น้ำตกวังก้านเหลือง โอเอซิสแห่งลพบุรี จากสระน้ำผุดธรรมชาติ

น้ำตกวังก้านเหลือง โอเอซิสแห่งลพบุรี
จากสระน้ำผุดธรรมชาติ

หน้าฝนใครๆ ก็ไปน้ำตก ขอแนะนำอีกหนึ่งน้ำตกใกล้กรุงเทพฯ “น้ำตกวังก้านเหลือง” น้ำตกแห่งเดียวในจังหวัดลพบุรี  น้ำในลำธารมีความใส สีเขียวอมฟ้าเหมือนมรกต ซึ่งเกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์ ที่สำคัญคือมีน้ำตลอดปี ฤดูกาลไหนก็เที่ยวคลายร้อนได้

น้ำตกวังก้านเหลือง ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลท่าดินดำ จังหวัดลพบุรี มีต้นกำเนิดที่แปลก เพราะแทนที่จะมีต้นน้ำอยู่บนภูเขาสูง กลับมีต้นน้ำเกิดจากตาน้ำใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนหลายจุด ผุดขึ้นมาจากลำห้วยมะกอก

น้ำผุดเหล่านี้ จะไหลคดเคี้ยวเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มารวมกันบริเวณสันหินปูน กลายเป็นน้ำตก ที่แผ่กว้างประมาณ 20 เมตร และจะไหลเลาะไปตามที่ลาด ปะทะกับหินผาเป็นชั้น ๆ นับ 10 ชั้น ก่อนไหลไปบรรจบกับแม่น้ำป่าสัก

ด้วยจุดกำเนิดจากแหล่งน้ำผุดทางธรรมชาติ ทำให้น้ำตกวังก้านเหลืองมีน้ำให้เล่นตลอดปี และน้ำใสแจ๋ว มีสีฟ้าเขียวใสเหมือนมรกต น่าเล่นมากๆ อีกทั้งยังมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมบริเวณโดยรอบ ทำให้บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการมานั่งปิคนิคและพักผ่อนหย่อนใจ

การเดินทาง

จากตัวเมืองลพบุรี ใช้เส้นทางสายลพบุรี–โคกสำโรง (ทางหลวงหมายเลข 1) –ชัยบาดาล (ทางหลวงหมายเลข 205) ถึงบริเวณที่บรรจบกับทางหลวงหมายเลข 21 แล้วต่อเข้าทางหลวงหมายเลข 2089 ไปอำเภอท่าหลวงประมาณ 12 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าตัวน้ำตก อีกประมาณ 7 กิโลเมตร

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทางlopburiinfo.dla

นั่งอีแต๊ก ล่องเรือแจว “บ้านบุ่งสิบสี่” ที่เที่ยวสโลไลฟ์ จ.ชัยภูมิ

นั่งอีแต๊ก ล่องเรือแจว “บ้านบุ่งสิบสี่”
ที่เที่ยวสโลไลฟ์ จ.ชัยภูมิ

บ้านบุ่งสิบสี่ หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของจังหวัดชัยภูมิ สนุกไปกับการนั่งรถอีแต๊กเที่ยวชมหมู่บ้าน ล่องเรือแจว ชิมส้มโอ ทานอาหารถิ่น ท่ามกลางอ้อมกอดของสายน้ำและขุนเขา

เพราะชีวิตในเมืองหลวงมันวุ่นวาย เราขอพาไปสโลไลฟ์ เปลี่ยนฉากหลังจากแสงไฟเป็นภูเขาลูกเขียวกับท้องฟ้าสีคราม กันที่หมู่บ้านเล็กๆ ทางภาคอีสาน

บ้านบุ่งสิบสี่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลโนนทอง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยดึงจุดเด่นด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรม และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาซึมซับธรรมชาติ ร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับชาวบ้าน ใช้ชีวิตช้าลง พักหายใจสักหน่อย

ด้วยความที่ตั้งอยู่ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และมีลำน้ำพรมไหลผ่าน จึงมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ โดยเฉพาะส้มโอ นิยมปลูกมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ส้มโอพันธุ์ทองดี พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง และพันธุ์พื้นเมือง คือ แดงภูคิ้ง มีเนื้อสีแดงฉ่ำ รสชาติอร่อยแบบหวานอมเปรี้ยว ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน

กิจกรรมในชุมชนที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัส เริ่มจากนั่งรถอีแต๊ก ชมบรรยากาศและวิถีชีวิตรอบหมู่บ้าน ล่องเรือชมสวนผลไม้ริมสองฝั่งลำน้ำ สูดอากาศบริสุทธิ์พลางๆ เรือจะเทียบท่าให้เราขึ้นไปชมสวนส้มโอของชาวบ้าน เราสามารถชิมส้มโอสดๆ ตรงนั้นเลย อร่อยฟินๆ กินวนไป

จะเลือกเที่ยววันเดียวกลับ หรือพักค้างคืน เขาก็มีโฮมสเตย์ไว้บริการ ซึ่งตอนกลางคืนจะมีอาหารถิ่นให้ทาน มีการแสดงพื้นบ้านให้ดู ส่วนตอนเช้า ภาพที่เราจะเห็นคือ การดำรงชีวิตของชาวบ้านที่ต่างพายเรือแจว เพื่อขนส่งพืชผักไปตามลำน้ำกว่า 100 ลำ แถมพร้อมใจแต่งชุดพื้นบ้านเหมือนกัน เห็นแล้วน่ารักจนอดยิ้มไม่ได้

นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามกับตัวแทนชาวบ้านโดยตรง

ผู้ใหญ่นันทวิทย์ ดวงมณี (บ้านบุ่งสิบสี่)
โทร. 099-7832597

ผู้ใหญ่เสถียร ฦาชา (บ้านริมพรม)
โทร. 093-5574704

คุณทับทิม ลบบำรุง (ผู้ประสานงานหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านบุ่งสิบสี่)
โทร. 090-2598862

ขอบคุณรูปภาพจาก :  ททท.สำนักงานนครราชสีมาthainews.prd

เที่ยวเมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา กับ อนันดา เอเวอริ่งแฮม

เที่ยวเมืองไทย สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา
กับ อนันดา เอเวอริ่งแฮม

ทันที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปล่อยตัวแคมเปญโฆษณาชุด Amazing ไทยเท่” ภายใต้แนวคิด “เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา” ถ่ายทอดมุมมองเท่ๆ ผ่านพรีเซ็นเตอร์หนุ่มสุดติสท์ ‘อนันดา เอเวอริ่งแฮม’ นั้นก็รู้สึกตกหลุมรักเมืองไทยขึ้นเป็นกอง ทั้งภาพที่สวยงาม และเสียงเพลงอันไพเราะ ยิ่งเย้ายวนให้เก็บกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวตาม Travel Mthai ไม่รอช้า ขอพาตามรอยหนุ่มอนันดา คนนี้กันเลย ไปดูซิว่า มหัศจรรย์ที่เที่ยวเมืองไทย แห่งไหนบ้างที่เราไม่เคยสัมผัส

อ่างเก็บหมอกปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน

ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 ที่เที่ยวอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ บนยอดเขาสูง ภายในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

สวยงามดั่งต้องมนต์สะกด เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้า ผสานไอหมอกจางๆ ลอยเหนือผิวน้ำ ประกอบกับป่าสนปลูกเรียงรายทอดยาวริมอ่างเก็บน้ำ สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก

*********************************************************

ดวงตาบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด

ชุมชนเชิงวิถีชีวิตวัฒนธรรม ตั้งอยู่ที่ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ที่ผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งแรกที่เห็นเด่นชัด คือ สะพานวัดใจ เป็นสะพานข้ามคลองเชื่อมระหว่างสองฝั่งหมู่บ้าน เปรียบเหมือนตัวแทนเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องชาวพุทธและอิสลาม ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ นอกจากนั้นยังเป็นแลนด์มาร์คถ่ายภาพสวย ด้วยความโค้งของสะพาน เมื่อสะท้อนกับผืนน้ำ เกิดเป็นเงาบรรจบกัน งดงามราวกับดวงตาแห่งบ้านน้ำเชี่ยว

ชุมชนบ้านน้ำเชียว มีกิจกรรมมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการแสวงหาความสุขจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นล่องเรือชมป่าชายเลน ตกปลาน้ำลึกน้ำตื้น ไดหมึก ดำน้ำดูปะการัง เลือกซื้อสินค้าโอท็อป ชมการสานงอบน้ำเชี่ยวอันเลื่องชื่อ และพักโฮมสเตย์ เพื่อสัมผัสชีวิตชาวบ้านอย่างถึงแก่น

*********************************************************

เส้นทางสายหวาน บ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม

บ้านบางพลับ ชุมชนสีเขียวในอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ชาวบ้านที่นี่มีชีวิตผูกพันธ์กับสายน้ำ มีลำคลองต่างๆ รายล้อม จึงอุดมไปด้วยร่องสวนผลไม้มากมาย ทั้งมะพร้าว ส้มโอ ลิ้นจี่ มะละกอ รวมถึงพืชผักสวนครัว มาถึงถิ่นต้องลิ้มรส ผลไม้กลับชาติ เป็นการแปรรูปผลไม้รสขมให้กลายเป็นของหวาน เช่น บึงบอระเพ็ด มะระขี้นก มะนาว จนไม่เหลือรสชาติดั้งเดิมอยู่เลย และมีสีสันสวยงามน่ารับประทาน

*********************************************************

ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ บ้านเจริญสุข จ.บุรีรัมย์

บ้านเจริญสุข เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟอังคาร ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จึงอุดมไปด้วยแร่ธาตุเช่นดินจากลาวาภูเขาไฟ ชาวบ้านจึงปิ๊งไอเดียนำดินมาประยุกต์กับงานหัตกรรม อย่างการย้อมผ้า จนเกิดเป็นผืนผ้า ภูอัคนี หรือ ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ มีสีสันธรรมชาติอันสวยงาม เหมือนโทนสีของเขาพนมรุ้ง และติดทนนานไม่หลุดลอก ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชนได้ชัดเจน

*********************************************************

ยอยักษ์ บ้านปากประ จ.พัทลุง

แค่เห็นภาพในโฆษณาไม่กี่วินาที ก็แทบอยากถลาตัวเข้าไปในจอ ที่บ้านปากประ จ.พัทลุง มีความโดดเด่นของยอขนาดยักษ์ ที่ใช้ในการทำประมงของชาวปากประ ไว้ดักจับปลาและสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาลูเบร่ ซึ่งมีขนาดเล็ก จึงต้องทำตาข่ายถี่แบบกระชอนช้อนลูกน้ำ แต่ขยายให้ใหญ่กว่า นอกจากชุมชนชาวประมงที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นจุดชมแสงแรกแห่งอรุณรุ่งที่งดงามจนไม่อาจละสายตา

*********************************************************

วัดสิรินธรวราราม (ภูพร้าว) .อุบลราชธานี

วัดสิรินธรวราราม (ภูพร้าว) หนึ่งในวัดสวยสุด Unseen ที่ต้องไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่แนะนำให้ไปช่วงค่ำ เพราะจะได้ชมปรากฏการณ์ “ต้นไม้เรืองแสง” ที่จะค่อยๆ เผยความอัศจรรย์ทีละนิด ส่องแสงเรืองรองอยู่ด้านหลังอุโบสถสีทอง โดยตัวอุโบสถดัดแปลงมาจากวัดเชียงทองที่หลวงพระบาง รวมถึงจิตกรรมภาพต้นไม้ แต่ศิลปินผู้สร้างผลงานชิ้นนี้ใส่ไอเดียใหม่ลงไป จนเกิดเป็นความงดงามอย่างที่เห็น นอกจากนั้น ยังเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตก และมวลหมู่ดาว ในบรรยากาศสุดโรแมนติก

*********************************************************

หาดชมดาว จ.อุบลราชธานี

หาดชมดาว หรือ แก่งชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี  เป็นแก่งหินที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำวน จนเกิดเป็นผาหินและแอ่งหลุมรูปทรงแปลกตา มีริ้วลายหินแตกต่างกันไป จุดไฮไลท์เป็นผาหินสูงใหญ่และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบมีสายน้ำไหลผ่าน และมีก้อนหินเล็กกลางน้ำให้ลงไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ได้มุมเก๋เท่ไม่เหมือนใคร

ชาวบ้านเชื่อกันว่าให้หาหินนี้ให้เจอ เพราะเป็นจุดชมท้องฟ้าที่ส่องแสงและสีสันได้สวยที่สุด ทั้งแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ และทะเลดวงดาว สวยระยิบระยับเต็มท้องฟ้าในยามคืนข้างแรม

ต้องขอบอกว่า แคมเปญเที่ยวไทยเท่ ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะแว่วมาว่า ททท. จะปล่อยสกู๊ป Amazing ไทยเท่’ ออกมาอีก 5 ตอน โดยการพาเที่ยวของ “เท่ Setter” หมายถึงตัวแทนของนักท่องเที่ยวที่มีสไตล์การเที่ยวแบบเท่ๆ ของตัวเอง ได้แก่ ป้าตือ สมบัษร ถิระสาโรช, ฌอนจินดาโชติ, สิงโต นำโชค และ ไบร์ทพิชญทัฬน์ จันทร์พุฒ จะพาเราทัวร์ 5 ภูมิภาค ทั่วไทย ปลุกกระแสการท่องเที่ยวในพื้นที่ 55 เมืองรอง รับรองว่าสร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากออกเดินทางแน่นอน

ขอบคุณภาพและวิดีโอจาก Amazing Thailand