รวม 7 ตลาดปลา จากทั่วโลก ซีฟู้ดสุดฟิน ซาชิมิอร่อยถึงใจ

ถ้าพูดถึง ตลาดปลา ชื่อดังที่มีอยู่ทั่วโลก หลายคนคงนึกตลาดปลาซึคิจิ ย่านกินซ่า ที่ญี่ปุ่น กันแน่นอนเลย โดยเฉพาะร้านซูชิต่างๆ การันตีความโด่งดัง จากแถวที่รอยาวเหยียดตั้งแต่ก่อนร้านเปิด ความจริงแล้ว ประเทศอื่นๆ ก็มีตลาดปลาที่ทั้งสด อร่อย สะอาด น่าแวะเที่ยว แวะซื้อ แวะทาน เช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใช่แค่เป็นแหล่งรวบรวมอาหารทะเลมาวางขายให้ลูกค้าเท่านั้น แต่มีพร้อมทั้งจุดบริการรับปรุง  ร้านอาหาร เคาน์เตอร์ทานอาหาร และแบบใส่ในแพ็คไว้อย่างดี ตามเราไปชมกันเลย กับ 7 ตลาดปลา จากทั่วโลก ซีฟู้ดสุดฟิน ซาชิมิอร่อยถึงใจ

รวม 7 ตลาดปลา จากทั่วโลก
ซีฟู้ดสุดฟิน ซาชิมิอร่อยถึงใจ

1. ตลาดปลาซึคิจิ (TSUKIJI)
ประเทศญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงชื่อตลาดซึกิจิ (Tsukiji) ในหมู่นักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนประเทศญี่ปุ่นจะต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเป็นตลาดปลาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีการซื้อขายอาหารทะเลจำนวนมากกว่า 2,500 ตัน/วัน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของผู้ชื่นชอบอาหารจานปลา ซูชิ หรือโอนิกิริต่าง ๆ ถ้าใครขยันตื่นเช้าก็มากันได้ ประมาณตี 5 เขาจะมีการประมูลปลา และแร่ปลาโชว์ด้วย ส่วนร้านค้า อาหารที่ตั้งอยู่ด้านนอกตลาด จะเริ่มคึกคักประมาณ 9 โมงเช้า แม้จำนวนคนรอจะล้นร้าน ต่อคิวยาวเป็นกิโล แต่แลกกับความสดและอร่อย ยังไงก็ต้องรอ!

ปัจจุบันตลาดปลาซึคิจิ ได้ย้ายไปอยู่ในทำเลใหม่ที่เกาะโอไดบะ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ตลาดโทโยสุ

2. ตลาดปลาไทเป (TAIPEI FISH MARKET)
ประเทศไต้หวัน

ที่ตลาดแห่งนี้จะมี 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นตลาดกลางแจ้งทั่วไป และอีกส่วนที่เป็นตึกเราจะเรียกว่า Addiction Aquatic Development เป็นอาคารติดแอร์สร้างใหม่ ภายในตึกคือแหล่งรวบรวมวัตถุดิบจากท้องทะเลชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทเป จะให้อารมณ์เหมือนมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีร้านอาหารมากกว่าตลาด มีที่นั่งทานแบบโต๊ะ และเคาน์เตอร์ยืนทานได้เลย

ประเภทอาหารก็มีหลายแบบมากทั้งซาชิมิ ซูชิ ปิ้งย่าง ฮอทพอท รวมทั้งวัตถุดิบสด ๆ ปลา กุ้ง ไข่หอยเม่น ปลาไหล หอยนานาชนิด โดยเฉพาะเมนูปู มีปูสารพัดชนิดเรียกว่า เหมือนกับเราไปที่ตลาดปลาฮอกไกโดกันเลยทีเดีย วสำหรับใครเลือกแล้วก็อย่าได้รอ ให้เค้าจัดการทำเมนูลวกมาให้เรารับประทาน ปูแต่ละตัวน้ำหนักใช่ย่อย โดยเค้าจะแกะแล้วแพ็กให้เป็นอย่างดี

3. ตลาด PIKE PLACE
เมืองซีแอทเทิล สหรัฐอเมริกา

ตลาด Pike Place เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงมาก ให้บรรยากาศแบบวินเทจสุด เพราะมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ที่นี่เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบสดใหม่มากมายทั้งผัก ผลไม้ เนื้อชั้นดี และโดยเฉพาะอาหารทะเลสดใหม่จากเขตแดนอลาสก้า จากฟาร์มเล็ก ใหญ่ เหล่าเกษตรกร ช่างฝีมือมารวมตัวกันมากมาย ใน 1 ปีมักจะมีผู้คนมาเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้จำนวนมากถึง 10 ล้านคนเลยทีเดียว ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นย่านการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของซีแอทเทิล

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันขอบคุณพระเจ้าและวันคริสต์มาส
เวลาให้บริการ : จันทร์-เสาร์ 09.00-18.00 น. / อาทิตย์ 09.00-17.00 น. ควรไปถึงก่อนเที่ยงตรง ร้านอาหาร ร้านขนม และร้านสินค้าฝีมือต่าง ๆ จะเปิดในช่วงสาย

4. ตลาดปลาซิดนีย์ (SYDNEY FISH MARKET)
เมืองซิดนีย์ ถนน Bank Street, Pyrmont ประเทศออสเตรเลีย

ตลาดปลาซิดนีย์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ในบรรดาตลาดปลาทั้งหมด อย่างที่ทราบกันดีว่าซิดนีย์เป็นเมืองติดทะเลและเป็นเมืองท่า ทำให้มีวัตถุดิบจากทะลมาลงขายมากถึง 50 ตัน/วัน และทำรายได้ให้ประเทศจากการส่งออกสินค้าอาหารทะเลอย่างมหาศาล

ภายในตลาดมีสินค้าให้บริการมากมาย ทั้งอาหารทะเลนำเข้า อาหารทะเลท้องถิ่น ผลไม้ เนื้อสัตว์ ชีส และอาหารอื่นๆ ที่เป็นของสดพร้อมปรุงพร้อมทาน ให้ได้เลือกซื้อไปนั่งทานกันได้อย่างสบายใจ หรือสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่มาให้ทางร้านอาหารปรุงให้ก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักกินโดยแท้จริง

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นคริสต์มาส
เวลาให้บริการ : จันทร์-พฤหัสบดี 7.00-16.00 น. / ศุกร์-อาทิตย์ 7.00-17.00 น. (บางร้านค้า)

5. ตลาดปลา BERGEN
ประเทศนอร์เวย์

สำหรับชาวแซลมอนเลิฟเวอร์ คุณมาถูกที่แล้ว เพราะตลาดปลา Bargen คือแหล่งเลี้ยงแซลมอนชั้นดีอันดับหนึ่งของโลก เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งวัตถุดิบแซลมอนที่คนรักแซลมอนต้องไม่พลาดเด็ดขาด ถึงแม้ราคาค่อนข้างสูงแต่รับรองว่ารสชาติละมุนลิ้นมากจริง ๆ อร่อยฟินไปซะทุกส่วน โดยตลาดแห่งนี้เป็นตลาดติดท่าน้ำ มีทั้งส่วนกลางแจ้งและในร่ม สามารถซื้อแบบเป็นของสดกลับบ้าน หรือสั่งแล้วนั่งทานที่ร้านเลย

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการต่างกันตามซีซัน
เวลาให้บริการ : ตามตารางซีซันของตลาด Bergen

  • 1 พ.ค.2018 – 30 ก.ย.2018 เปิดจันทร์-อาทิตย์ 08.00-23.00 น.
  • 1 ต.ค.2018 – 31 ธ.ค.2018 จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-23.00 น. / ศุกร์-เสาร์ 09.00-23.00 น. / อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
  • 1 ม.ค.2019 – 30 เม.ย.2019 จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-23.00 น. / ศุกร์-เสาร์ 09.00-23.00 น. / อาทิตย์ 11.00-23.00 น.
  • 1 พ.ค.2019 – 30 ก.ย.2019 เปิดจันทร์-อาทิตย์ 08.00-23.00 น.

6. ตลาดปลานอร์ยางจิน (NORYANGJIN)
กรุงโซล ประเทศเกาหลี

ตลาดปลานอร์ยางจิน เป็นตลาดค้าส่งปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงโซล และเป็นอันดับ 2 ของเกาหลี แบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือหลัก ๆ ด้านล่างจะเป็นตลาดสด ส่วนบรรดาร้านอาหารจะอยู่ชั้นบน ซึ่งสามารถซื้อของจากด้านล่างมาให้ที่ร้านอาหารปรุงให้ได้ สำหรับซีฟู้ดที่วางขายอาจจะดูแปลกตาไปบ้าง เพราะมีขนาดใหญ่มากจริง ๆ เห็นขนาดแล้วแทบจะตาค้างกันเลย ทั้งหอยเชลล์ยักษ์ที่มีขนาดเท่าลูกเทนนิส หรือจะเป็นหอยแครงเกาหลี ที่หน้าตาน่ากินมาก ๆ ส่วนพวกปลาหมึกนั้นก็มีทั้งหนวดปลาหมึกยักษ์ รวมถึงปลาหมึกตัวเล็ก ๆ ที่ยังกระดึ๊บ ๆ เหมือนในภาพยนตร์ กวน มึน โฮ อีกด้วย ยังไม่พอ! ยังมีปูตัวเป้ง กับ Lobster มายั่วน้ำลายใครหลาย ๆ คนอีก หรือจะลองปลากระเบนก็มีจำนวนมาก เพราะเป็นปลาที่คนเกาหลีนิยมทานกัน

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน
เวลาให้บริการ : เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่บางร้านค้าอาจเปิดปิดเป็นเวลา จะเริ่มคึกคักช่วง 4.00-6.00 น. ของทุกวัน

7. ตลาด TORVEHALLERNE
เมืองโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก

ที่นี่เป็นตลาดที่มีชื่อเสียง และผู้คนคึกคักมาก ส่วนหน้าตาตลาดจะไม่ใช่ตลาดสดท่าเรืออย่างที่เรานึกภาพกัน แต่เป็นตึกขนาด 2 ชั้นคล้ายห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ภายในจะมีร้านค้าขายอาหารเต็มไปหมดทั้งอาหารสด และปรุงแล้ว เหมาะสำหรับใครที่ชอบทานพวกไข่ปลาคาเวียร์กับปลาแซลม่อน เพราะเยอะมาก รวมไปถึงวัตถุดิบชั้นยอดที่มีชื่อเสียง ทั้งเนื้อสัตว์ วัว หมู ไก่ แกะ อาหารทะเลสดใหม่เนื้อหวาน ชีส ผลไม้ ไวน์ชั้นเลิศ เบียร์คราฟ และอาหารประเภทอื่นอีกหลากหลาย

วันที่เปิดให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน แต่เวลาเปิดปิดจะต่างกันไป
เวลาให้บริการ : จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-19.00 น.
ศุกร์ 10.00-20.00 น.
เสาร์ 10.00-18.00 น.
อาทิตย์ และวัดหยุดของประเทศเดนมาร์ก 11.00-17.00 น.

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : changtrixget, expedia, flickr,  Sydney Fish Market

20 เมืองริมหน้าผา ชวนทึ่งและงดงามที่สุดในโลก

โลกของเรา เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสุดมหัศจรรย์มากมาย ทั้งสวยงาม น่าหวาดเสียว พิลึกพิลั่น รึแม้แต่เหมือนหลุดออกมาจากสวรรค์ และจะยิ่งสมบูรณ์ขึ้นไปอีก หากสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้น ถูกวางไว้ในโลเคชั่นที่น่าสนใจ เป็นความเลิศล้ำของมันสมองมนุษย์ วันนี้ Travel.mthai.com จึงขอนำเสนออีกเรื่องราวที่คุณเห็นแล้วจะต้องร้อง “ว้าววว!” นั่นคือ 20 เมืองริมหน้าผา ชวนทึ่งและงดงามที่สุดในโลก

20 เมืองริมหน้าผา ชวนทึ่งและงดงามที่สุดในโลก

1. หมู่บ้านชายฝั่ง ริโอมาจโจเร่ ประเทศอิตาลี

2. เวลิโก้ ตาร์โนโว่ ประเทศบัลแกเรีย

3. เมตีโอร่า ประเทศกรีซ

4. รอนด้า ประเทศสเปน

5. กรุงลาปาซ ประเทศโบลิเวีย

6. โอมิส ประเทศโครเอเชีย

7. เวอร์นัซซ่า ประเทศอิตาลี

8. กอร์เดส โพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส

9. โอฮริด ประเทศมาซิโดเนีย

10. ซานโตรินี ประเทศกรีซ

11. ปิตีญาโน่ ประเทศอิตาลี

12. วาดี ดาวาน ประเทศเยเมน

13. โบนิฟาซิโอ ประเทศฝรั่งเศส

14. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ ปิโอเดา
ประเทศโปรตุเกส

15. โปซิตาโน่ ประเทศอิตาลี

16. มา ลัลลา ประเทศซีเรีย

17. คูเอนก้า ประเทศสเปน

18. มงต์ แซงต์ มิเชล ประเทศฝรั่งเศส

19. มานาโรล่า ประเทศอิตาลี

20. บ้านกลางแม่น้ำดรีน่า ประเทศเซอร์เบีย

เป็นยังไงกันบ้าง กับ 20 เมืองริมหน้าผา ที่งดงามที่สุดในโลก บ้างก็เป็นเมืองเล็กๆ เป็นหมู่บ้าน และที่แปลกที่สุดคือบ้านโขดหินกลางแม่น้ำ อะไรจะโดดเดี่ยวขนาดนั้น ซึ่งแต่ละแห่งก็โดดเด่น สวยงามแตกต่างกันไป ถ้าอยากไปเห็นด้วยตา เมคมันนี่ แล้วไปกันเลยครับ

Source : boredpanda

ท่องโลกใต้น้ำ กับ 6 อควาเรียม ที่น่าไปที่สุดในเอเชีย

สายเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบการชมโลกใต้ทะเล ดูฝูงปลา และชีวิตสัตว์ทะเลแสนน่ารัก หรืออยากพาลูกๆ ไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ความสนุก แถมพกความรู้กลับบ้าน พร้อมเก็บความประทับใจทั้งครอบครัว วันนี้เราจะพาทุกคนไป สัมผัสความงามของโลกใต้น้ำ กับ 6 อควาเรียม ที่น่าไปที่สุดในเอเชีย จะมีที่ไหนบ้าง ตามเรามาดูกัน

ท่องโลกใต้น้ำ กับ 6 อควาเรียม
ที่น่าไปที่สุดในเอเชีย

1. LOTTE WORLD AQUARIUM
กรุงโซล เกาหลีใต้


เริ่มต้น เที่ยวอควาเรียม สัมผัสโลกใต้น้ำกันที่ ล็อตเต้เวิร์ล อควาเรียม (Lotte World Aquarium) ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ใกล้ๆ แหล่งช้อปปิ้ง ล็อตเต้เวิร์ล มอลล์ (Lotte World Mall) โดยอควาเรียมแห่งนี้มีโซนให้ชมโลกใต้น้ำมากมาย เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีตู้ปลาไซส์ใหญ่ พร้อมด้วยสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่กว่า 55,000 ชีวิต และยังมีอุโมงค์ทางยาวให้เราได้เดินชมอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงโชว์ตระการตา มีเกมและกิจกรรมให้เด็กๆ ร่วมสนุก ช่วยให้คุณและครอบครัวเพลิดเพลินสุดๆ ดังนั้น ชาร์จแบตกล้องเตรียมเมมโมรี่ให้พร้อม เอาไว้ไปเก็บภาพตอนเด็กๆ กำลังสนุกกัน

เวลาเปิด-ปิด: จันทร์-พฤหัสบดี 10.00-20.00 น., ศุกร์-อาทิตย์ 10.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 29,000 วอน (ประมาณ 870 บาท), เด็ก 25,000 วอน (ประมาณ 750 บาท)

2. OKINAWA CHURAUMI AQUARIUM
โอกินาว่า ญี่ปุ่น


อควาเรียมแห่งเกาะสวรรค์ โอกินาว่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) โลกใต้น้ำ ที่ถูกยกให้เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น บนพื้นที่กว้างใหญ่กับไฮไลท์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือนที่นี่ นั่นก็คือ ฉลามวาฬไซส์ยักษ์ ที่แหวกว่ายอยู่ในแท็งก์ขนาดใหญ่ และยังมีกระเบนราหูอีกด้วย รับรองว่าถ้ามาเยือนอาณาจักรกว้างใหญ่ของสัตว์น้ำที่นี่คุณจะต้องเต็มอิ่มอย่างแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด: เดือนมีนาคมถึงกันยายน 08.30 – 19.00 น., เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ 08.30-17.30 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 1,850 เยน (ประมาณ 555 บาท), เด็กมัธยม 1,230 เยน (ประมาณ 370 บาท), เด็กประถม 610 เยน (ประมาณ 180 บาท), เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าฟรี

3. Aqua Park Shinagawa
โตเกียว ญี่ปุ่น

มาทัวร์ โลกใต้น้ำกันต่อ อีกหนึ่งควาเรียมในแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่น ที่ อควาพาร์ค ชินากาว่า(Aqua Park Shinagawa) แห่งกรุงโตเกียว เป็นแหล่งการเรียนรู้ขนาดใหญ่ให้เรา เที่ยวอควาเรียม ได้อย่างจัดเต็ม แสงสีเสียงไฮไลท์เด็ดทั้ง 11 โซน แถมที่นี่ยังมีเครื่องเล่นอย่างม้าหมุน แต่เปลี่ยนจากม้า เป็นปลาและสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนการแหวกว่ายในท้องทะเลเลยล่ะค่ะ

เวลาทำการ: 10.00-22.00 น. เปิดให้บริการทุกวัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้เนื่องจากสภาพของสัตว์หรือสภาพอากาศ
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 2,200 เยน (ประมาณ 660 บาท), เด็กประถม-มัธยมต้น 1,200 เยน (ประมาณ 360 บาท), เด็กเล็ก อายุ 4 ปีขึ้นไป 700 เยน (ประมาณ 210 บาท)

4. YOKOHAMA HAKKEIJIMA SEA PARADISE
โยโกฮาม่า ญี่ปุ่น


เปลี่ยนวันท่องเที่ยวให้เป็นวันพิเศษ มาเปิดประสบการณ์ โลกใต้น้ำ อย่างใกล้ชิดกับท้องทะเลโยโกฮามากับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โยโกฮาม่า ฮัคเคจิมะ ซี พาราไดซ์ (Yokohama Hakkeijima Sea Paradise) ในญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้งโลมา ฉลามวาฬ แมวน้ำ รวมถึงเพนกวิน รอให้คุณไปสัมผัสความคาวาอี้ พร้อมด้วยการแสดงสนุกๆ แนะนำว่าเตรียมรองเท้าสวมใส่สบายมาเที่ยวด้วย เพราะมีพื้นที่กว้างถึง 4 โซน ให้เลือกเดินเล่น ได้แก่ Aqua Museum, Dolphin Fantasy, Fureai Lagoons และโซน Umi Farm ให้ตกปลา และยังมีโซนอาหารและของฝากให้ช้อปเพลินๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นเติมเต็มความสุขอีกด้วย

เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 08.30-21.30 น., เสาร์-อาทิตย์ 08.30-22.30 น.
ค่าเข้าชม:

  • Aqua Resorts 3,000 เยน (ประมาณ 900 บาท)
  • Pleasure Land เล่นไม่จำกัดจำนวนครั้ง 3,000 เยน (ประมาณ 900 บาท),
  • Aqua Resorts และ Pleasure Land เล่นไม่จำกัดจำนวนครั้ง 5,050 เยน (ประมาณ 1,515 บาท)

เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 08.30-21.30 น., เสาร์-อาทิตย์ 08.30-22.30 น.
ค่าเข้าชม: Aqua Resorts 3,000 เยน (ประมาณ 900 บาท), Pleasure Land เล่นไม่จำกัดจำนวนครั้ง 3,000 เยน (ประมาณ 900 บาท), Aqua Resorts และ Pleasure Land เล่นไม่จำกัดจำนวนครั้ง 5,050 เยน (ประมาณ 1,515 บาท)

5. S.E.A. AQUARIUM
เซ็นโตซ่า สิงคโปร์


อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ถ้าไป ทัวร์สิงคโปร์ ต้องไม่พลาด นั่นก็คือ S.E.A. Aquarium แห่งเกาะเซ็นโตซ่า ประเทศสิงคโปร์นั่นเอง ไปถ่ายรูปเจ้าตัวเล็กในอุโมงค์ใต้น้ำ ตื่นตาตื่นใจกับโลกใต้ทะเลที่รวบรวมสัตว์น้ำไว้กว่า 800 สายพันธุ์ 100,000 ชีวิต ภายในตู้ปลาขนาดใหญ่ 45 ล้านลิตร พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มี 10 โซนให้เดินเล่น แนะนำว่ามาที่นี้ต้องไม่พลาดโซน Open Ocean Habitat ใจกลางทะเลลึกด่ำดิ่งกับโลกใบใหม่ที่แปลกตาน่าถ่ายภาพสุดๆ ตามด้วย Shark Seas ที่มีแต่ฉลามนักล่ากว่า 200 ตัวแหวกว่ายไปมาให้ได้ชมกัน

เวลาทำการ: 10.00 -19.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ อายุ 13-59 ปี SGD39 (ประมาณ 950 บาท), เด็ก อายุ 4-12 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป SGD29 (ประมาณ 700 บาท)

6. SEA LIFE BANGKOK OCEAN WORLD
กรุงเทพฯ ประเทศไทย


ปิดท้าย เที่ยวอควาเรียม หนึ่งวันในกรุงเทพฯ เมืองไทย กันที่ ซีไลฟ์บางกอก โอเซียนเวิลด์ (Sea Life Bangkok Ocean World) ตั้งอยู่ที่ห้างสยามพารากอน เปิดโลกผจญภัยใต้ทะเลใจกลางเมืองหลวง พบกับไฮไลท์น่าสนใจอย่าง Tales of the Sea เรื่องเล่าจากใต้ทะเลลึก พร้อมโชว์สุดว้าว!!

เวลาทำการ: 10.00-21.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 490 บาท, เด็ก อายุ 3-11 ปี 350 บาท