแดง ปลากะมง ปลาข้างเหลืองฝูงใหญ่ เวียนว่ายไปมาอยู่เนือง ๆ

9. ทะเลน้อย จ.พัทลุง

10
Cr. adventure.tourismthailand.org

ในอำเภอควนขนุน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองพัทลุงออกไปราว 32 กม. มีทะเลสาบขนาดใหญ่ซ่อนอยู่เคียงคู่กับหุบเขาที่นิ่งสงบ ลำน้ำแห่งทะเลน้อยถือเป็นต้นทางของทะเลสาบสงขลา ครอบครัวนกนานาสายพันธุ์ถือเป็นเครื่องยืนยันความอุดสมบูรณ์ของธรรมชาติแห่งทะเลน้อยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนกในกลุ่ม “นกน้ำ” หรือ “นกเป็ดน้ำ

นอกจากจะเป็นแหล่งดูนกแล้ว “ทะเลน้อย” ยังมีสิ่งน่าสนใจอันโดดเด่นอีกอย่างนั่นก็คือ “ทะเลบัวแดง” หรือ “ทะเลบัวสาย” พันธุ์บัวที่มีขึ้นอยู่มากที่สุดในทะเลแห่งนี้ โดยในช่วงเช้าเหล่าบัวสายจะพาออกดอกสีแดงสดบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ นอกจากบัวสายแล้ว ในทะเลน้อยยังมีบัวหลวง บัวบา บัวเผือน รวมไปถึงพืชพรรณน่าสนใจ อื่นๆ อาทิ ผักตบชวา จอก แหน สาหร่ายต่างๆ กระจูด กง ย่านลิเภา กก และเสม็ดที่ยืนต้นตระหง่านอยู่ในพื้นที่ป่าบก เป็นต้น

10. เขาหงอนนาค จ.กระบี่

11
Cr. facebook.com/bang.tongkeawsawat

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาค จุดชมวิว 360 องศาสุดตระการตา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยมียอดเขาสูงตระหง่านตั้งอยู่ริมทะเล อุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่าดงดิบขึ้นปกคลุมจนแทบไม่เห็นแสงตะวัน ที่นี่เป็นบ้านพำนักอาศัยและแหล่งอาหารของนกป่าและสัตว์ป่านานาชนิดใช้เวลาเดินเท้าเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะเป็นผู้พิชิตยอดเขาหงอนนาค

เขาหงอนนาค ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ คลองม่วง กระบี่ เลยทีเดียว โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม

ขอบคุณข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย / www.muangthai.com
เรียบเรียง : Travel.MThai