หุบเขาสีชมพู ภูลมโล ดินแดนซากุระเมืองไทย

หุบเขาสีชมพู ภูลมโล
ดินแดนซากุระเมืองไทย

อากาศหนาวเย็นแบบนี้ เลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวดินแดนสีชมพูของซากุระเมืองไทย กันที่ ภูลมโล จ.พิษณุโลก ซึ่งตอนนี้เริ่มทยอยผลิดอกรอเบ่งบานทั่วหุบเขา พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ค่ะ

ภูลมโล ตั้งอยู่ที่บ้านร่องกล้า ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ เลย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก เดิมเป็นพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลี ทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขาเผ่าม้ง ต่อมาทางอุทยานได้ทำข้อตกลงกับชาวม้งให้อาศัยอยู่และทำเกษตรกรรมในพื้นที่อุทยานได้ แต่ต้องปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไปด้วย จนถึงวันนี้ไร่กะหล่ำปีหายไป เหลือเพียงต้นพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสวยงาม บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

จุดสูงสุดอยู่บริเวณ “ยอดภูลมโล” มีความสูง 1,680 เมตร จากระดับน้ำทะเล อากาศจึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 5-20 องศา ซึ่งด้านบนนี้เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนได้กว้างไกล และตลอดทางขึ้นยอดภู ก็มีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยหวาน ประดับประดาอยู่เต็มสองฝากถนน เป็นมุมถ่ายรูปที่เพอร์เฟคมาก

นอกจากนี้ ยังมีแปลงพืชผักเมืองหนาวจำนวนมาก ที่ปลูกโดยชาวเขาเผ่าม้ง เช่น ต้นพลับ ต้นท้อ กะหล่ำปลี แครอท บล็อกโคลี่ สตอเบอรี่ เป็นต้น

ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อย ก็คือกิจกรรมแรลลี่ลงภู หรือการนั่งรถฟอร์มูล่าม้งขับลงเนิน และมีบริการโฮมสเตย์สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด

ใครที่จะเดินทางมาชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ภูลมโลนี้ แนะนำให้ใช้บริการเหมารถของเจ้าหน้าที่บริเวณด้านล่าง จะดีกว่า เนื่องจากถนนเป็นทางลูกรัง ชันและแคบ หากไม่ชำนาญเส้นทางอาจเกิดอุบัติเหตุได้

และควรวางแผนเที่ยวให้ดี เพราะดอกนางพญาเสือโคร่งจะเบ่งบานให้เราชมประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะร่วงโรยไป โดยหลักๆ จะมีให้ชม 3 แปลง ได้แก่ แปลงภูลมโล แปลงก้อนหินใหญ่และ แปลงภูขี้เถ้า แต่ละแปลงจะบานไม่พร้อมกัน คาดว่าจะบานไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์

ขอบคุณภาพจาก:  ภูลมโล,ซากุระเมืองไทย,นางพญาเสือโคร่ง,กกสะทอน

อัพเดท!! วันที่ 17 ธันวาคม ดอกนางพญาเสือโคร่ง เริ่มสลัดใบทิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ มีให้เห็นเป็นสีชมพูบ้างแล้ว

การเดินทาง มี 2 เส้นทาง

เส้นทางที่ 1: สามารถใช้เส้นทางจากจังหวัดพิษณุโลก ผ่านที่ทำการอุทยานภูหินร่องกล้า ไปยังหมู่บ้านร่องกล้า ระยะทางประมาณ 150 กม. หรือจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านไปทางภูทับเบิก อ.หล่มเก่า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 120 กม. และจากภูหินร่องกล้า-ยอดภูลมโล ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเส้นทางค่อนข้างสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเก๋งหรือกระบะขึ้นไปได้ หรือหากใช้บริการของอุทยานฯ  มีบริการรถนำเที่ยวชมภูลมโลทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-16.00 น. ค่าบริการคันละ 800 บาท นั่งได้ 10 คน แต่หากต้องการเข้าไปชมถึงภูขี้เถ้า ราคาคันละ 1,200 บาท

เส้นทางที่ 2: หรือจากจังหวัดเลย ไปทางอำเภอด่านซ้าย เข้าสู่หมู่บ้านกกสะทอน 110 กม.และจากที่ทำการตำบลกกสะทอน ผ่านบ้านตูบค้อ-ยอดภูลมโล ระยะทางประมาณ 27 กม. โดยจะคิดค่าบริการเหมารถคันละ 1,500 บาท สำหรับ 1-5 ท่าน และคันละ 2,000 บาท สำหรับ 6-10 ท่าน (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง) เนื่องจากเส้นทางค่อนทางลำบาก หากไม่ชินทางอาจเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ เพราะฉะนั้นหากนำรถไปเองควรระมัดระวังอย่างมาก

 

ลดถึงใจ 80%! เมื่อพักที่ ซี เอช โฮเทล เชียงใหม่ (C H Hotel) จ.เชียงใหม่

โปรโมชั่นฮอต ลด 80%! ประจำเดือนมกราคม 2561

ที่พักราคาพิเศษสุด ที่ ซี เอช โฮเทล เชียงใหม่ (C H Hotel) จ.เชียงใหม่

ราคาปกติ 3,500 บาท ลดเหลือ 799 บาท!!!

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Travel Guru เท่านั้น!

ซี เอช โฮเทล เชียงใหม่ (C H Hotel) จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เหมาะสำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย จากโรงแรมใช้เวลาเดินทางไปยังตลาดเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ชื่อดังเพียง 2 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ที่โรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไว้คอยบริการผู้เข้าพัก ไม่ว่าจะเป็น ห้องจัดประชุมสัมมนา ห้องจัดเลี้ยงหรืองานแต่งงาน ซึ่งรองรับได้ถึง 300 ที่นั่ง เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย และมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นมิตร

ข้อมูลห้องพัก
มีห้องพักทั้งหมด 120 ห้อง ได้แก่
ห้องซูพีเรียร์ (Superior Room) และ ห้องดีลักซ์ (Deluxe Room) โดยทุกห้องจะปูด้วยพรม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์สี สัญญาณดาวเทียม ห้องน้ำพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น และมินิบาร์

สถานที่ตั้ง
โรงแรม ซี เอช โฮเทล เชียงใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่เพียง 15 นาที และสามารถเดินเท้าไปเที่ยวที่ตลาดไนท์บาซาร์ ในเวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น

ห้องพักแบบ Superior

ห้องพักแบบ Deluxe

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

เงื่อนไข:

-ซี เอช โฮเทล เชียงใหม่ ห้องพักแบบ SUPERIOR ROOM (2 ท่าน) ไม่รวมอาหารเช้า 2 วัน 1 คืน จำนวน 1 ห้อง

-ราคาดังกล่าวรวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

-Check in 14.00 hrs and Check out 12.00 noon

-ระยะเวลาในการเข้าพัก ใช้เข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561

-ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ( Long Weekend) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ

-กรุณาสำรองห้องพักอย่างน้อย 14 วันทำการก่อนเข้าพัก

-กรุณาสำรองห้องพักได้ที่ 02-1007008 เท่านั้น

-โปรโมชั่นนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวัน ยกเลิก หรือ คืนเงินได้

-ท่านต้องเป็นสมาชิกทราเวล กูรู อย่างน้อย 90 วันขึ้นไป

รายละเอียดห้องพัก: http://www.hotelsthailand.com/thailand/chiang-mai/c-h-hotel.html

10 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง รับลมหนาว

หลายท่านคงจะเคยได้ยิน “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” กันมาบ้างแล้ว หรืออีกชื่อที่รู้จักกันก็คือ“ซากุระเมืองไทย” นั่นเอง ดอกนางพญาเสือโคร่ง มีสีชมพูสด เมื่อบานสะพรั่งเต็มต้น จะเป็นภาพที่สวยงามอย่างมาก และในประเทศไทยก็มีอยู่หลายที่ ความงดงามก็จะแตกต่างกันไป Travel.mthai.com จึงขอรวบรวม 10 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง รับลมหนาว มาให้ทุกท่านได้ชม เผื่อถูกใจที่ไหน จะได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกการไปท่องเที่ยวหน้าหนาวกัน

10 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง รับลมหนาว

  1. ขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานที่เที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งยอดฮิตของภาคเหนือ โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และดอยปุย ที่นี่มีที่พักคอยให้บริการ แต่ควรสอบถามล่วงหน้าก่อน ที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร 053-944053 หรือ 053-222014

*********************************************

  1. ขุนแม่ยะ จ.แม่ฮ่องสอน

ขุนแม่ยะ หรือเป็นที่รู้จักในนาม “หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ อยู่ในเส้นทางหลวง 1095 แม่มาลัย-ปาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 053-248491, 053-819349 หรือ ททท. เชียงใหม่ โทร. 053-2761640

*********************************************

  1. สถานีเกษตรหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่

เป็นโครงการหลวงที่มีความสำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ การเดินทางให้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 ราวหลักกิโลเมตรที่ 31 มีสามแยกตรงหมู่บ้านขุนกลาง จากนั้นเลี้ยวขวาไป 18 กิโลเมตร ก็จะถึงสถานีเกษตรหลวงขุนวาง ชมดอกซากุระให้เต็มอิ่ม หากต้องการที่พัก ที่นี่ก็มีบริการให้นักท่องเที่ยว สามารถติดต่อได้ที่ ติดต่อได้ที่ 053 114 133 , 081 960 2033

*********************************************

  1. สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จ.น่าน

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.นาน้อย จ.น่าน เลยจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ประมาณ 2 กิโลเมตร ภายในถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่ชมพูสะพรั่งเต็มไปหมด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน โทร. 081-6023199, 088-8055928, 090-0501049

*********************************************

  1. ดอยช้าง-ดอยวาวี จ.เชียงราย

ตั้งอยู่ใน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาผีปันน้ำด้านตะวันตก มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีการจัดภูมิทัศน์อย่างดีเยี่ยม พร้อมที่พัก ลานกางเต้นท์ และไฮไลท์สำคัญที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ กาแฟพันธุ์อาราบิก้า ที่โด่งดังในแบรนด์ “กาแฟดอยช้าง” ที่เราเห็นกัน โดยที่แห่งนี้ ยังขึ้นชื่ออีกว่าเป็นแหล่งปลูกต้นนางพยาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อบต.วาวี โทร. 0 5360 5950 หรือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงราย โทร. 0 5360 5941 , 0 5360 5955

*********************************************

  1. ดอยแม่ตะมาน จ.เชียงใหม่

ที่แห่งนี้ อาจไม่มีซากุระมากมายเหมือนที่อื่น แต่ด้วยพื้นหลังคือดอยหลวงเชียงดาว ทำให้ดอกไม้สีชมพูดูโดดเด่น และมีทัศนียภาพที่ชวนหลงใหลเป็นอย่างมาก นักเดินทางทั้งหลายไม่ควรพลาด ที่นี่มีจุดให้กางเต้นท์ แต่ต้องเตรียมทุกอย่างมาเอง ไม่มีให้เช่า สนใจติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 053 222 014

*********************************************

  1. ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย

ดอยแม่สลอง นอกจากจะเป้นแหล่งปลุกชาจีนที่ขึ้นชื่อในภาคเหนือแล้ว ยังมีดอกนางพญาเสือโคร่ง พันธุ์ที่เล็กที่สุด มีสีชมพูอมขาว บานสะพรั่งตลอดทางขึ้นดอย เป็นไม้ป่าที่หาชมได้ยากในเมืองไทย อยู่ในระหว่างช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อบต.แม่สลองนอก 0-5376-5129 หรือที่ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0-5371-7433, 0-5370-0051-2

*********************************************

  1. ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

ดอยอ่างขางมีลักษณะเป็นแอ่งที่ราบในหุบเขา ทำให้ดูเหมือนท้องกะทะหรืออ่างนั่นเอง แหล่งสำคัญของการมาเที่ยวดอยอ่างขาง นั่นคือการเข้าชมดอกไม้เมืองหนาวในโครงการหลวง พร้อมทั้งมีโรงเรือนไม้ในร่ม โรงเรือนกุหลาบ ป่าซากุระ ป่าเมเปิ้ล สวนบอนไซ ฯลฯ มาที่เดียว เที่ยวเต็มอิ่มแน่นอน ที่สำคัญมีที่พักให้บริการด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร. 053 450 107-9 ต่อ 114

*********************************************

  1. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อยู่บนเส้นทางเดียวกันกับขุนวาง ศูนย์แห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตื์ พระบรมราชินีนาถโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี เนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที นอกจากนี้ยังมีต้นนางพญาเสือโคร่ง บานชมพูสะพรั่งริมทะเลสาป เป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ เพราะมันสวยงามมาก สอบถามเพิ่มเติม โทร. 053-286728 , 053-286729

*********************************************

  1. ภูลมโล จ.เลย

ภูลมโล ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ เลย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ดอกพญาเสือโคร่งจะบานสะพรั่งในช่วงมกราคม หรือในบางปีที่ลมหนาวมาเยือนเร็ว ก็จะมีให้เห็นตั้งแต่ปลายปีเลยทีเดียว จองสถานที่กางเต็นท์ และสอบถามการเดินทางได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607 , ททท. จังหวัดเลย โทร. 0 4281 2812

เรียบเรียงโดย : Travel MThai

รูปภาพจาก : siamtravel.in.th, chillpainai.com, klongdigital.com, skyscanner.co.th,holidaythai.com, 
toptenthailand.com, gonorththailand.com, tourismthailand.org, creditonhand.com