เตรียมพบมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า “ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ครั้งที่ 3”

เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งกับมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า

“ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ครั้งที่ 3”

22 – 25 กุมภาพันธ์ ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า จังหวัดภูเก็ต

มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2561 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า จังหวัดภูเก็ต เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางกิจกรรมไลฟ์สไตล์ทางทะเลระดับสูงของเอเชีย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่บรรดาผู้นำอุตสาหกรรมและผู้บริโภคระดับสูงในธุรกิจซูเปอร์ยอชท์จากทั่วโลก

ภายในงานแถลงข่าว นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  และนายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ มร.แอนดี้ เทรดเวลล์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ให้เกียรติเข้าร่วมงานเพื่อแสดงจุดยืนในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจเรือยอชท์ของเอเชีย โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพของเมืองไทยในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวระดับหรูแห่งใหม่ของโลก โดยเน้นเป้าหมายที่กลุ่มนักแล่นเรือยอชท์ระดับไฮเอนด์ซึ่งมีอำนาจการใช้จ่ายสูง

งานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมธุรกิจการเช่าเรือซูเปอร์ยอชท์ การท่องเที่ยวด้วยเรือยอชท์ และกิจกรรมทางน้ำในเส้นทางเดินเรือใหม่ที่จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยงามที่สุดของโลก สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทางทะเลและกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ในเอเชีย ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการประสบการณ์ทางทะเลที่แปลกใหม่ ด้วยรูปแบบการจัดงานที่แตกต่างจากงานแสดงเรือยอชท์อื่น ๆ ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ มุ่งเน้นการนำเสนอประสบการณ์จริง  ให้ลูกค้าที่มีศักยภาพสามารถ “ทดลองและสัมผัส” ทั้งการทดลองแล่นเรือยอชท์ เรือสำราญ และร่วมสังสรรค์ในงานปาร์ตี้บนเรือยอชท์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ระดับหรูด้วยตัวเอง

งานครั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมืองไทยในการเป็นศูนย์กลางการแล่นเรือยอชท์และการท่องเที่ยวระดับหรูของโลก ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้โดยตรง รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ของภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจของประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการสร้างงานและการยกระดับสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวระดับหรู รวมไปถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ระดับเฟิร์สคลาสในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น กล่าวได้ว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวทุกภาคส่วนของประเทศจะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจและผลกระทบเชิงบวกทั้งสิ้น

มร. แอนดี้ เทรดเวลล์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ กล่าวว่า “จุดประสงค์การจัดงานของเราคือการส่งเสริมให้ภูเก็ตและประเทศไทยเป็นนครหลวงแห่งการแล่นเรือยอชท์ของเอเชีย และเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของซูเปอร์ยอชท์กว่า 5,000 ลำจากทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงฤดูร้อน โดยแนวชายฝั่งทะเลที่สวยงาม ภูมิประเทศที่น่าตื่นตา ภูมิอากาศที่ดีเยี่ยมตลอดปี และมาตรฐานการต้อนรับนักท่องเที่ยวชั้นเลิศของเมืองไทย ล้วนสร้างความประทับให้แก่ผู้มาเยือนทั่วโลก รวมไปถึงสาธารณูปโภคพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก ท่าจอดเรือ และบริการต่าง ๆ ที่สามารถรองรับเรือระดับซูเปอร์ยอชท์ได้อย่างต่ำ 120 ลำ ทำให้เมืองไทยเป็นจุดจอดเรือที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านสำหรับนักท่องเที่ยวทางทะเลอย่างแท้จริง”

ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาลไทย ทีมงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ได้จัดทำแคมเปญการตลาดในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกเพื่อดึงดูดเจ้าของเรือยอชท์ รวมถึงผู้เช่าและผู้ซื้อเรือยอช์ทที่มีศักยภาพให้มาสัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ทางทะเลของเมืองไทยเป็นครั้งแรก แม้ในปัจจุบันยังคงมีข้อติดขัดบางประการในเรื่องภาษีและการตรวจคนเข้าเมือง หาก มร.เทรดเวลล์ เชื่อมั่นว่า ด้วยท่าทีที่กระตือรือร้นและให้ความสนใจอย่างมากจากรัฐบาลไทยจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาในการดึงดูดเรือซูเปอร์ยอชท์ขนาดใหญ่ของโลกเข้าสู่เมืองไทยและภูมิภาคเอเชีย เพื่อก่อให้เกิดการใช้จ่ายนับล้านดอลลาร์ในหมู่นักท่องเที่ยวทางทะเลระดับไฮเอนด์เหล่านี้

นอกจากนี้ พลังงานหมุนเวียนและการพัฒนาในด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ “ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในการพัฒนาการขนส่งและอุตสาหกรรมเรือรวมทั้งยานยนต์แบบยั่งยืน กำลังสร้างคลื่นลูกใหม่ของผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำลังเป็นกระแสและเทรนด์สำคัญกำลังเกิดขึ้น และเรากำลังจะนำเทรนด์เหล่านี้มาสู่งานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์” มร.เทรดเวลล์กล่าว

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และทอร์คีโด เอเชีย-แปซิฟิค (Torqeedo Asia-Pacific) จะนำเทคโนโลยีล่าสุดมาจัดแสดงในงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ครั้งนี้  ได้แก่ BMW i8, BMW i3 และ BMW iPerformance  (รุ่น 740Le, 530e, X5 xDrive40e  และ 330e) ในส่วนของนวัตกรรมยานยนต์ และ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Full Torqeedo ในส่วนของนวัตกรรมเรือ เดวิด ฮันเตอร์ กรรมการผู้จัดการ ทอร์คีโด เอเชีย-แปซิฟิค กล่าวว่า “นวัตกรรมที่เรานำมาจัดแสดงในงานนี้ ตอกย้ำวัตถุประสงค์และธีมงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ปีนี้ นั่นคือ การเคลื่อนที่แบบยั่งยืน “Sustainable Mobility” ซึ่งเรายินดีอย่างยิ่งกับความก้าวหน้าและโครงการซึ่งมีพันธมิตรอย่าง TAT ในการช่วยสนับสนุนให้เกิดการขนส่งทางทะเลแบบสะอาดและยั่งยืน”

“บีเอ็มดับเบิลยู ไอ (BMW i) มุ่งมั่นผลักดันนวัตกรรมแห่งความยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีเพื่ออนาคตและแนวทางการดำเนินงานแบบบูรณาการ และในวันนี้ นวัตกรรมแบตเตอรี่กำลังไฟแรงสูงซึ่งพัฒนาสำหรับรถยนต์รุ่น i3 ไม่เพียงมอบพลังงานที่ปราศจากการปล่อยไอเสียเพื่อการขับเคลื่อนบนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขับเคลื่อนทางน้ำอีกด้วย โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป คือผู้จัดหาแบตเตอรี่ลิเธียมให้แก่ทอร์คีโด ซึ่งผู้ผลิตระบบการขับเคลื่องทางทะเลได้นำไปใช้เพื่อการเก็บพลังงานในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ Deep Blue ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง” มร. ลาร์ส นีลเซน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าวเสริม

ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ประจำปี 2561

ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ประจำปี 2561 เป็นการจัดงานปีที่ 3 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 25 กุมภาพันธ์ 2561 ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า จังหวัดภูเก็ต

การจัดงานครั้งที่ 3 ในปีนี้จะมีการเปิดตัวเรือยอชท์และแบรนด์สินค้าระดับลักชัวรี่ของเอเชียมากมาย นับตั้งแต่เรือซูเปอร์ยอชท์ที่สวยงามไปจนถึงการเปิดตัวเรือรุ่นล่าสุด ผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะได้รับชมและทดลองแล่นเรือใบและเรือยอชท์จากผู้แทนและผู้จัดจำหน่ายเรือชั้นนำจากนานาประเทศ

นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้ร่วมชมการแสดงอันน่าตื่นเต้น สนุกสนานกับงานปาร์ตี้และงานสังสรรค์ครั้งสำคัญท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามของอ่าวพังงา รวมไปถึงงานเลี้ยงระดับวีไอพีบนเรือยอชท์และคลับลอยน้ำยามราตรี โดยโซน Demonstration Platform จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ พร้อมเชิญชวนเหล่าผู้กล้าให้มาร่วมทดสอบของเล่นและอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ที่จะทำให้การแล่นเรือยอชท์เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำอีกหลากรูปแบบภายในงาน

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล์ info@thailandyachtshow.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์www.thailandyachtshow.com

 

ชวนไปชิลธรรมชาติเมืองเก่า ทุ่งดอกดาวเรือง บ้านปากแคว จ.สุโขทัย

ชวนไปชิลธรรมชาติเมืองเก่า
ทุ่งดอกดาวเรือง บ้านปากแคว จ.สุโขทัย

กำลังบานเหลืองอร่าม รับลมหนาวปีจอเลยทีเดียว สำหรับ ทุ่งดอกดาวเรือง บ้านปากแคว สีสันของการเที่ยวสุโขทัย ในเดือนแห่งความรักนี้ ถ้าใครมีแพลนมาเที่ยวเมืองมรดกโลกอยู่ล่ะก็ ต้องตามมาเก็บภาพให้ได้นะคะ

ทุ่งดอกดาวเรือง บ้านปากแคว เป็นพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร บนพื้นที่กว้างไกลกว่า 100 ไร่ ริมถนนหมายเลข 1195 เส้นทางไปสนามบินสุโขทัย โดยชาวบ้านจะเริ่มปลูกกันในเดือนพฤศจิกายน และจะออกดอกสีเหลืองเต็มทุ่งประมาณเดือนมกราคม หลังจากนั้นชาวบ้านจะตัดดอกออกขายยาวไปถึงเดือนเมษายน เพื่อนำส่งปากคลองตลาด

ดังนั้นหากเพื่อนๆ มาเที่ยวชมทุ่งดอกดาวเรืองในตอนเช้า ช่วงที่แสงแดดทอแสงอ่อนๆ นอกจากจะได้ภาพที่สวยงามมากๆ แล้ว ยังได้พบเห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่กำลังเก็บดอกดาวเรืองไปขายด้วย

ช่วงเวลาที่แนะนำให้มาเที่ยวคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนมีนาคม เพราะเป็นช่วงที่ดอกบานสวยที่สุด โดยเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวเดินตามร่องแปลงปลูกอย่างระมัดระวัง ไม่เหยียบย่ำ เด็ด ดึง ดอกดาวเรืองที่ชาวบ้านปลูกไว้

พิกัด: จากสามแยกปีกไม้ ตัวเมืองสุโขทัย เลี้ยวซ้าย เส้นไปศรีสำโรง ขับเลยร้าน Cafe De Tree ไปประมาณ 300 เมตร ทุ่งดาวเรืองจะอยู่ทางขวามือ

ขอบคุณรูปภาพจาก : TAT Sukhothai fanpage, สวนดาวเรือง บ้านปากแคว สุโขทัย

อุวะจิมะ (Uwajima) อาหารญี่ปุ่นที่ อิมแพ็ค เลค ฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี)

วันนี้ จะพาสมาชิก MThai ไปชิมอาหารญี่ปุ่น ริมทะเลสาบ ใจกลางเมืองทองธานี ซึ่งร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านในเครือ Impact ที่เปิดใหม่ในแนวญี่ปุ่นแท้ๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นจริงๆ ร้านนี้มีชื่อว่า “ร้านอุวะจิมะ (Uwajima)”

ร้าน อุวะจิมะ ตั้งอยู่ที่ อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบทานง่าย โดดเด่นด้วยความหลากหลายเมนู เอาใจคนรักอาหารทะเลในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งลูกค้าจะได้ชิมซาซิมิของทะเลสดใหม่ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เนื้อแน่นเต็มคำ พร้อมทั้งได้บรรยากาศริมทะเลสาบเมืองทองธานีอีกด้วย

เมนูแนะนำ

ปูขนหม้อไฟสไปซี่ 799.- เป็นปูขนนำเข้าจากญี่ปุ่น บวกกับเครื่องปรุงรสจัดจ้านแบบไทยๆ รสชาติถูกใจคนไทยยิ่งนักเมนูนี้ ต้องสั่งเลย อร่อยเข้มข้นถึงใจ

อุวะจิมะ บานญ่า คาวด้า 279.- เป็นชุดสลัด ผักสดๆ บนน้ำแข็ง ได้ความกรอบอร่อยของผัก ที่มีรสชาติกรุปกรอบ พร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษของอุวะจิมะ อร่อยได้สุขภาพดีด้วย

ซูชิเรนโบว์ 599.- ชุดซูชิหลากหลาย ทั้งปลาแซลม่อน ไข่ปลาแซลม่อน ปลาหมึก หลายหน้าคำโตๆ วางเรียงเป็นชั้นๆ สวยงาม อร่อยแบบเต็มๆ คำ

กุ้งกุลาดำย่างชีส 329.- เป็นกุ้งกุลาดำตัวใหญ่ๆ นำไปย่างชีส หอมกรุ่น ต้องทานร้อนๆ จะได้ความเหนียวนุ่มของชีสผสมกับเนื้อกุ้งอร่อยเข้ากันอย่างลงตัว พร้อมน้ำจิ้ม 2 อย่าง เลือกได้ตามใจ

ซี่โครงหมูย่างซอสมิโสะ ชุดเล็ก 499.- ชุดใหญ่ 799.- เป็นซี่โครงหมูย่างที่รสชาตินุ่ม หอม อร่อย ละมุนลิ้น พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด สูตรเฉพาะของอุวะจิมะ อร่อยลงตัว

 

ชุดของหวานปลาไทยากิ Amadai  120.- ของหวานสไตล์ญี่ปุ่นให้บรรยากาศแบบทะเล มีตัวแป้งขนมรูปปลา พร้อมดังโงะหรือโมจิ ซอฟท์ครีมและถั่วแดงเย็น ราดซอสคุโรมิสึ หอมหวานทานเข้าคู่กันดี

ข้อมูลของร้านอุวะจิมะ

ที่ตั้ง : อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี)

เวลาให้บริการ : จันทร์ – ศุกร์ 16.00 – 24.00, เสาร์ – อาทิตย์ 12.00 – 24.00 น.
จำนวนที่นั่ง : 30 คน
Tel. 02-033-1853
Facebook : Uwajima Email : uwajima@impact.co.th