เที่ยวรถไฟสุดหรู กรุงเทพ-สิงคโปร์ กับ Eastern & Oriental Express

เที่ยวรถไฟสุดหรู กรุงเทพ-สิงคโปร์ กับ
Eastern & Oriental Express

ถ้าหากว่าเพื่อนๆ กำลังจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และหากว่าเพื่อนๆ มีเงินทองเหลือเฟือ พร้อมกับชีวิตที่ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบแล้วละก็ ผมขอนำเสนอ Eastern & Oriental Express รถไฟไทยสุดหรู กรุงเทพ – สิงคโปร์

Eastern & Oriental Express เป็นรถไฟสุดหรู กรุงเทพ – สิงคโปร์ โดยมีความยาวทั้งขบวนถึง 500 เมตร ประกอบโดยตู้โบกี้โดยสารทั้งหมด 22 ตู้ครับ

โดยขบวนจะออกจากสถานีหัวลำโพง ไปสถานีกาญจนบุรีก่อนแล้วลงใต้ไปประเทศมาเลเซีย สิ้นสุดปลายทางที่สถานีสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ ร่วมระยะทาง 2,318 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 วัน 3 คืน

ห้องพักใน Eastern & Oriental Express แห่งนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. ห้องPullmanค่าใช่จ่าย 73,000 บาทต่อท่าน
    2. ห้อง Stateค่าใช่จ่าย 100,000 บาทต่อท่าน
    3. ห้อง Presidential ค่าใช่จ่าย 140,000 บาทต่อท่าน

โดยค่าจ่ายจะร่วมในคอร์ดอาหารแต่ละมื้อและในแต่ละเที่ยวของการเดินทาง ซึ่งแต่ละห้องจะมีพนักงานดูแล อย่างดี ไม่ต่างกับโรงแรมระดับ 5 ดาวเลยครับ

นอกจากนี้ ภายในตู้โดยสารก็จะมีจุดชมวิว ซึ่งอยู่ท้ายขบวน และมีห้องอาหาร ห้องนั้งเล่น ห้องดนตรี ห้องสมุด บาร์เปียโน โรงภาพยนตร์ ห้องฟิตเนส ห้องสปา และอื่นๆอีกมากมาย

เอาเป็นว่าใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การขึ้นรถไฟไทยแบบสุดหรูแล้วละ ก็ Eastern & Oriental Express ก็คงจะเป็นตัวเลือกเดียวในตอนนี้ ใครที่เคยขึ้นมาแล้วก็อย่าลืมแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆฟังด้วยหล่ะ

ข้อมูลและภาพ : board.postjung.com / wegointer.com

ทำความรู้จักกับ ‘คลื่นสเลอปี้’ เกลียวคลื่นเกล็ดน้ำแข็งทางชายฝั่งของสหรัฐฯ

‘คลื่นสเลอปี้’ เกลียวคลื่นเกล็ดน้ำแข็ง
ทางชายฝั่งของสหรัฐฯ

ขณะที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญกับความหนาวเย็นยะเยือกเป็นประวัติการณ์ จนเกิดพายุหิมะตกหนัก หรืออย่างที่นักอุตุนิยมวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ระเบิดพายุไซโคลน” (bomb cyclone) ก็ได้มีอีกหนึ่งปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกเกิดขึ้นเช่นกัน

เรียกว่าปรากฏการณ์ คลื่นสเลอปี้ (slurpee waves) เกิดจากการที่อุณหภูมิลดต่ำลงมากจนติดลบ เย็นขนาดที่น้ำทะเลจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แต่ยังไม่แข็งพอที่จะก่อตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง จึงเป็นสาเหตุให้คลื่นที่กำลังม้วนตัวพาชั้นโคลนใต้ทะเลโถมเข้าชายฝั่ง มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับ สเลอปี้ นั่นเอง

คุณ Jonathan Nimerfroh ช่างภาพผู้คลั่งไคล้การเล่นเซิร์ฟและหลงไหลเกลียวคลื่น ได้ถ่ายภาพเหตุการณ์นี้ได้เมื่อวันที่ 3-4 มกราคม ที่ผ่านมา จากปรากฏการณ์พายุฤดูหนาว Grayson ที่หาด Nobadeer ซึ่งเป็นจุดโต้คลื่นของเกาะ Nantucket รัฐแมสซาชูเซต ประเทศสหรัฐอเมริกา

เขาโพสภาพ คลื่นสเลอปี้ ลงในอินสตาแกรม jdnphotography พร้อมระบุว่า ตอนที่เขาจับภาพได้ อุณหภูมิของมหาสมุทรอยู่ที่ 12 องศาฟาเรนไฮต์ (ลบ 11 องศาเซลเซียส) ซึ่งต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของน้ำเค็ม 28.4 องศาฟาเรนไฮต์ (ลบ 2 องศาเซลเซียส) ซะอีก

Source: Designyoutrust, catdumb, KIITDOO

 

นักท่องเที่ยวรู้ไว้!! หลวงพระบาง จัดระเบียบใหม่ ห้ามใส่บาตร ขนมต่างชาติทุกชนิด

หลวงพระบาง จัดระเบียบใหม่
ห้ามใส่บาตร ขนมต่างชาติทุกชนิด

หลวงพระบาง เริ่มได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยจากภาพยนตร์เรื่อง สบายดีหลวงพระบาง เป็นเมืองเงียบสงบ ใครๆ ก็อยากมาสโลไลฟ์ เสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองนี้คือยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิม ไว้อย่างดีเสมอมา

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน หลวงพระบาง เช่น พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง, น้ำตกตาดกวางสี, พระธาตุพูสี, ตลาดมืด (ตลาดนัดกลางคืน) และ Highlight สำคัญ ที่หากไม่ทำถือว่ามาไม่ถึง คือร่วมประเพณีตักบาตรข้าวเหนียวในตอนเช้าตรู่ ซึ่งพระและเณรจะเริ่มออกบิณฑบาตประมาณ 6 โมงเช้า

ล่าสุดเว็บไซต์ Laopost ระบุว่า กรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวหลวงพระบาง ประกาศจัดระเบียบใหม่เกี่ยวกับของที่นำมาใส่บาตร โดยมีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้

  1. ห้ามพ่อค้าแม่ค้านำขนมสำเร็จรูปของต่างประเทศทุกชนิด มาขายให้นักท่องเที่ยวเพื่อเอาไปใส่บาตร อนุญาติเฉพาะขนมพื้นเมือง ที่ผลิตและปรุงแต่งในประเทศลาวเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีความสะอาดและไม่เน่าเสีย
  2. ห้ามขายข้าวหลามให้นักท่องเที่ยวเพื่อนำไปใส่บาตรเด็ดขาด
  3. ห้ามนำข้าวเหนียวค้างคืน หรือข้าวเหนียวเก่ามาอุ่นร้อนขายเด็ดขาด ต้องเป็นข้าวนึ่งสุกใหม่เท่านั้น ให้ขายตามน้ำหนักและราคาที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง คือ 1 กก. = 10,000 กีบ, 1.5 กก. = 15,000 กีบ และ 2 กก. 20,000 กีบ

Source: Laopost