เกาะขาม สัตหีบ เที่ยววันธรรมดาได้แล้วนะ ไม่ง้อวันหยุดอีกต่อไป

เกาะขาม สัตหีบ
เที่ยววันธรรมดาได้แล้วนะ

ถือเป็นเรื่องดีของคนชอบเที่ยวทะเลสวย น้ำใส ใกล้กรุงเทพฯ  “เกาะขาม” ตอนนี้เขาเปิดให้เที่ยววันธรรมดาได้แล้ว จากเดิมที่เปิดเฉพาะ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ไม่ต้องเจอคนเยอะให้วุ่นวาย เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม อนุญาตให้นักท่องเที่ยว เยี่ยมชมเกาะขาม ได้ทุกวัน โดยวันธรรมดา จะมีรอบเรือแค่ช่วงเช้าเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09.00 – 10.00 น.

อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เป็นเกาะเล็กๆ ในอำเภอสัตหีบ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือภาคที่ 1 แบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งทิศเหนือ และฝั่งทิศใต้ โดยฝั่งทิศเหนือจะมีหาดทรายสีขาวนวล เหมาะกับลงเล่นน้ำ หรือเล่นกีฬาชายหาด ส่วนหาดฝั่งทิศใต้ เป็นหาดหินกรวดทรายหยาบ

ลึกลงไปใต้ท้องทะเลฝั่งทิศใต้ มีปะการังอุดมสมบูรณ์กระจายอยู่รอบเกาะ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล และยังมีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกหว่ายมาให้สัมผัสแบบใกล้ชิด รวมไปถึง กุ้ง หอย ปู เม่นทะเล และปลิงทะเล เรียกว่าดำเพลินจนตัวดำเลยทีเดียว

แต่ถ้าใครไม่ชอบดำน้ำ ก็สามารถนั่งเรือท้องกระจกชมสัตว์ใต้ทะเลได้เหมือนกัน มีเรือคายักให้พาย มีจักรยานให้ปั่น หรือเดินชมพันธุ์ไม้ธรรมชาติตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนเกาะขาม

ทั้งนี้เกาะขามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรม และเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้จองล่วงหน้า เพราะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 300 คน

ข้อปฏิบัตินักท่องเที่ยวในการเยี่ยมชมเกาะ

  1. อุทยานใต้ทะเลเกาะขามขอสงวนสิทธิ์โดยไม่แจ้งล่วงหน้าในการเดินทางไปเกาะ กรณีที่สภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยอย่างกะทันหัน
  2. การท่องเที่ยวเป็นเชิงอนุรักษ์ โดยเน้นการชื่นชมธรรมชาติอย่างแท้จริง และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมบนเกาะ
  3. บนเกาะมีอาหาร น้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวจำหน่ายราคาปกติ
  4. ไม่อนุญาตให้นำอาหารที่บรรจุในกล่องโฟม หรือเครื่องดื่มที่เป็นขวด/แก้ว ขึ้นไปบนเกาะ
  5. ไม่แนะนำให้ซื้ออาหารไปจากบนฝั่ง เพราะอาหารบางชนิด จะส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่น และบางชนิดเป็นอาหารที่แมลงวันชอบ ประกอบกับเป็นภาระในการหอบหิ้ว ซึ่งจะไม่สะดวกในการขึ้นเรือ ลงเรือ แต่หากจำเป็น กรุณานำอาหารไปแค่เพียงพอต่อการรับประทานเท่านั้น เพราะอาหารส่วนที่เหลือจะไปเพิ่มปริมาณขยะบนเกาะ
  6. ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดขึ้นไปบนเกาะ
  7. จำกัดการชมปะการัง กรณีน้ำทะเลมีระดับลดลงจนเป็นอันตรายต่อปะการัง
  8. ห้ามสัมผัส จับต้อง หรือเหยียบย่ำปะการัง ตลอดจนห้ามเก็บเปลือกหอย ซากหิน ปะการัง หรือพืชพรรณไม้บนเกาะ
  9. กรุณารักษาช่วยรักษาสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ไม่นำวัสดุที่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมขึ้นไปบนเกาะ การอาบน้ำจื
  10. งดใช้สบู่และแชมพู เมื่อเดินทางกลับขอให้ช่วยเก็บขยะหรืองสิ่งของเหลือใช้ที่ท่านนำมากลับไปทิ้งบนฝั่งด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะขาม

– รถรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ระหว่างพื้นที่จอดรถไปยังท่าเทียบเรือ
– เรือรับ-ส่งนักท่องเที่่ยว ระว่างท่าเทียบเรือไปยังเกาะขาม
– ร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มบนเกาะขาม
– ห้องอาบน้ำ-ห้องส้วมบนเกาะขาม
– วิทยากรบรรยายให้ความรู้แต่นักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนเกาะขาม
– เสื้อชูชีพและหน้ากากดำน้ำ (Snorkel) ให้เช่าในราคาชุดละ 50 บาท

รอบเรือข้ามไปเกาะขาม

  • ขาไป     08.30 / 09.30 / 10.00 / 11.00 น.
  • ขากลับ  13.30 / 14.30 / 15.30 / 16.30 น.

ราคาตั๋วข้ามไปเกาะขาม

  • ผู้ใหญ่ คนละ 250 บาท
  • เด็ก ส่วนสูง 90 -120 ซม. คนละ 200 บาท
  • ชาวต่างชาติ
    – ผู้ใหญ่ คนละ 500 บาท
    – เด็ก สูง 90 -120 ซม. คนละ 300 บาท

*รวมค่าเดินทางไป-กลับ ค่าบริการ ห้องอาบน้ำ ฟรี! เรือท้องกระจกชมปะการัง ราคานี้ไม่รวมอุปกรณ์ดำน้ำ (ต้องการดำน้ำ ชุดละ 50 บาท)

 ช่องทางการจองและจำหน่ายตั๋ว

สามารถซื้อตั๋วได้ที่ บริเวณประตูทางเข้ากรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ (หมู่บ้านช่องแสมสาร) ถัดจากประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

การเดินทาง

จากเส้นมอเตอร์เวย์กรุงเทพ ฯ ชลบุรี เข้าสู่ถนนเส้น 331 ผ่านแยกเกษมพล และแยก กม.10 (รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ) ตรงไปประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางเข้าบ้านแสมสาร จากนั้นเดินทางด้วยเรือโดยสาร ข้ามไปยังเกาะขาม ได้ที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สามารถจอดรถได้ที่ พิพิธภัณฑ์วิทยาเกาะและทะเล หรือบริเวณจุดจำหน่ายบัตร และให้นักท่องเที่ยวที่จองไว้มารับตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว ในเวลา 07.00-09.00 น.

ข้อมูลเพิ่มเติม : kohkham

ขอบคุณข้อมลูและรูปภาพจาก : kohkham, อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม

 

เกาหลีเปิดใช้ ตู้ปริ้นบัตร T-money ลายเดียวในโลก

เกาหลีเปิดใช้ ตู้ปริ้นบัตร T-money
ลายเดียวในโลก

ขอหวีดร้องดังๆ  สถานีรถไฟใต้ดินสถานีฮงแด Hongik University ประเทศเกาหลี เปิดใช้ ตู้ปริ้นบัตร T-money แล้ว สามารถปริ้นเป็นรูปต่างๆ ที่เราต้องการ อยากทำหน้าตัวเอง หน้าแฟน หรืออปป้า ก็ได้หมดเลย ><

มาทำความรู้จัก บัตร T-money กันก่อนดีกว่า … บัตรนี้เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้เดินทางทั่วกรุงโซล ใช้ได้กับรถสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถบัส รถไฟใต้ดิน รถไฟ Arex (รถไฟสนามบิน) แท๊กซี่ และยังใช้ซื้อสินค้าในร้านค้าที่มีเครื่องหมายทีมันนี่ได้ด้วย ข้อดีก็คือ นอกจากไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วทีละเที่ยวแล้ว ยังมีส่วนลดเพิ่มเมื่อใช้บริการรถไฟและรถบัส ประมาณ 100 วอนต่อเที่ยว โดยสามารถหาซื้อบัตรจากร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลยค่ะ

สำหรับวิธีการใช้ ตู้ปริ้นบัตร T-money นั้นไม่ยากเลย ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เริ่มแรกจะมีภาษาให้กดเลือก มีเกาหลี จีน ญี่ปุ่น และอังกฤษ สะดวกภาษาไหนก็จิ้มโลด

2. เลือกว่าจะถ่ายรูปใหม่สวยๆ จากตู้ หรือ เลือกรูปที่มีในมือถือ

3. ถ้าเลือกรูปจากมือถือของเราเอง หน้าจอตู้จะขึ้นให้เลือกว่าจะเชื่อมต่อ wifi หรือแสกน QR code

4. เลือกรูปภาพและปรับขนาดรูปภาพให้พอดีกับบัตร จากนั้นจะปรากฏ QR code บนโทรศัพท์มือถือ (กรณีเลือกแสกน QR code ) ให้เอาไปแสกนกับช่องสแกน QR Code ของตู้ ที่อยู่บริเวณด้านล่างขวามือ

5. เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีหน้าต่างขึ้นให้เลือกชำระเงิน แบบบัตรเครดิต เดบิต หรือ เงิดสด แต่ตอนนี้เงินสดยังใช้การไม่ได้ คาดว่าอาจมีให้บริการเร็วๆ นี้ โดยราคาบัตรอยู่ที่ใบละ 6,000 วอน

เพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวเกาหลี ลองไปใช้บริการกันนะ มีบัตร T-money ลายเดียวในโลก เริศจะตาย ทำบัตรเสร็จก็ไปช้อปปิ้งต่อที่ย่านฮงแด ซึ่งเป็นศูนย์รวมวัยรุ่นวัยโจ๋ เพราะย่านนั้นเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ กิ๊ฟช้อป ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงเป็นถนนแสดงงานศิลป์อาร์ตๆ อีกด้วย

พิกัด : สถานี Hongik University สาย Gyeongui-Jungang, AREX (สีเขียวอ่อน) แถวทางออก 4 ใกล้ๆ Tourists Informations ตรงข้ามกับ Emart

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและภาพจาก : 한국에서 뭐하지? มาเกาหลี ทำอะไรดีน้า?, chilloutkorea,

 

กิจกรรมต้องห้ามพลาด ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่น โดย ปริ๊นซ์ โฮเต็ล

ปริ๊นซ์ โฮเต็ล แนะนำกิจกรรมต้องห้ามพลาด !

พิเศษเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิประเทศญี่ปุ่น ทั้งด้าน “ทัศนียภาพ” “ประวัติศาสตร์”และ“อาหาร”

ปริ๊นซ์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ผู้ดำเนินงานในเครือโรงแรมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ที่มีโรงแรมกว่า 43 แห่ง สนามกอล์ฟ 28 แห่ง และสกี         รีสอร์ททั้งหมด 9 แห่งทั่วทั้งประเทศ ขอแนะนำกิจกรรมพิเศษให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมแบบฉบับญี่ปุ่น และธรรมชาติอันสวยงามตามฤดูกาลอย่างแท้จริง

กิจกรรมต้องห้ามพลาด ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่น

ในประเทศญี่ปุ่นนั้นความหนาวเย็นจากฤดูหนาวจะสิ้นสุดลงในช่วงเดือนเมษายน และฤดูใบไม้ผลิก็จะเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับแสงสว่างอันอบอุ่น ซึ่งจะมีใบไม้และดอกไม้หลากสีสันเริ่มเบ่งบาน โดยเฉพาะไฮไลท์อย่างดอกซากุระที่เริ่มบานตั้งแต่ใต้จรดเหนือ และผู้คนก็ต่างพากันออกมาเพื่อชมความงดงามของดอกซากุระเหล่านั้น

ที่ปริ๊นซ์ โฮเต็ล เรามีการเตรียมกิจกรรมหลากหลายอย่าง ภายใต้แนวคิด “ทัศนียภาพ” “ประวัติศาสตร์” และ  “อาหาร” เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นนี้อย่างเต็มที่

การชมทัศนียภาพ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด เพราะจะมีเฉพาะแค่ในฤดูกาลนี้เท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมกำแพงหิมะตามเส้นทางถนนชิกะคุซาสึ ไฮแลนด์ (Shiga-Kusatsu Highlands) ที่อยู่สูงสุดของทางหลวงแห่งชาติ และอยู่ห่างจากโรงแรมสึมาโกอิ ปริ๊นซ์ โฮเต็ล (Tsumagoi Prince Hotel) เพียง 35 นาทีโดยรถยนต์ โดยโรงแรมสึมาโกอิ ปริ๊นซ์ โฮเต็ล จะตั้งอยู่ในที่ราบสูง ซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขาที่สวยงามรวมถึงอุทยานแห่งชาติ

นอกจากที่ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมจากโรงแรมนาเอะบะ ปริ๊นซ์ โฮเต็ล (Naeba Prince Hotel) ที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้า Dragondola กระเช้าที่ยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพื่อชื่นชมความสวยงามของทัศนียภาพ อาทิ ความเขียวชอุ่มสวยงาม และแนวเทือกเขาตั้งตระหง่าน ที่หาชมได้แค่ช่วงนี้เท่านั้น แต่ถ้าใครอยากผ่อนคลายสบายตัว ที่โรงแรมคาวานะ (Kawana Hotel) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณสามารถเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การแช่บ่อน้ำร้อน และสามารถชื่นชมความสวยงามของดอกซากุระในสายพันธุ์ต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มผลิดอก เช่น พันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ ได้ นอกจากนี้ยังมีชุดของว่างคอยให้บริการที่ห้องน้ำชาอันสวยงามอย่าง “Sun parlor”

สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ต้องตกหลุมรักแผนการท่องเที่ยวของโรงแรมเลค บิวะ อตสึ ปริ๊นซ์ โฮเต็ล (Lake Biwa Otsu Prince Hotel) อย่างแน่นอน เพราะคุณจะสามารถเที่ยวชมวัดดังทางพระพุทธศาสนาได้ถึงสามแห่ง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ อยู่รายล้อม หรือคุณอาจจะเพลิดเพลินไปกับการเที่ยวรอบปราสาท “โอบิ” (Obi) ที่ได้ชื่อว่าเป็นลิตเติ้ลเกียวโตแห่งภูมิภาคคิวชู ในขณะกำลังพักที่โรงแรมนิชินัน ไคกัน นันโงะ ปริ๊นซ์ โฮเต็ล (Nichinankaigan Nango Prince Hotel)

มาถึงด้านอาหาร ถ้าได้มาแล้วจะต้องมาลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น เพื่อสัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ ที่ริมทะเลสาบของโรงแรม โทวาดะ ปริ๊นซ์ โฮเต็ล (Towada Prince Hotel) หรืออาจลองมาลิ้มรสอาหารท้องถิ่นนาโกย่า “Nagoya Meshi” และบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า พร้อมกับการชมวิวเมืองนาโกย่าที่สูงเหนือพื้นดินกว่า 140 เมตร บนชั้น 31ของโรงแรมใหม่ล่าสุดในเครือปริ๊นซ์ โฮเต็ลอย่าง  “นาโกย่า ปริ๊นซ์ โฮเต็ล สกาย ทาวเวอร์” (Nagoya Prince Hotel Sky Tower)

สามารถดูข้อมูลแผนการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ http://www.princehotels.com/