ละมุนที่ “สวนละไม” บุฟเฟ่ต์ทุเรียนแบบจุกๆ และผลไม้นานาชนิด

ทั้งปีก็มีช่วงนี้แหละ ที่มีผลไม้ให้เรากินกันแบบฉ่ำๆ ในช่วงหน้าผลไม้ก็ต้องมาเที่ยวที่สวนผลไม้ จังหวัดระยอง สวนผลไม้ที่เปิดให้กินกันแบบไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา อย่าง สวนละไม กินผลไม้กันสดๆ จากต้นเลยทีเดียว

ละมุนที่ “สวนละไม” บุฟเฟ่ต์ทุเรียนแบบจุกๆ
และผลไม้นานาชนิด

พื้นที่สวนผลไม้ 500 ไร่ ที่ปลูกอยู่ตามเนินเขา แบ่งเป็นโซนชนิดผลไม้เป็นผังๆ จึงมีผลไม้ค่อนข้างหลากหลาย อย่างเช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ มังคุด ส้มโอ ชมพู่ ลำไย สละแก้วมังกร ลองกอง มะเฟือง เป็นต้น

พอถึงหน้าสวน ซื้อบัตรกันก่อน ไม่ต้องจองล่วงหน้า บัตรผู้ใหญ่ราคา 490 บาท บัตรเด็ก 250 บาท (ความสูง 100 – 120 ซม. บาท) ต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี ซื้อบัตรเสร็จแล้วรอรถมารับไปจุดแรกคือสวนเงาะ

จุดนี้จะมีเงาะให้กินแบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเก็บจากต้นหรือจะหยิบจากลังที่พนักงานจัดเตรียมไว้ให้ ตรงนี้จะมีต้นมังคุดด้วย แต่มังคุดยังไม่สุก ต้องรออีกหลายสัปดาห์ (น่าจะประมาณกลางเดือน มิ.ย) ก่อนจะมาให้เช็กกับทางสวนก่อน เพราะบางช่วงจะมีผลไม้ไม่เหมือนกัน

นอกจากผลไม้แล้วก็ยังมีของคาวแบบบุฟเฟ่ต์อีกด้วย อย่างวันนี้จะเป็นเมนูขนมจีนน้ำยา

ได้นั่งกินใกล้สวนผลไม้ บรรยากาศดีสุดๆ ชื่นชมบรรยากาศจากจุดนี้กันให้เต็มที่ หากเลยจากจุดนี้ จะย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว

ขึ้นรถมาต่อจุดที่สอง จุดไฮไลท์สำคัญ บุฟเฟ่ต์ทุเรียน สละ ลองกอง หรือผลไม้ตามฤดูกาล เป็นจุดที่ใหญ่ มีที่นั่งรองรับเยอะกว่าจุดแรก เพราะมีพระเอกอย่างทุเรียนนี่แหละค่ะ เลยต้องจัดที่ไว้ใหญ่นิดนึง

นอกจากมีผลไม้แล้ว ยังมีเมนูของคาวและของหวานต่างๆ เช่น ส้มตำ ไก่ทอด ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน เป็นต้น

กินเสร็จแล้วเดินเล่นในสวนทุเรียนได้ มาในช่วงนี้ก็จะเห็นต้นที่มีทุเรียนดกมาก

cr.สวนละไม / Suan Lamai

จุดที่สามอาจจะไม่ได้เก็บภาพมา เพราะฝนตก เป็นจุดชมฟาร์มแกะ ถ่ายรูปเล่นและป้อนอาหารแกะได้

กลับมาที่จุดเริ่มต้น ใครที่อยากจะซื้อของฝาก ซื้อได้ที่จุดนี้ค่ะ

สวนผลไม้ที่เปิดให้รับประทานแบบไม่อั้นไม่จำกัดเวลา ในบางช่วงจะมีผลไม้ไม่เหมือนกัน เพราะบางผลผลิตจะผลิตไม่ทันตามจำนวนของนักท่องเที่ยวที่มีต่อวัน สามารถเช็กก่อนได้ที่ แฟนเพจ สวนละไม / Suan Lamai

สวนเปิด ตั้งแต่ 8.00-17.00 น.

 

ปั่นจักรยานลอยฟ้า Sky Bike ดูวิวทะเลเกาหลี

ปั่นจักรยานลอยฟ้า Sky Bike
ดูวิวทะเลเกาหลี

หลายคนที่ไปเกาหลีน่าจะเคยปั่น Railbike หรือจักรยานบนรางรถไฟ ชมธรรมชาติ วิวป่าเขา และแม่น้ำ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่จะนิยมกันมาก เพราะสวยกว่าทุกฤดู  แต่รอบนี้เราจะพาทุกคนไปปั่น sky bike ลอยฟ้า ชมวิวทะเล ตากลมเย็นๆ เหนือชายหาดแทชอน จะน่าตื่นเต้นขนาดไหนเชียวนะ?

Daecheon Sky Bike (แทชอน สกายไบค์) หรือ Boryung Sky Bike (โพรยอง สกายไบค์)คือกิจกรรมปั่น sky bike บนรางยกระดับ ที่สร้างยื่นออกไปในทะเล เลียบชายหาดแทชอน ซึ่งเป็นชายหาดที่จัดเทศกาลโคลนโพเรียง (Boryeong Mud Festival) ทุกปี ในเมืองโพเรียง จังหวัดชุงชองนัม ประเทศเกาหลี

สกายไบค์ (Sky bike) มีลักษณะเป็นรถจักรยานแบบนั่งปั่น มีทั้งแบบ 2 คน 3 คน และ 4 คน  ต้องอาศัยแรงถีบของเราเพื่อให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า แต่ก็ปั่นสบายๆ ชมธรรมชาติเพลินๆ เพราะเป็นทางเรียบ และถ้าปั่นเป็นคู่ช่วงจังหวะพระอาทิตย์ตกดินพอดีนะ ยิ่งโรแมนติกมาก

ค่าธรรมเนียม Sky Bike สำหรับผู้ใหญ่
2 คน /1 คัน : 22,000won
3 คน/ 1 คัน : 26,000won
4 คน/ 1 คัน : 30,000won

เด็ก ความสูงไม่เกิน 120 CM.
– เด็ก 1 คนนั่งกับผู้ใหญ่ 2 คน / คัน : 24,000won
– เด็ก 1 คนนั่งกับผู้ใหญ่ 3 คน / คัน : 28,000won
– เด็ก 2 คนนั่งกับผู้ใหญ่ 2 คน / คัน : 26,000won

การเดินทาง : สามารถมาได้ 4 วิธี คือ

  1. ขึ้นรถบัสที่ Express Bus Terminal มาลงที่ Boryeong Bus Terminal แล้วต่อรถประจำทางสาย 100 หรือ 101  ลงป้าย บุน ซู กวังจัง อับ (분수광장앞) ป้ายหน้า Fountain Plaza  ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 300 เมตร
  2. นั่ง subway มาลงที่ สถานียงซาน (Yongsan Station) Subway line 1 เส้นสีน้ำเงิน เพื่อขึ้นรถไฟSaemaul และ รถไฟ Mugungwha
  3. KTX (ระบบรถไฟความเร็วสูง)
    – ขึ้นจากสถานี Yongsan มาลงที่สถานี Cheonan Asan จากนั้น เปลี่ยนมาขึ้นสถานี Asan มาลงสถานี Daecheon ทั้งหมด 6 ป้าย
    – ต่อด้วยรถประจำทาง สาย 1001 และ 101 (ลงป้าย หน้า fountain plaza) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นเดินต่อ 300 เมตร
  4. จากตัวเมือง Daejeon
    – ขึ้นจากสถานีรถบัส Daejeon Seobu intercity bus terminal นั่งรถบัส ไปลงที่ โพรยอง เทอร์มินอล จากนั้น ต่อรถบัส Daecheon Bus สาย 100 หรือ 101

ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : มุมเล็กๆ at เกาหลี, 천안에서 뭐 하지?, KTO Thailand

เที่ยวด้วยตัวเอง vs ทัวร์พาเที่ยว แบบไหนดีนะ ที่มันใช่สำหรับเรา

เที่ยวด้วยตัวเอง vs ทัวร์พาเที่ยว
แบบไหนดีนะ ที่มันใช่สำหรับเรา

เชื่อว่าคงมีหลายคนกำลังวางแผนเที่ยวช่วงวันหยุดยาวกันอยู่ใช่ไหมล่ะ อย่างเช่นในวันสงกรานต์ ที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 4 วัน แต่อาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ เที่ยวด้วยตัวเอง หรือใช้บริการบริษัททัวร์ดีกว่า วันนี้ Travel Mthai จะมาไขคำตอบให้ ว่าไปแบบไหนดีนะ ที่มันใช่สำหรับเรา

เที่ยวด้วยตัวเอง

  1. มีอิสระในการตัดสินใจ จัดสรรเวลาเที่ยวเองได้ อยากไปไหนก็ลุย อยากหยุดถ่ายรูปจุดไหนนานๆ ก็ไม่กดดันแต่ก็แลกมาด้วยความเหนื่อย เพราะต้องวางแผนและศึกษาเส้นทางเองทั้งหมด
  2. ไม่เสียเวลารอลูกทัวร์คนอื่น ไม่ต้องเที่ยวตามโปรแกรม เที่ยวตรงนี้เสร็จ ก็สามารถไปต่อได้ทันที
  3. มีโอกาสเจอเพื่อนใหม่ระหว่างทาง
  4. สนุกกับการผจญภัยในแบบที่เป็นไลฟ์สไตล์ของเราจริงๆ
  5. บางจุดไม่ใช่สถานที่เที่ยวยอดนิยม แต่เราคือผู้บุกเบิก
  6. อาจเดินหลง ขึ้นรถผิดสาย ลงผิดสถานี ไปบ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกและท้าทาย
  7. ได้ทานอาหารหลากลาย อย่างที่อยากลอง
  8. ได้คลุกคลีและสัมผัสกับชีวิตของคนท้องถิ่น ได้ซึบซับกับบรรยากาศรอบตัวอย่างเต็มที่
  9. ไม่สามารถเที่ยวเองในบางประเทศได้ เช่น ภูฏาน, เกาหลีเหนือ, ธิเบต เป็นต้น
  10. มีความยืดหยุ่นสูง เปลี่ยนแพลนได้ตามใจเรา อยากนอนตื่นกี่โมง กลับโรงแรมกี่โมง ก็ทำได้ตามความพอใจ
  11. ถ้าวางแผนเที่ยวดีๆ ราคาอาจถูกกว่าทัวร์ด้วยซ้ำไป อาจเลือกนอนแบบโฮสเทล หรือที่พักประเภท Airbnb และลิ้มลองอาหารแนวสตรีทฟู้ดดูบ้าง

ทัวร์พาเที่ยว

  1. สะดวกสบาย เพราะทัวร์เป็นคนจัดการวางแผนให้ทุกอย่าง เตรียมแค่ตังค์ เสื้อผ้า และเอกสารสำคัญ ก็พร้อมลุยได้เลย
  2. ขาดอิสระในการเที่ยว การกิน เพราะมีเวลาจำกัด ทำให้เราไม่สามารถอยู่ในจุดที่เราชอบนานๆ
  3. บริษัททัวร์มักมีคอนเนคชันกับสถานที่เที่ยวต่างๆ รวมถึงโรงแรมและร้านอาหาร เลยเซฟค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ในกรณีที่พักโรงแรมระดับเดียวกัน ร้านอาหารหรูเท่ากัน เพราะทัวร์จ่ายแบบเหมา
  4. ได้รู้ประวัติของสถานที่นั้นๆ อย่างลึกซึ้ง ผ่านการให้ข้อมูลของไกด์ที่สำคัญคอยเป็นล่ามช่วยพูดกับชาวต่างชาติแทนเราด้วยและเมื่อเกิดปัญหา ก็มีไกด์นี่แหละ ที่เหมือนนางฟ้ามาโปรด
  5. มีรถบริการรับส่งตลอดทริป จากหน้าที่พักถึงสถานที่เที่ยวตามจุดต่างๆ ไม่ต้องเดินให้เมื่อย หรือเสียเวลาไปกับการรอรถสาธารณะ
  6. บริษัททัวร์มีความพร้อมเรื่องประกัน ในกรณีเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ
  7. ไม่หลงแน่นอน เพราะมีไกด์คอยนำทาง
  8. สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะค่าตั๋ว ค่ารถ ค่ากิน ค่าโรงแรม ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ รวมอยู่ในแพคเกจทัวร์หมดแล้ว
  9. ไม่ต้องยืนต่อคิวนานๆ เมื่อไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆ เพราะมีคนเอาตั๋วให้ และบางทัวร์ก็ได้สิทธิ์ช่องทางพิเศษ เข้าไปเที่ยวได้เลย
  10. บางครั้งลูกทัวร์คนอื่นเลท ทั้งที่เลยเวลาที่กำหนดมานานแล้ว ทำให้ต้องเสียเวลารอ และถึงแม้ว่าจะเดินเที่ยวเสร็จแล้วก็ต้องรอเวลาตามโปรแกรมทัวร์จึงจะสามารถไปต่อได้

สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกเที่ยวด้วยตัวเอง หรือ เที่ยวกับบริษัททัวร์ ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย ไปกับทัวร์ก็สะดวกสบาย ไปคนเดียวก็อิสระ อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบไหนก็เลือกเลยค่ะ

ขอบคุณรูปภาพจาก : mushroomtravel