5 ทะเลมัลดีฟส์เมืองไทย สวยจับใจ อ้อนแฟนพาไปที!

1

เว็บไซต์ Skyscanner ได้แนะนำทะเลสวยในเมืองไทย ที่สวยจับใจเหมือนทะเลมัลดีฟส์ โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ไปเที่ยวถึงเมืองนอก เพราะทะเลเมืองไทยก็สวยไม่แพ้ที่ใดเหมือนกัน และบางที่ก็สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูด้วย ^^ ตามไปดูทั้ง 5 ที่กันเลยดีกว่า …

5 ทะเลมัลดีฟส์เมืองไทย 
สวยจับใจ อ้อนแฟนพาไปที!

  1. เกาะรอก จังหวัดกระบี่

2

เกาะรอกเป็นเกาะสงบ มีธรรมชาติสวย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และตั้งอยู่ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างทะเลตรังและทะเลกระบี่ บนเกาะรอกมีส่วนของสันทรายเชื่อมต่อเกาะรอกในและรอกนอก ทรายที่นี่ขาวมากประดุจแป้งและนุ่มเท้าสุดๆ ที่เปรียบได้เป็นมัลดีฟส์ในไทย นอกจากนั้นแล้วคนที่ชอบดำน้ำจะแฮปปี้อย่างมากเพราะเกาะรอกมีแนวปะการังและหมู่ดอกไม้ทะเลรายล้อมอยู่รอบเกาะ

ไปเที่ยวเดือนไหนดี : ช่วงเวลาที่ดีสุดในการไปเยือน คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน

การเดินทาง : วิธีที่สะดวกและไวที่สุด คือ นั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดตรังและไปลงเรือที่ท่าเรือปากเมงไปเกาะรอก ใช้เวลานั่งเรือราว 1 ชั่วโมง หรือขับรถมายังจังหวัดกระบี่ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีและเข้าทางหลวงหมายเลข 41 สู่ อ.ทุ่งสงและแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 403 สู่ห้วยยอดและตัดเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) สู่ตรังและไปท่าเรือปากเมงโดยเส้นทางตรัง-สิเกา-ปากเมง (ทางหลวงหมายเลข 4046-4162)

สำหรับการนั่งเครื่องบินมาลงที่กระบี่และต่อรถไปลงที่ท่าเรือกระบี่-ลันตา นั่งเรือประมาณ 30 นาที และสำหรับเรือจากเกาะลันตาไปเกาะรอกก็ประมาณ 30-40 นาที

  1. หลีเป๊ะ จังหวัดสตูล

3

เกาะสวยชื่อดังแห่งทะเลใต้ หลีเป๊ะมีทุกสิ่งที่คนรักทะเลถวิลหา ตั้งแต่ชายหาดสวย ทรายขาว น้ำทะเลใสเห็นปลาแหวกว่ายริมหาด จุดดำน้ำชมปะการังทั้งน้ำลึกและน้ำตื้นหลายจุด และที่เที่ยวเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ไม่ไกลกัน นี่มันมัลดีฟส์ไทยแลนด์ชัดๆ

นอกจากนั้นบนตัวเกาะก็ยังมีส่วนของหมู่บ้านชาวเล มีจุดวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ หลายแห่ง มีจุดชมวิวมุมสูงเพื่อชมโพ้นทะเลไกลบนเนินเขาที่สามารถเห็นวิวไปไกลได้ถึงเกาะอาดังเลยทีเดียว แถมหลีเป๊ะยังมีถนนคนเดินด้วย! สินค้าและอาหารพื้นเมืองยามค่ำคืนที่คุณจะได้อิ่มอร่อยกับเมนูขึ้นชื่อ “โรตีหลีเป๊ะ” พูดแล้วต้องรีบจองตั๋วเกาะมัลดีฟส์ไทยแห่งนี้ด่วนเลย!

ไปเที่ยวเดือนไหนดี : เดือนที่อากาศดี ปลอดลมมรสุม เหมาะแก่การเที่ยวหลีเป๊ะที่สุด คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม

การเดินทาง : วิธีที่สะดวกที่สุด คือ นั่งเครื่องบินมาลงที่หาดใหญ่ และต่อรถตู้หรือรถประจำทางไปที่ท่าเรือปากบาราเพื่อลงเรือไปยังหลีเป๊ะ ระยะเวลานั่งรถไปยังท่าเรือปากปาราราว 2 ชั่วโมง เรือที่ให้บริการมี 2 ประเภท คือ

  • เรือเร็วสปีดโบ๊ท ใช้เวลาเดินทางราว 1.30 ชั่วโมง
  • เรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะทั่วไป ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง

สำหรับการขับรถมาเองนั้น จะต้องใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จากกรุงเทพฯ ถึงชุมพรและเปลี่ยนมาใช้ทางหลวงหมายเลข 41 สู่นครศรีธรรมราชและพัทลุงไปจนถึงอ.รัตภูมิ จ.สงขลาเพื่อกลับสู่ทางหลวงหมายเลข 4 อีกครั้งที่จะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 406 เข้าจ.สตูล จากนั้นให้วิ่งตามเส้นทางฉลุง-ละงูเพื่อไปยังท่าเรือปากบารา มีบริการที่จอดรถบริเวณท่าเรือ

  1. เกาะเต่า-เกาะนางยวน
    จังหวัดสุราษฎร์ธานี

4

เกาะสวยที่โด่งดังเรื่องทะเลแหวก ทรายขาว น้ำทะเลใส เป็นเส้นทางทริปเที่ยวเกาะคู่ที่คุ้มสุดๆ ไฮไลท์ของเกาะเต่าและเกาะนางยวนที่นอกเหนือจากทะเลแหวกแล้ว ที่นี่ยังมีแนวปะการังใต้น้ำยาวกว่า 8 ก.ม. มีจุดดำน้ำสวยๆ หลายแห่ง เป็นแหล่งชมปลาทะเลสวยงามของไทย

อีกทั้งการเดินทางไปเที่ยว-ไปพักก็สะดวกสบายมาก สามารถลงเรือไปยังเกาะเต่า-นางยวนได้จากท่าเรือหลายแห่ง ซึ่งจะว่าไปแล้ว หากเทียบเรื่องความงามใกล้เคียง ที่นี่ก็น่าจะยกให้เป็นเกาะมัลดีฟส์ประเทศไทยได้อีกแห่งเช่นกัน

ไปเที่ยวเดือนไหนดี : ทะเลแถบนี้สามารถเที่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดปี

การเดินทาง : สามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่ชุมพรหรือสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ได้และไปต่อเรือยังท่าเรือที่ให้บริการต่างๆ หลายแห่ง ท่าเรือเด่นๆ เช่น

  • จากชุมพรไปขึ้นเกาะนั้น สามารถไปลงเรือที่ท่าเรือเร็วลมพระยา และนั่งเรือไปเกาะเต่าราว 1.45 ชั่วโมง หรือไปลงเรือที่ท่าเรือท่ายางที่มีบริการของเรือนอน (เดินทาง 6 ชั่วโมง) และเรือด่วน (เดินทาง 2 ชั่วโมง)
  • จากสุราษฎร์ธานีไปขึ้นเกาะเต่า สามารถไปขึ้นเรือที่ท่าเรือซีทราน (เกาะสมุย) ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง
  • สำหรับการขับรถมาเที่ยวสามารถใช้ถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าสู่ชุมพรเพื่อไปยังท่าเรือ หรือถ้าจะลงเรือจากสุราษฎร์ธานีจะต้องขับจากชุมพร-สุราษฎร์ธานีด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอ.ไชยา สู่สุราษฎร์ธานีและไปยังท่าเรือที่ต้องการ
  1. เกาะกูด จังหวัดตราด

5

เกาะท่องเที่ยวทะเลไทยฝั่งตะวันออกยอดนิยม เกาะกูดมีหาดสวยๆ อยู่รอบเกาะ โดยเฉพาะที่อ่าวกล้วยที่มีหาดทรายขาวยาวกว่า 300 เมตร แถมน้ำทะเลที่นี่ก็ลงเล่นได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวคลื่นซัดไปนอกชายฝั่ง มีจุดชมวิวอาทิตย์อัสดงสุดโรแมนติก

สำหรับคนที่ชอบดำน้ำก็สามารถไปส่องโลกใต้น้ำกันได้ที่บริเวณอ่าวยายเกิดและเกาะไม้ซี้ มากไปกว่านั้นเกาะกูดยังมีน้ำตกสวยงามในตัวเกาะและที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่สามารถไปเที่ยวชมได้อีกด้วย

นอกจากนั้นในระยะหลังมานี้ก็มีที่พักแนวกระท่อมกลางน้ำสไตล์ทะเลมัลดีฟส์ไทยหลายแห่ง ใครที่อยากไปมัลดีฟส์แต่เวลามีน้อยหรืองบจำกัด ลองมาเที่ยวเกาะมัลดีฟส์เมืองไทยที่ตราดนี้แทนก็ได้ ทะเลไทย สวยไม่แพ้ทะเลไหนนะจะบอกให้

ไปเที่ยวเดือนไหนดี : เกาะกูดนั้นสามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ฤดูที่อากาศดีสุดและเป็นช่วงไฮซีซั่นจะอยู่ที่ระหว่างเดือนตุลาคม-เดือนพฤษภาคม

การเดินทาง : สามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดตราดและต่อเรือที่ให้บริการต่างๆ ดังนี้

  • ท่าเรือสปีดโบ๊ทและเรือเร็ว ใช้เวลาราว 45 นาที – 1.30 ชั่วโมง ได้แก่ ท่าแหลมศอกและท่าเรือด่านเก่า
  • ท่าเรือธรรมดา ใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมง ได้แก่ ท่าเรือแหลมงอบ ท่าเรือโชคสาธร
  • สำหรับคนที่ขับรถมาให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) และตรงไปลงเรือที่ท่าเรือดังที่กล่าวไปข้างต้น
  1. เกาะพยาม จังหวัดระนอง

6

“เกาะพยาม ระนอง มัลดีฟส์เมืองไทย” ที่ใครๆ กำลังกล่าวขวัญถึงกันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีน้ำทะเลสีสวยใส ชายหาดขาวกว้างใหญ่น่านอนเล่น และมีความสงบเป็นส่วนตัวแล้ว เกาะพยามยังเป็นที่เที่ยวทางทะเลแห่งแรกๆ ในไทยที่มีการจัดทำกระท่อมที่พักกลางน้ำสไตล์มัลดีฟส์ขึ้นมา เรียกว่าเอาใจนักท่องเที่ยวสุดๆ

มากไปกว่านั้นแล้ว ในตัวเกาะพยามก็ยังมีส่วนของคลองในเกาะที่ไหลไปสู่ทะเลอันดามัน จุดชมวิวบริเวณนี้บอกเลยว่าสวยมาก มีทิวแถวไร่มะม่วงหิมพานต์และสวนยางพาราของชาวบ้าน กิจกรรมหลักของการไปเที่ยวที่เกาะพยาม คือ “ไปรีแลกซ์” แบบลืมโลกวุ่นวาย พูดแล้วก็ชักอยากไปเป็นชาวเกาะพยามขึ้นมาตะหงิดๆ แล้วเนี่ย

ไปเที่ยวเดือนไหนดี : เดือนที่น่าไปเที่ยวมากที่สุด คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม

การเดินทาง :

  • สามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่ระนองและต่อรถไปยังท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น เรือที่ให้บริการข้ามไปเกาะพยามมี 2 ประเภท คือ
  • เรือข้ามเกาะธรรมดา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
  • เรือเร็วสปีดโบ๊ท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
  • สำหรับคุณที่เลือกจะขับรถไปยังระนองและต่อเรือขึ้นเกาะ สามารถใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) และแยกเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ที่อำเภอปากท่อ และตรงดิ่งไปยังจังหวัดระนอง และเดินทางไปท่าเรือที่อยู่ใกล้กับสถานีตำรวจปากน้ำ บริเวณท่าเรือมีบริการรับฝากรถด้วย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพดีๆ จาก https://www.skyscanner.co.th

หาโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ได้ที่ www.skyscanner.co.th

 

รับส่วนลด 500 บาท! เมื่อพักที่ พบทะเล รีสอร์ท

รับส่วนลด 500 บาท! เมื่อพักที่ พบทะเล รีสอร์ท

 

 

พบทะเล รีสอร์ท (Meet The Sea Resort) จ. ตราด

มอบส่วนลดทันที 500 บาท เมื่อจองโรงแรมนี้

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Travel Guru เท่านั้น!

 

pic5-swimming-pool

 

 

พบทะเล รีสอร์ท (Meet The Sea Resort) ชื่อโรงแรมเก๋ไก๋แห่งนี้ ตั้งอยู่ในอำเภอคลองใหญ่

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ติดทะเล มีชายหาดส่วนตัว มีสระว่ายน้ำริมทะเล อยุ่กลางแจ้ง

แยกระหว่างสระเด็กและสระผู้ใหญ่ สระผู้ใหญ่ มีจากุจซี่ ไว้นวดผ่อนคลายถึง 10 จุด รีสอร์ท

มีการออกแบบตกแต่งเสปนผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นไทย ได้อย่างลงตัวและแตกต่าง

เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบหมู่คณะ เป็นคู่รัก

 

 

บรรยากาศห้องพัก

ห้อง Standard Room

pic1-standard-room

pic3-standard-room

 

 

 

ห้อง Sea View

pic1-sea-view

 

 

 

ห้อง Suite

pic1-suite

 

 

 

 

ห้อง Family Room

pic1-family-room

 

 

 

บรรยากาศรอบโรงแรม

pic2-swimming-pool

pic8-swimming-pool

 

 

มีกิจกรรมต่างๆมากมาย ที่จะเติมเต็มวันพักผ่อนของคุณ

-ดำน้ำ

– ตกปลา

– ตกปลาหมึก

– พายเรือคายัก

-ขี่จักรยาน

– ชมแมงหิ่งห้อย

– เที่ยวตลาดการค้าชายแดน

– ชมจุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย

– ฟาร์มปูนิ่ม

– ธนาคารปูม้า

และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย

 

 

ที่อยู่ : อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

สอบถามเพิ่มเติมโทร: 02-100-8008