เที่ยวทะเล ได้ที่ไหน เดือนอะไรบ้าง

ถ้ามีคนมาบอกกับคุณว่า “ทะเลไทย ไปเที่ยวได้ทุกฤดู” ใครหลายคนคงคิดว่าพูดเกินจริง ยังไงทะเลของไทยคงเที่ยวได้เฉพาะในหน้าร้อนและฤดูหนาวปลายปี คงไม่มีใครคิดแปลกมาเที่ยวทะเลท่ามกลางสายฝนในฤดูฝนกันหรอก ดีไม่ดีเจออันตรายจากมรสุมพ่วงมาอีกต่างหาก

เที่ยวทะเล ไปได้ทุกฤดู

อยากบอกสมาชิก Travel MThai มิตรรักทุกท่านทราบว่า ความจริงแล้วทะเลไทยบางที่ สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องศึกษาตามข่าวสภาพภูมิอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างเป็นระยะ เพื่อเป็นการเตรียมแผนเที่ยวอย่างพร้อมที่สุด ดังนั้นก่อนจะไปรู้จักสถานที่ เที่ยวทะเล ได้ที่ไหนและเดือนอะไรบ้าง ก่อนอื่นขออธิบายเกี่ยวกับ ประเภทลมมรสุมและตัวย่อ กันก่อนครับ

เริ่มต้นที่ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ลมมรสุม ตอ./. เป็นลมที่พัดมาจากประเทศจีน จะพาอากาศแห้งและเย็นลงมาปกคลุมตอนเหนือ ถึงตอนกลางของประเทศไทย แล้วหอบเอาความชื้นในอ่าวไทย ไปตกเป็นฝนในแถบภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย

ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หรือ ลมมรสุม ตต./. เป็นลมที่พัดจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย โดยหอบเอาความชื้นจากทะเลมาปะทะแนวเขา เกิดเป็นฝนตกชุกในแถบภาคใต้ฝั่งอันดามัน

เมื่อทราบประเภทลมมรสุมคราวๆ กันแล้ว ทีนี้เรามาดูสภาพอากาศในแต่ละเดือนกันดีกว่า เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกไปเที่ยวทะเลในแต่ละที่กันครับ

เดือนมกราคม

เดือนนี้มีลมมรสุม ตอ./. พัดจากประเทศจีนลงมา ก่อให้เกิดความหนาวเย็นในพื้นที่ตอนบนของไทย แต่เดี๋ยวนี้แทบไม่มีความหนาวแล้ว นอกจากบนยอดดอย (เกิดจากภาวะโลกร้อนนั่นเอง) ส่วนการท่องเที่ยวทางทะเล ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

สำหรับทะเลอันดามัน ก็ไม่มีลมมรสุม ตต./. ทำให้ทะเลค่อนข้างสงบ สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเดือนมกราคม คือ หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ ภูเก็ต พีพี ทะเลกระบี่ ทะเลตรัง ลงไปถึงหมู่เกาะตะรุเตา

สำหรับฝั่งอ่าวไทย ถือเป็นช่วงที่ดีมาก สำหรับการดำน้ำที่ พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะช้าง ส่วนเกาะเต่า และทะเลชุมพร ก็สามารถเริ่มไปได้ตั้งแต่ช่วงนี้

เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม

เป็นช่วงที่ลมมรสุม ตอ./. ที่พัดมาจากประเทศจีน เริ่มน้อยลง เป็นเดือนที่สามารถท่องเที่ยวทางทะเลได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน

สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด สำหรับฝั่งอันดามัน คือ สิมิลัน – สุรินทร์ หินแดง หินม่วง (ที่เรียกว่าหินแดง ก็เพราะว่า ปะการังที่เกาะที่กองหินนั่น เมื่อโดนแสงแดดจะมองห็นเป็นปะการังอ่อนสีแดง) พีพี ทะเลกระบี่ ทะเลตรัง เช่น เกาะไหง เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะรอก หมู่เกาะห้า ตะรุเตา เหลาเหลียง อาดัง ราวี หลีเป๊ะ เกาะไข่

ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพะงัน เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เรียกได้ว่าทั่วทุกที่ของทะเลไทยเลยทีเดียว

เดือนเมษายน

เดือนนี้จะมีพายุพัดจากอ่าวเบงกอล เข้ามาทางภาคใต้ตอนบนในช่วงกลางเดือน และมาเป็นช่วงๆ ไม่สม่ำเสมอ ทำให้มีลมแรง และคลื่นสูงบริเวณ หมู่เกาะสิมิลัน และหมู่เกาะสุรินทร์ในบางวัน ส่วนอันดามันตอนใต้ไม่ค่อยได้รับอิทธิพลจากลมนี้

ทะเลอันดามันใต้ ตั้งแต่ ภูเก็ต พีพี หินแดง หินม่วง หมู่เกาะในทะเลตรัง ลงไปถึงหมู่เกาะตะรุเตา จึงเป็นบริเวณที่น่าเที่ยวมากที่สุด

ส่วนฝั่งอ่าวไทย จะเริ่มมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทางอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้มีฝนตกประปราย และมีคลื่นลมในทะเลบ้าง แต่ยังไม่มีผลกระทบกับ การท่องเที่ยวบริเวณ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ทะเลชุมพร หรือ ทะเลช่วงบน เช่น พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง และเกาะกูด

เดือนพฤษภาคม

เดือนนี้เริ่มมีลมมรสุม ตต./. พัดเข้ามาทางฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วงต้นเดือน – กลางเดือนยังพอดำน้ำ หรือท่องเที่ยวทางหมู่เกาะสิมิลัน และหมู่เกาะตะรุเตาได้บ้าง แต่อาจเจอคลื่นสูงบ้างในบางวัน ส่วนร่องความกดอากาศต่ำ ที่ก่อให้เกิดพายุหมุนเขตร้อนในทะเลจีนใต้ ซึ่งได้พาดผ่านทางตอนใต้ ของประเทศไทย ตั้งแต่เดือนเม.. จะเคลื่อนตัวสูงขึ้นมาถึงเวียดนาม และเกิดลมพายุพัดเข้าฝั่งทางเวียดนาม และลาว ทำให้มีฝนตกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย แต่ไม่มีผลกระทบต่อ อ่าวไทย ทั้งตอนบน และตอนกลาง

ทำให้ยังไปเที่ยวทะเลในฝั่งนี้ได้ เช่น เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เกาะเต่า เกาะนางยวน และทะเลชุมพร ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี รวมไปถึงกองหินโลซิน ที่จังหวัดนราธิวาส (กองหินโลซิน ลักษณะใต้น้ำเป็นลานหินแผ่กระจายเป็นแนวกว้าง ความลึกสูงสุด 40 เมตรเนื่องจากโลซินเป็นจุดดำน้ำที่ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งมาก จึงเป็นจุดดำน้ำที่น้ำใสที่สุดของทะเลฝั่งอ่าวไทย และมีแนวปะการังแข็งที่สมบูรณ์และหลากหลายชนิด เป็นที่อาศัยและแหล่งหากินของฝูงปลาต่างๆ

เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม

ตั้งแต่เดือน พฤษภาคมถึงตุลาคม จะมีลมมรสุม ตต./. พัดเข้าทางฝั่งทะเลอันดามัน ในระหว่างนี้ จึงควรงดท่องเที่ยวในทะเลแถบนี้

พื้นที่ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวคือ พื้นที่ทั้งหมดของอ่าวไทย ทั้งตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง เช่น เกาะล้าน เกาะเสม็ด หมู่เกาะมัน เกาะช้าง

เดือนสิงหาคม – กันยายน

ลมมรสุม ตต./. ยังคงมีอิทธิพลกับทะเลอันดามันอยู่ ส่วนร่องความกดอากาศต่ำก็เริ่มเคลื่อนตัวจากประเทศจีนตอนใต้ ลงมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีลมกรรโชกแรง และฝนตกอย่างต่อเนื่อง

ทะเลที่เหมาะสำหรับเดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้คือ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง ลงไปถึงกองหินโลซิน ส่วนอ่าวไทยตอนบน พัทยา สัตหีบ แสมสาร อาจมีลมแรง และคลื่นสูงในบางวัน สำหรับอันดามันใต้ ยังคงเป็นเหมือนเดือน มิ.. – ..

เดือนตุลาคม

ลมมรสุม ตต./. เริ่มอ่อนกำลังลง แต่ยังคงมีอยู่บ้าง เดือนนี้ถือเป็นเดือนแรกของการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร สำหรับนักดำน้ำมือใหม่ ควรรออีกซักนิด อย่าเพิ่งรีบไปดำน้ำในช่วงนี้ เพราะการขึ้นลงเรือจะลำบากพอสมควร แต่ไม่เป็นปัญหา

สำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ ส่วนพายุหมุนเขตร้อนทางฝั่งตะวันออกของไทย จะเริ่มเคลื่อนตัวลงมายังอ่าวไทยตอนกลาง ทำให้มีลม และฝนตกในพื้นที่ เกาะเต่า เกาะนางยวน และเกาะสมุย และกองหินโลซิน ส่วนอ่าวไทยตอนบน ได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย

เดือนพฤศจิกายน

อิทธิพลของลมมรสุม ตต./. หมดไปแล้ว แต่อาจยังมีลม ซึ่งทำให้เกิดคลื่นสูง 1-2 เมตร เป็นช่วงๆ ส่วนพายุหมุนเขตร้อน ยังคงมีผลต่ออ่าวไทยตอนล่างอยู่บ้าง ในช่วงนี้จะมีลมมรสุม ตอ./. เริ่มพัดจากจีนลงมาไทย นำมาเพียงความหนาวเย็นเท่านั้น ไม่มีผลกระทบกับการท่องเที่ยวทางทะเล

พื้นที่ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวในเดือนนี้ได้แก่ ทะเลอันดามันทั้งเหนือ และใต้ อ่าวไทยตอนบน บริเวณ พัทยา สัตหีบ แสมสาร เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด

ส่วนอ่าวไทยตอนกลาง และตอนล่าง บริเวณ เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะสมุย และกองหินโลซิน ควรชะลอการท่องเที่ยวไปก่อน

เดือนธันวาคม

พายุหมุนเขตร้อนที่มาจากทะเลจีนใต้ เริ่มอ่อนกำลังลง ลมมรสุม ตอ./. ไม่มีผลกับการท่องเที่ยวทางทะเล ทำให้ในเดือนนี้ สามารถไปเที่ยวทะเล ได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งอันดามันเหนือ – ใต้ อ่าวไทยตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง

จะเห็นได้ว่าช่วงระหว่างเดือนธันวาคม – มีนาคม สามารถเที่ยวทะเลไทยได้ทุกที่ เรียกได้ว่าเป็น 4 เดือนที่เหมาะกับการท่องเที่ยวทะเลจริงๆ

***ขอย้ำ ข้อมูลนี้อาจจะใช้ประกอบการพิจารณาได้ แต่ไม่ได้ทั้งหมด เพราะบางครั้งอาจมีพายุเข้ามากะทันหัน ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นพายุลมแรง ควรงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อนเป็นการดีที่สุดครับ

นอกจากนี้ ขอเพิ่มเติมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เกี่ยวกับธงที่ปักอยู่ตามชายหาด นั้นเป็นสัญญาณเตือนนักท่องเที่ยวที่มาเล่นทะเล โดยมีความหมาย ดังนี้

ธงสีแดง 1 ผืน แสดงว่าอันตราย

ธงสีแดง 2 ผืน แสดงว่าพื้นที่นั้นอันตรายมาก

ธงสีเหลือง แสดงว่าให้ระวัง ไม่ควรเล่นน้ำตามลำพัง หากว่ายน้ำไม่เป็น ควรสวมใส่เสื้อชูชีพหรือห่วงยาง เพื่อป้องกันการจมน้ำ

ห้ามว่ายน้ำเข้าใกล้เรือขณะที่เรือกำลังแล่นอย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกเรือชนหรือใบพัดเรือบาด และผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง

เมื่อศึกษาข้อมูลเบื้องต้นพอเข้าใจแล้ว คราวนี้ขึ้นอยู่กับผู้เที่ยวเองจะเตรียมตัวพร้อมขนาดไหน ทั้งเงินพร้อม เวลาพร้อม หรือยัง? ถ้าพร้อมแล้ว let’s go เที่ยวทะเลไทย ไปได้ทุกฤดูกันได้เลยครับ 😀

ข้อมูลและภาพ travel.ladytips.com / wiki / tmd.go.th/
เรียบเรียงโดย Travel MThai

เที่ยวเกาะ 5 แห่ง ที่มีสัตว์อาศัยมากกว่าคนซะอีก น่ารักจนอยากติดเกาะ

เที่ยวเกาะ 5 แห่ง ที่มีสัตว์อาศัย
มากกว่าคนซะอีก น่ารักมาก!

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไป เที่ยวเกาะ แต่ไม่ใช่เกาะที่มีแค่น้ำทะเลใส หาดทรายขาวเท่านั้น เพราะเกาะเหล่านี้เป็นอาณาจักรของสัตว์น้อยน่ารัก ที่จะทำให้คนรักสัตว์ฟินไปตามๆ กัน

  1. เกาะกระต่าย โอกุโนชิมา
    ประเทศญี่ปุ่น

กาะกระต่าย หรือ เกาะโอกุโนชิมา เป็นเกาะเล็กๆ อยู่นอกชายฝั่งจังหวัดฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นก็คือกระต่ายนับร้อยตัว ที่คอยวิ่งไล่ตามนักท่องเที่ยว โดยไม่มีท่าทีตื่นกลัวแม้แต่น้อย และรุมกินของอร่อยๆ จากคนที่เดินทางมาชมความน่ารักของพวกมัน

***********************************************************

  1. หาดหมู เกาะเมเจอร์ เคย์
    ประเทศบาฮามาส

หาดหมู (Pig Beach) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า เกาะเมเจอร์ เคย์ (Major Cay) เกาะทรายเล็กๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของแนวปะการังในเขตเอ็กซูมา (Exuma) ของประเทศบาฮามาส เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ถูกครอบครองโดยน้องหมูอู๊ดๆ ที่มีประมาณ 20 กว่าตัว

หากว่ายน้ำกับฝูงปลาเบื่อแล้ว ลองมาว่ายกับน้องหมู (ทะเล)  ดูบ้าง  หรือเลือกนอนอาบแดดบนชายหาดที่เต็มไปด้วยหมูน้อยน่ารักเดินขวักไขว่ไปมา พร้อมต้อนรับท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร

***********************************************************

  1. หมู่เกาะกาลาปากอส
    ประเทศเอกวาดอร์

หมู่เกาะกาลาปากอส เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติกาลาปากอส ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากแผ่นดินใหญ่ไปประมาณ 1,000 กิโลเมตร อยู่ในเขตการปกครองของประเทศเอกวาดอร์

ขึ้นชื่อเรื่องดินแดนของสัตว์และพืชพรรณหายาก มาที่นี่จะได้พบกับสัตว์แปลกๆ บนเกาะ หลายชนิด เช่น Galapagos tortoises เต่ายักษ์กาลาปากอส, Marine iguana อีกัวน่าทะเลกาลาปากอส, Magnificent Frigatebird นกโจรสลัดแม็กนิฟิเชี่ยน, Galapagos sea lions สิงโตทะเล, ปู Sally Lightfoots เป็นต้น

***********************************************************

  1. ชายหาดฟลามิงโก้ หมู่เกาะอารูบา
    แคว้นอารูบา

ทิ้งห่วงยางฟลามิงโก้เอาไว้ที่บ้านก่อน แล้วบินไปเที่ยวทะเลที่มีนกฟลามิงโก้จริงๆ กันดีกว่า! ชายหาดนกฟลามิงโก้ เป็นชายหาดส่วนตัวของโรงแรม Renaissance Resort & Casino ที่ตั้งอยู่ในแคว้นอารูบา (Aruba) หนึ่งในเกาะเล็กๆ ของเนเธอร์แลนด์ บนทะเลแคริบเบียน ซึ่งคนที่จะเข้ามายังชายหาดแห่งนี้จะต้องเป็นแขกที่เข้าพักของโรงแรมเท่านั้น สามารถเข้าไปถ่ายรูปและให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด

***********************************************************

  1. หาดปลาดาว เกาะฟูก๊วก
    ประเทศเวียดนาม

เกาะฟูก๊วก เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวไทย มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำสีฟ้าใส จนได้รับสมญานามวา เป็นไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ ซึ่งมีอยู่หลายหาดทีเดียวที่น่าไปเดินย่ำ เราขอแนะนำ หาดไบ่สาว หรือ หาดปลาดาว เพราะในทุกเช้าจะมีปลาดาวสวยๆ มาเกยตื้นอวดโฉมเต็มชายหาด ห้ามพลาดเด็ดขาด

***********************************************************

  1. เพนกวินรอยัล เกาะแมคควารี
    ประเทศออสเตรเลีย

เพนกวินดุ๊กดิ๊กจำนวนมหาศาล ที่น่ารักจนฉุดไม่อยู่ พากันอพยพขึ้นเกาะแมคควารี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากเพนกวินรอยัลแล้ว ยังมีแมวน้ำและสิงโตทะเล นอนเกยตื้นพุงพลุ้ยอยู่ริมชายฝั่งด้วยนะ

น่ารักมากใช่ไหมล่ะ >< ถ้าคนรักสตว์ล่ะก็ จะให้อยู่บนเกาะทั้งวันก็ยังไหว จะไปว่ายน้ำกับฟลามิงโก้ นอนชายหาดที่มีปลาดาวรายล้อม หรือดูหมูนอนขึ้นอืดอยู่บนชายฝั่ง แค่คิดก็ฟินนน

ขอบคุณรูปภาพจาก : robdann,pinterest, travel.thaiza

เกาะขาม สัตหีบ เที่ยววันธรรมดาได้แล้วนะ ไม่ง้อวันหยุดอีกต่อไป

เกาะขาม สัตหีบ
เที่ยววันธรรมดาได้แล้วนะ

ถือเป็นเรื่องดีของคนชอบเที่ยวทะเลสวย น้ำใส ใกล้กรุงเทพฯ  “เกาะขาม” ตอนนี้เขาเปิดให้เที่ยววันธรรมดาได้แล้ว จากเดิมที่เปิดเฉพาะ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ไม่ต้องเจอคนเยอะให้วุ่นวาย เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม อนุญาตให้นักท่องเที่ยว เยี่ยมชมเกาะขาม ได้ทุกวัน โดยวันธรรมดา จะมีรอบเรือแค่ช่วงเช้าเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09.00 – 10.00 น.

อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เป็นเกาะเล็กๆ ในอำเภอสัตหีบ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกองทัพเรือภาคที่ 1 แบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งทิศเหนือ และฝั่งทิศใต้ โดยฝั่งทิศเหนือจะมีหาดทรายสีขาวนวล เหมาะกับลงเล่นน้ำ หรือเล่นกีฬาชายหาด ส่วนหาดฝั่งทิศใต้ เป็นหาดหินกรวดทรายหยาบ

ลึกลงไปใต้ท้องทะเลฝั่งทิศใต้ มีปะการังอุดมสมบูรณ์กระจายอยู่รอบเกาะ ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล และยังมีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกหว่ายมาให้สัมผัสแบบใกล้ชิด รวมไปถึง กุ้ง หอย ปู เม่นทะเล และปลิงทะเล เรียกว่าดำเพลินจนตัวดำเลยทีเดียว

แต่ถ้าใครไม่ชอบดำน้ำ ก็สามารถนั่งเรือท้องกระจกชมสัตว์ใต้ทะเลได้เหมือนกัน มีเรือคายักให้พาย มีจักรยานให้ปั่น หรือเดินชมพันธุ์ไม้ธรรมชาติตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนเกาะขาม

ทั้งนี้เกาะขามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรม และเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้จองล่วงหน้า เพราะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 300 คน

ข้อปฏิบัตินักท่องเที่ยวในการเยี่ยมชมเกาะ

  1. อุทยานใต้ทะเลเกาะขามขอสงวนสิทธิ์โดยไม่แจ้งล่วงหน้าในการเดินทางไปเกาะ กรณีที่สภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยอย่างกะทันหัน
  2. การท่องเที่ยวเป็นเชิงอนุรักษ์ โดยเน้นการชื่นชมธรรมชาติอย่างแท้จริง และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรมบนเกาะ
  3. บนเกาะมีอาหาร น้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวจำหน่ายราคาปกติ
  4. ไม่อนุญาตให้นำอาหารที่บรรจุในกล่องโฟม หรือเครื่องดื่มที่เป็นขวด/แก้ว ขึ้นไปบนเกาะ
  5. ไม่แนะนำให้ซื้ออาหารไปจากบนฝั่ง เพราะอาหารบางชนิด จะส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่น และบางชนิดเป็นอาหารที่แมลงวันชอบ ประกอบกับเป็นภาระในการหอบหิ้ว ซึ่งจะไม่สะดวกในการขึ้นเรือ ลงเรือ แต่หากจำเป็น กรุณานำอาหารไปแค่เพียงพอต่อการรับประทานเท่านั้น เพราะอาหารส่วนที่เหลือจะไปเพิ่มปริมาณขยะบนเกาะ
  6. ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดขึ้นไปบนเกาะ
  7. จำกัดการชมปะการัง กรณีน้ำทะเลมีระดับลดลงจนเป็นอันตรายต่อปะการัง
  8. ห้ามสัมผัส จับต้อง หรือเหยียบย่ำปะการัง ตลอดจนห้ามเก็บเปลือกหอย ซากหิน ปะการัง หรือพืชพรรณไม้บนเกาะ
  9. กรุณารักษาช่วยรักษาสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ไม่นำวัสดุที่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมขึ้นไปบนเกาะ การอาบน้ำจื
  10. งดใช้สบู่และแชมพู เมื่อเดินทางกลับขอให้ช่วยเก็บขยะหรืองสิ่งของเหลือใช้ที่ท่านนำมากลับไปทิ้งบนฝั่งด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะขาม

– รถรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ระหว่างพื้นที่จอดรถไปยังท่าเทียบเรือ
– เรือรับ-ส่งนักท่องเที่่ยว ระว่างท่าเทียบเรือไปยังเกาะขาม
– ร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มบนเกาะขาม
– ห้องอาบน้ำ-ห้องส้วมบนเกาะขาม
– วิทยากรบรรยายให้ความรู้แต่นักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนเกาะขาม
– เสื้อชูชีพและหน้ากากดำน้ำ (Snorkel) ให้เช่าในราคาชุดละ 50 บาท

รอบเรือข้ามไปเกาะขาม

  • ขาไป     08.30 / 09.30 / 10.00 / 11.00 น.
  • ขากลับ  13.30 / 14.30 / 15.30 / 16.30 น.

ราคาตั๋วข้ามไปเกาะขาม

  • ผู้ใหญ่ คนละ 250 บาท
  • เด็ก ส่วนสูง 90 -120 ซม. คนละ 200 บาท
  • ชาวต่างชาติ
    – ผู้ใหญ่ คนละ 500 บาท
    – เด็ก สูง 90 -120 ซม. คนละ 300 บาท

*รวมค่าเดินทางไป-กลับ ค่าบริการ ห้องอาบน้ำ ฟรี! เรือท้องกระจกชมปะการัง ราคานี้ไม่รวมอุปกรณ์ดำน้ำ (ต้องการดำน้ำ ชุดละ 50 บาท)

 ช่องทางการจองและจำหน่ายตั๋ว

สามารถซื้อตั๋วได้ที่ บริเวณประตูทางเข้ากรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ (หมู่บ้านช่องแสมสาร) ถัดจากประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

การเดินทาง

จากเส้นมอเตอร์เวย์กรุงเทพ ฯ ชลบุรี เข้าสู่ถนนเส้น 331 ผ่านแยกเกษมพล และแยก กม.10 (รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ) ตรงไปประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางเข้าบ้านแสมสาร จากนั้นเดินทางด้วยเรือโดยสาร ข้ามไปยังเกาะขาม ได้ที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สามารถจอดรถได้ที่ พิพิธภัณฑ์วิทยาเกาะและทะเล หรือบริเวณจุดจำหน่ายบัตร และให้นักท่องเที่ยวที่จองไว้มารับตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว ในเวลา 07.00-09.00 น.

ข้อมูลเพิ่มเติม : kohkham

ขอบคุณข้อมลูและรูปภาพจาก : kohkham, อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม