เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศกาตาร์ ได้ประกาศยกเลิกวีซ่ากว่า 80 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งประเทศการ์ต้านอกจากจะเป็นประเทศหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก และเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลกแล้ว ยังเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งด้วย มีทั้งวัฒนธรรมเก่าแก่และความทันสมัย และที่นี่จะมีอะไรน่าสนใจ ตามมาดูเลยดีกว่า..
“กาตาร์” ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย
ประเทศนี้มีอะไรน่าเที่ยว!
ประเทศกาตาร์ หลายคนอาจจะแทบไม่เคยได้ยินหรือรู้จักประเทศนี้มากนัก เนื่องจากกาตาร์ไม่ได้เป็นประเทศท่องเที่ยว หรือมีแหลางท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะเท่าไหร่ บางคนรู้จักผ่านจากสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เป็นต้น แต่พอมองดีๆ แล้ว กาตาร์ก็เป็นประเทศที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และได้ฉายาว่า “ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย” ด้วย เนื้องจากเป็นประเทศเดียวในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่มีพื้นที่เป็นเกาะ
The Museum of Islamic Art
The Museum of Islamic Art จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 ภายใต้การดูแลของ Qatar Museum Authority เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานศิลปะของวัฒนธรรมอิสลาม อาทิ เอกสารทางประวัติศาสตร์ อัญมณี วัสดุเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ทำจากเหล็ก แก้ว ไม้ งาช้าง หิน สิ่งทอ เป็นต้น โดยรวบรวมจากประเทศต่าง ๆ ที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะจากอียิปต์ อิหร่าน อิรัก ตุรกี อินเดีย และประเทศในภูมิภาคเอเชียกลาง (ยกเว้นของกาตาร์ที่จะนำไปจัดแสดงที่ Qatar National Museum แทน) The Museum of Islamic Art มีทั้งหมด 5 ชั้น โดยนอกเหนือจากผลงานศิลปะที่มีการจัดแสดงเป็นการถาวรแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการชั่วคราวด้วย บริเวณรอบนอกพิพิธภัณฑ์ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นใจกลางเมืองของกรุงโดฮาซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการและอาคารสำนักงานต่าง ๆ ได้ทั้งหมด
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.mia.org.qa
Katara Cultural Village
หมู่บ้านวัฒนธรรม Katara เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกาตาร์ คำว่า Katara เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า กาตาร์ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่รวบรวมการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมที่สำคัญของกาตาร์และโลกอาหรับ ภายในหมู่บ้านประกอบด้วย โรงละครกลางแจ้งขนาดใหญ่ โรงดนตรีออร์เคสตรา สมาคมและชมรมศิลปะต่าง ๆ ร้านอาหารนานาชาติ ตลาดท้องถิ่นจำลอง และชายหาดสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ หมู่บ้านแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานและนิทรรศการทางศิลปะและวัฒนธรรมตลอดทั้งปี
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.katara.net
Al Zubara Fort หนึ่งในมรดกโลก
Al Zubara Fort เคยเป็นท่าเรือที่มีความเจริญรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยชาวประมง พ่อค้า และชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก แต่ต่อมา ได้ล่มสลายลงกลายเป็นเมืองใต้ทะเลทราย กระทั่งเมื่อปี 2552 ที่ Al Zubarah Fort ได้ถูกสำรวจโดยทีมนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ นำโดยสำนักงานพิพิธภัณฑ์ของกาตาร์
โดยการสำรวจทางโบราณคดี การวิจัย และการทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจารึกและทำความเข้าใจถึงยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำของ Al Zubarah Fort ตลอดจนบทบาทสำคัญของ Al Zubarah Fort ในการพัฒนาสู่ความเป็นอ่าวอาหรับที่มีความทันสมัยในอดีต ซึ่งต่อมาในปี 2556 UNESCO ได้บรรจุ Al Zubara Fort ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.qm.org.qa/en/project/al-zubarah
Souq Waqif
ตลาด Souq Waqif ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษมีความหมายว่า Standing Market เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกาตาร์ โดยแต่เดิมเป็นตลาดท้องถิ่นสำหรับชาวกาตาร์และผู้ที่อาศัยอยู่ในกาตาร์ได้มาจับจ่ายใช้สอยหลังพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งในขณะนั้นตลาดยังมีความเก่าแก่และค่อนข้างเสื่อมโทรม
จนกระทั่งในปี 2547 อดีตเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ได้รับสั่งให้ปรับปรุงสถานที่ให้มีกลิ่นอายความเป็นวัฒนธรรมกาตาร์และมีความสะอาดมากขึ้นเนื่องจากอยู่ติดกับพระราชวัง จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกาตาร์ ตลาดแห่งนี้ขายสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด อาทิ อาหาร น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องดนตรีพื้นเมือง อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน สัตว์เลี้ยง ภาพเขียน เรือ Dhow ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่นของกาตาร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ตลาดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหารจากประเทศอาหรับต่าง ๆ ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมมารับประทานอาหารรวมถึงการสูบยาสูบ Shisha ซึ่งเป็นยาสูบท้องถิ่นของชาวอาหรับอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.souq-waqif-doha.com/
Sheikh Faisal Bin Qassim Al Thani Museum
พิพิธภัณฑ์ Sheikh Faisal Bin Qassim Al Thani ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2541 ในป้อมปราการของชาวกาตาร์ที่ทุ่งนา Al Samriya ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกมีความโดดเด่นสวยงามเฉพาะตัว ป้อมปราการสร้างจากหินที่มีอยู่ในท้องถิ่นในรูปแบบดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสะท้อนความทันสมัยของกรุงโดฮาในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
พิพิธภัณฑ์ฯ ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่การดำรงรักษาและส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมศาสนาอิสลามของ Sheikh Faisal Bin Qassim Al Thani โดยใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์พิเศษที่เก็บรวมรวมโดย Sheikh Faisal Bin Qassim Al Thani เป็นการเฉพาะเพื่อให้ชาวกาตาร์และชาวต่างชาติได้มีโอกาสชื่นชม
พิพิธภัณฑ์ฯ ได้พัฒนาและขยายพื้นที่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ การทำวิจัย ตลอดจนมอบความบันเทิงแก่ผู้เข้าชม และด้วยความทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการเก็บรวบรวมสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่มีค่าระดับโลก ทำให้พิพิธภัณฑ์ฯ ได้รับเลือกโดยกระทรวงศิลปะ วัฒนธรรม และมรดกของกาตาร์ให้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของกาตาร์
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.fbqmuseum.org/
Aspire Zone
Aspire Zone หรือ Doha Sports City ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2.5 ตารางกิโลเมตร จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นปีที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ โดยวัตถุประสงค์สูงสุดของการจัดตั้งเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจุดมุ่งหมายของกาตาร์ที่ต้องการผลักดันให้กาตาร์มีความเป็นเลิศด้านกีฬาอย่างครบวงจร
โดยนอกจากจะมีพื้นที่ใช้สอยและอุปกรณ์สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาหลากหลายชนิดที่มีความทันสมัยแล้ว Aspire Zone ยังเป็นศูนย์การแพทย์กีฬา ศูนย์วิจัยด้านการกีฬา และโรงเรียนการกีฬาด้วย
ภายใน Aspire Zone ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน ได้แก่ (1) Khalifa International Stadium ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในสนามที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2565 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพ (2) Hamad Aquatic Center เป็นอาคารสระว่ายน้ำขนาดเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก และ (3) Aspire Dome ซึ่งเป็นศูนย์กีฬาในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.aspirezone.qa/
Imam Muhammad ibn Abd Al Wahhab Mosque
มัสยิด Imam Muhammad ibn Abd Al Wahhab เป็นมัสยิดประจำชาติกาตาร์ และเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกาตาร์ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2554 อยู่บนพื้นที่ 175,164 ตารางเมตร โดยภายในมัสยิดฯ สามารถจุคนได้จำนวน 12,200 คน และ 30,000 คนหากรวมพื้นที่โดยรอบมัสยิดฯ รูปแบบของมัสยิด Imam Muhammad ibn Abd Al Wahhab เป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมอาหรับร่วมสมัยซึ่งเป็น Landmark สำคัญของกาตาร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโดฮาในปัจจุบัน
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.tripadvisor.com/Attraction_Review-g294009-d386696-Reviews-State_Grand_Mosque-Doha.html
Richard Serra’s “East- West/ West- East” Installation
East- West/ West- East เป็นผลงานประติมากรรมของนาย Richard Serra ประติมากรชาวอเมริกัน ที่นำแผ่นเหล็กจำนวน 4 แผ่นใหญ่สูงกว่า 14.7 เมตรมาตั้งเป็นแถวยาวกว่า 1 กิโลเมตรอยู่กลางทะเลทราย Zekreet ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโดฮาออกไป 60 กิโลเมตร และแม้แผ่นเหล็กทั้งหมดจะตั้งกระจายออกไปกว่า 1 กิโลเมตร แต่ก็สามารถมองเห็นแผ่นเหล็กทั้ง 4 แผ่นจากแผ่นเหล็กสุดท้ายของแต่ละด้าน จากการผสมผสานของภูมิประเทศที่เป็นทะเลทรายกับศิลปะนามธรรมนี้เองที่ทำให้ East- West/ West- East กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญสำหรับผู้หลงใหลในศิลปะนามธรรม
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.qm.org.qa/en/project/east-west-west-east-richard-serra
ขอบคุณข้อมูลจาก : สถานอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา
ขอบคุณรูปภาพ : rongutierrezsantos.blogspot.com, TripAdvisor, EssayPlant.com, Fathom Away, traveloqatar.com, www.asergeev.com, American Women’s Association of Qatar, visitqatar.qa, GoExplore, www.asergeev.com