เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา สีสันแห่งพงไพร ราชินีผืนป่าตะวันออก

เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา สีสันแห่งพงไพร
ราชินีผืนป่าตะวันออก

เริ่มแล้ววันนี้ เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา ครั้งที่ 14 ภายในอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2561

ช่วงปลายฤดูร้อน เข้าสู่ต้นฤดูฝน ฝูงผีเสื้อนับแสนตัว กว่า 400 สายพันธ์ุ เริ่มบินอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้เห็นตามผืนป่าต่างๆ เช่นเดียวกับ อุทยานแห่งชาติปางสีดา ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและระบบนิเวศที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี

อุทยานฯ แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น ดินแดนผีเสื้อของผืนป่าตะวันออกของประเทศไทย จากองค์กรยูเนสโก ภายใต้ชื่อ “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่” เมื่อเข้าสู่ Green Season ฝนตกชุ่มชื้นมากขึ้น ผีเสื้อจะกระจายไปเกาะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ และในตอนเช้าที่มีแสงแดด จะมีผีเสื้อออกมาจำนวนมาก ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมคือ 09.00 -14. 00 น. โดยสามารถดูได้ 12 จุด แต่ที่นิยมมากที่สุดมี 3 จุด ได้แก่

  1. ลานน้ำตกปางสีดา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 800 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 10 เมตร มีแอ่งน้ำกว้างใหญ่สามารถเล่นน้ำได้ และลานหินที่เต็มไปด้วยเหล่าเสื้อบินอวดโฉมให้ดูเพลินตา
  2. โป่งผีเสื้อ สามารถขับรถขึ้นไปได้เลย ห่างจากน้ำตกปางสีดาไปอีก 200 เมตร จะเห็นผีเสื้อนานาพันธุ์บินต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
  3. ลานหินดาด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 25 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างลำบาก แต่เป็นจุดที่สวยงามเต็มไปด้วยผีเสื้อหลายร้อยชนิด บินอวดสีสันให้นักท่องเที่ยวชม การเดินทางต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าและต้องเหมารถโฟร์วิล (4WD) ของเจ้าหน้าที่ ราคาอยู่ที่ 1,000 บาท

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานฯ โทร.081-862-1511, 092-275-3969 หรือ ททท.สำนักงานนครนายก (ดูแลพื้นที่นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284

ค่าเข้าอุทยาน : 40 บาท

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง, อุทยานแห่งชาติปางสีดา – Pangsida National Park

 

รับส่วนลด 500 บาท! วาลาตา เขาใหญ่ รีสอร์ท (Valata Khaoyai Resort) เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 

วาลาตา เขาใหญ่ รีสอร์ท (Valata Khaoyai Resort) เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 

มอบส่วนลดทันที 500 บาท เมื่อจองโรงแรมนี้

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Travel Guru เท่านั้น!

วาลาตา เขาใหญ่ รีสอร์ท (Valata Khaoyai Resort) เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา รีสอร์ทสไตล์วินเทจที่มีบรรยากาศล้อมลอบไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นที่มาของชื่อรีสอร์ท “วาลาตา” ซึ่งเป็นตำเลี่ยนเสียงภาษาอิตาเลียนที่หมายถึงภูเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่านนั้นเอง

ที่วาลาตา เขาใหญ่ รีสอร์ท มีห้องพักให้คุณเลือกสรรจำนวน 15 ห้อง ในแต่ละห้องประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ทั้ง Wi-Fi ฟรี แม่บ้าน ที่จอดรถ รูมเซอร์วิส นอกจากนั้นยังมีมุมให้ผ่อนคลาย เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้ง สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ร้านอาหาร เส้นทางวิ่งและทางจักรยาน อีกทั้งยังได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารหระต่าย กวาง และเป็น ที่วิ่งเล่นอยู่ในบริเวณรีสอร์ทอีกด้วย

วาลาตา เขาใหญ่ รีสอร์ท ตกแต่งด้วยความใส่ใจในทุกๆรายละเอียด เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนทั้งแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคนที่คุณรัก อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานเขาใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวมากมาย คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปที่ต่างๆได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นรีสอร์ทนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีให้สำหรับคุณ

ห้องพักแบบ Standard

ห้องพักแบบ Superior

ห้องพักแบบ Deluxe Suite

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

เงื่อนไข:

-ห้องพักทุกประเภท 2 วัน 1 คืน จำนวน 1 ห้อง

-รับส่วนลด 500 บาท เมื่อมียอดชำระค่าห้องพักตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก Travel Guru เท่านั้น

-ราคาดังกล่าวรวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

-Check in 14.00 hrs and Check out 12.00 noon

-ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง (Long Weekend) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ

-กรุณาสำรองห้องพักอย่างน้อย 7 วันทำการก่อนเข้าพัก

-กรุณาสำรองห้องพักได้ที่ 02-100-7008 เท่านั้น

-ไม่สามาถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นๆหรือแลกเป็นเงินสดได้

-กรณีเลื่อนวันหรือยกเลิกการเดินทางต้องแจ้งก่อนการเดินทางอย่างน้อย 14 วันทำการ และ สามารถเลื่อนได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น

-หากของรางวัลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทจะหาของรางวัลที่มูลค่ามากกว่าหรือเทียบเท่ามาชดเชยให้

ระยะเวลา: วันนี้ – 31 ก.ค. 61

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.hotelsthailand.com/thailand/khao-yai/valata-khaoyai-resort.html

 

 

 

 

 

 

10 ที่เที่ยว เดือนพฤษภาคม ส่งท้ายหน้าร้อน รับไอฝนสุดสดชื่น

10 ที่เที่ยว เดือนพฤษภาคม
ส่งท้ายหน้าร้อน รับไอฝนสุดสดชื่น

เผลอแป๊ปเดียว วันเวลาก็เวียนมาถึงเดือนที่ 5 ของปีซะแล้ว ใครที่รู้สึกว่ายังเที่ยวปีใหม่ สงกรานต์ ไม่หนำใจเลย งั้นเราไปลุยกันต่อ กับ 10 ที่เที่ยว เดือนพฤษภาคม มาส่งท้ายหน้าร้อน และรอรับไอฝนสุดสดชื่นกัน จะมีแหล่งท่องเที่ยวไหนโดนใจเพื่อนๆ หรือยังไม่เคยไปกันบ้าง หรือเปล่านะ

  1. อุทยานธรณีสตูล จ.สตูล

เพิ่งได้รับการประกาศจาก UNESCO เป็นอุทยานธรณีโลก ไปหมาดๆ สำหรับ อุทยานธรณีสตูล ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแนวผจญภัย เช่น ล่องแก่ง ดำน้ำ เที่ยวถ้ำ การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่น้ำตก ชายหาด รวมถึงเลือกซื้อของฝากผลิตภัณฑ์ชุมชน และสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น

***********************************************************

  1. โลมาสีชมพู หาดขนอมจ.นครศรีธรรมราช

ขอบคุณรูปภาพจาก : เที่ยวขนอม ชมปลาโลมาสีชมพู สักการะหลวงปู่ทวด

ชม “ฝูงโลมา” ที่จะสามัคคีชุมนุมกันกลาง “เกาะผี” ที่มีลักษณะเป็นร่องน้ำลึกทางช่องรูเล็ต จุดเหนือสุดของทะเลขนอม โลมาชมพูที่ หาดขนอม ถือว่าชุมเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่ว่าบางส่วนว่ายหลงไปไกลถึงแหลมสมิหลาก็เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ถ้าโชคดีหน่อยสำหรับคนมีเวลาตั้งใจเฝ้า ก็อาจจะเจอโลมาปากขวด และโลมาอิรวดีกระโดดเริงร่าขึ้นมาทักทายด้วย

***********************************************************

  1. เทศกาลบุฟเฟ่ต์ผลไม้ จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี

เริ่มต้นแล้ว กับ เทศกาลผลไม้ แห่งภาคตะวันออก ทั้งจังหวัดระยองและจันทบุรี ซึ่งมีมากมายหลายสวน ให้คุณเลือกลิ้มลองกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นราชาผลไม้อย่างทุเรียน หรือราชินีอย่างมังคุด รวมถึง เงาะ ลองกอง ลางสาด สละ ระกำ สับปะรด แก้วมังกร องุ่น ลำไย ฯลฯ

***********************************************************

  1. ฤดูชมผีเสื้อ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ขอบคุณรูปภาพจาก : iamnikon-iamnikon

เทศกาลดูผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จะเริ่มตั้งแต่ กลางเดือนเม.ย.- มิ.ย. ของทุกปี เมื่ออากาศร้อนจัด และแหล่งน้ำเริ่มแห้งเหือด บรรดาเหล่าผีเสื้อนานาชนิด จะพากันมาหากินเกลือตามดินโป่ง หรือแหล่งน้ำแฉะๆ มากมาย จนบางครั้งก็อาจพบการอพยพของฝูงผีเสื้อ นับแสนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งจุดชมผีเสื้อของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่สามารถพบเห็นฝูงผีเสื้อที่บินไป มานับพันตัวได้ คือ แคมป์บ้านกร่าง ซึ่งที่นี่เป็นจุดศูนย์รวมของผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ กว่า 200 ชนิด

***********************************************************

  1. เกาะเต่า-เกาะนางยวน จ.สุราษฎ์ธานี

“เกาะเต่า” และ “เกาะนางยวน” 2 เกาะกลางท้องทะเลอ่าวไทย ที่ธรรมชาติได้บรรจงแต่งให้มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีคราม ใส ตามระยะความลึก และยังอุดมไปด้วยธรรมชาติทางทะเลที่ดึงดูดนักดำน้ำจากทั่วโลกให้มาดำดิ่ง ดูปะการังและฝูงปลาหลากสีสัน นากจากนั้น การได้ปีนเขาชมวิวจากมุมสูง มองเห็นหาดทรายขาวโพลนตัดกับน้ำทะเลสีมรกตเชื่อมเกาะทั้งสามบนเกาะนางยวน ยิ่งยืนยันว่า ที่นี่ไม่ใช่สวรรค์ของนักดำน้ำเท่านั้นเสียแล้ว

***********************************************************

  1. จุดชมวิวเขาแดง
    อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด

จุดชมวิวเขาแดง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาสามร้อยยอดและท้องทะเลอ่าวไทยแบบ 360 องศา ยิ่งถ้าขึ้นไปช่วงเช้าหรือเย็น ๆ จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่การขึ้นไปพิชิตจุดชมวิว ต้องอาศัยความอดทนพอควร เพราะทางเต็มไปด้วยเนินโขดหินสลับซับซ้อนที่มีความแหลมคม ควรเดินอย่างระมัดระวัง

***********************************************************

  1. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก

ขอบคุณรูปภาพจาก : เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน

เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ตั้งอยู่ที่ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เป็นอ่างเก็บน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่พัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีซุ้มไม้ไผ่ แคร่ ไว้นั่งห้อยขาแช่น้ำเย็นๆ มีแพเล่นน้ำ พร้อมห่วงยางให้เช่า และร้านอาหารตั้งเรียงรายคลายหิว ส่วนใครอยากช้อปปิ้ง ก็มีเสื้อผ้าสวยๆ ให้เลือกซื้อมากมาย โดยจะเปิดน้ำเข้าเขื่อนและให้เข้ามาเที่ยวได้เพียง 3 เดือน สำหรับปีนี้เปิดถึง 31 พค. 61 เท่านั้น

***********************************************************

  1. ประเพณีบุญบั้งไฟ จ.ยโสธร

ภาพจาก : amazingthailand

วันที่ 9-13 พฤษภาคม 2561 พบกับ งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย นั่นคือ ประเพณีบุญบั้งไฟ จ.ยโสธร ที่จัดขึ้นสืบทอดต่อกันมา เพื่อเป็นการบูชา บวงสรวง ‘พญาแถน’ เทพเจ้าแห่งฝนของชาวอีสาน ให้ปล่อยฝนตกลงมา เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการทำเกษตรกรรม โดยขบวนแห่บั้งไฟจะมีไปตลอดแนวถนนแจ้งสนิท เขตเทศบาลเมืองยโสธร จนถึงลานวิมานพญาแถน (อาคารพญาคันคาก) และสวนสาธารณะพญาแถน

ขอบคุณรูปภาพจาก : คนยโสธร

***********************************************************

  1. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

ขอบคุณรูปภาพจาก : thailandscanme

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ขึ้นชือว่าเป็นอุทยานที่สวยที่สุดของของจังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ สามารถมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น จุดชมทิวทัศน์ถ้ำผาหงษ์ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในมีช่องหลืบแคบๆ ซับซ้อน มีหินงอกหินย้อยสวยงาม เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวหลายชนิด และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก หากใครอยากชมภาพดวงอาทิตย์ขึ้น ก็ต้องมาที่ จุดชมทิวทัศน์ภูค้อ สามารถมองเห็นผืนป่าสวนสนภูกุ่มข้าวสลับกับป่าดงดิบ โดยมีฉากหลังเป็นภูกระดึงและภูผาจิต และสำหรับใครที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ขอแนะนำเส้นทาง สวนสนบ้านแปก ซึ่งในเดือน กุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะเป็นช่วงที่กล้วยไม้ป่าและพันธุ์ไม้หลายชนิดออกดอกพอดี

***********************************************************

  1. หนองน้ำครก บ้านม่วงตึ๊ด จ.น่าน

ความจริงแล้ว หนองน้ำครก สามารถมาเที่ยวได้ทุกเดือน เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัดน่าน ในหมู่บ้านม่วงตึ๊ด เดิมเป็นป่าไมยราบรกร้าง และมีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นบึงน้ำเก่า ก่อนที่ อพท. (องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) จะเข้ามาสนับสนุนให้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน ไฮไลท์ก็คือ สะพานไม้ไผ่ หรือ ขัวแตะ ที่สร้างยื่นยาวออกไปกลางบึง เชื่อมระหว่างพื้นที่บนเกาะ 5 เกาะ และแต่ละเกาะจะมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น พร้อมศาลาริมน้ำไว้นั่งพักเหนื่อย

จะไปดำน้ำดูปะการัง ลงแช่น้ำจืด ชมวิวบนผา ลอดถ้ำผจญภัย เที่ยวงานประเพณี แล้วตะลุยกินผลไม้ เราก็จัดสรรมาให้เลือกครบหมด แม้ฝนอาจตกเฉอะแฉะไปบ้าง แต่ธรรมชาติหน้าฝนนี่แหละ ที่สดชื่นที่สุดเลย