ร้อนนรกแตก! 10 อันดับสถานที่ร้อนที่สุดในโลก

01

แค่ได้ยินชื่อก็เพลีย ลมแทบจับแล้ว! แค่อากาศบ้านเราที่ยังไม่เข้าช่วงหน้าร้อนแบบเต็มตัว อากาศก็พุ่งสูงไปถึง 40℃ เรายังทนแทบไม่ไหวกันเลย แต่นี้เป็น 10 อันดับสถานที่ที่ร้อนที่สุดในโลก ร้อนจนนรกแตกกันไปข้าง!

เมือง Agha jari
ประเทศอิหร่าน (Iran)

02
Cr. http://www.nonstopten.com

เริ่มกันเบาๆ ที่ประเทศอิหร่าน ในหน้าร้อน เมือง Agha jari จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอย่างต่ำ ประมาณ 45℃

เมืองวาดีฮาฟา (Wadi Halfa)
ประเทศซูดาน (Sudan)

03

เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศซูดาน พื้นที่ส่วนมากเป็นทะเลทราย ใน 1 ปี แดดออกมากถึง 98% และมีปรริมาณน้ำฝนน้อยมาก เฉลี่ยปีละ 0.5 มม. เท่านั้น อุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดได้อยู่ที่ 48℃

Tirat Tavi
ประเทศอิสราเอล (Israel)

04

เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในเมือง Beit She’an ทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล ใกล้กับชายแดนและแม่น้ำจอร์แดน เคยมีการจดบันทึกอุณหภูมิสูงสุดในเวลากลางวัน ได้ถึง 54℃

Araouane
สาธารณรัฐมาลี

05
Cr. Travel Photographs By Rosemary Sheel

หลายคนอาจจะงงว่ามีประเทศนี้ด้วยหรอ? ประเทศมาลี หรือชื่อเป็นทางการว่า  สาธารณรัฐมาลี ตั้งอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก มีพรมแดนติดต่อประเทศแอลจีเรีย, ไนเจอร์, บูร์กินาฟาโซ เป็นต้น ซึ่ง Araouane นี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตทะเลทรายซาฮารา ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าร้อนและแห้งแล้งเป็นอันดับสามของโลก สภาพอากาศของที่นี่จะร้อนอบอ้าว ไม่มีฝนตก อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 54.4℃

ทิมบักตู (Timbuktu)
สาธารณรัฐมาลี

06

ทิมบักตู หรือ ตงบุกตู เป็นเมืองตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ และตัั้งอยู่ในเขตทะเลทรายซาฮารา เดือนที่ร้อนที่สุดของเมืองนี้ จะอยู่ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 40℃ และถึงแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิก็จะไม่ลดต่ำลงเกิน 30℃

Kebili
ประเทศตูนิเซีย

07

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศตูนิเซีย เป็นประเทศอาหรับมุสลิมในแอฟริกาเหนือ เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ย้อนหลังไปกว่า 200,000 ปี ซึ่งอุณหภูมิที่เคยจดบันทึกสูงสุดอยู่ที่ 55℃ แต่ถึงจะร้อนขนาดไหน ก็ยังมีเมืองท่องเที่ยวที่หลายคนหลงใหล คือ  มืองซิดิ บู ซาอิด (Sidi Bou Said) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ดินแดงสวรรค์แห่งเมืองฟ้าขาว

เมืองกูดามิส (Ghadames)
ประเทศลิเบีย (Libya)

08

เมืองกูดามิสได้รับฉายาว่า ไข่มุกแห่งทะเลทราย เป็นเมืองโอเอซิสทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอาหรับลิเบีย เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดก่อนยุคซาฮาราซะอีก  บ้านเรือนยังคงสภาพเดิมเหมือนในอดีต จะมีการใช้วัสดุจากอิฐและโคลน ตั้งอยู่ห่างจาดเมืองหลวงตริโปลี ไปประมาณ 462 กม. อุณหภูมิสูงสุดที่เคยจดบันทึกได้ คือ 55.2℃

Al ‘ Aziziyah
ประเทศลิเบีย (Libya)

09

เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศลิเบีย ห่างจากเมืองหลวงตริโปลี ไปประมาณ 41 กม. ซึ่งในเขตนี้เคยมีการบันทึกติดอันดับโลกว่า มีอุณหภูมิสูงสุดแห่งหนึ่ง อยู่ที่ 136.4 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 58℃

อาห์วาซ (Ahvaz)
ประเทศอิหร่าน

10

เป็นเมืองตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน เป็นเมืองที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล เฉลี่ยประมาณ 20 เมตร อุณหภูมิที่สูงที่สุดที่สัดได้ คือ 49.3℃

Death Valley ใน Greenland Ranch
สหรัฐอเมริกา

11

Death Valley หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “หุบเขาแห่งความตาย” เป็นทะเลทรายอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา บริเวณเขตแดนระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียกับรัฐเนวาดา เป็นเขตที่แห้งแล้งสุดๆ และอทบจะไม่มีฝนตกเลย สถิติอุณหภูมิร้อนที่สุดอยู่ที่  56.7 ℃ หรือ 134.0 ฟาเรนไฮต์

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : www.nonstopten.com
เรียบเรียง : Travel.MThai

บ้านต้นไม้ สุดมหึมา แรงบันดาลใจจากพระเจ้า

บ้านต้นไม้ สุดมหึมา แรงบันดาลใจจากพระเจ้า

01

บ้านต้นไม้ สุดมหึมา นี้สร้างสรรค์โดย รัฐมนตรี Horace Burgess ตั้งอยู่ที่ เมือง Crossville รัฐ Tennessee สหรัฐอเมริกา มีความสูงกว่า 100 ฟุต Burgess เล่าว่าแรงบันดาลใจมาจากขณะสวดมนต์วันหนึ่ง เขาได้ยินเสียงจากพระเจ้า ประสงค์ให้เขาสร้าง บ้านต้นไม้ แด่พระองค์ Burgess จึงมุ่งมั่นและตั้งใจเนรมิตสถานที่แห่งนี้ด้วยแรงศรัทธา เพราะเชื่อว่าพระเจ้าจะมองลงมาอยู่เสมอ

02

03

บ้านต้นไม้ แห่งนี้ ใช้เวลาสร้างกว่า 11 ปี รัฐมนตรี Burgess เริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1993 โดยไม่มีพิมพ์เขียวร่างโครงสร้างไว้ก่อน การออกแบบต้องยกให้เป็นพรสวรรค์ล้วนๆ เพราะใช้การปะติดปะต่อ สุ่มแพทเทิร์นแบบสะเปะสะปะจนเป็นรูปเป็นร่าง ภายในแบ่งเป็นหลายชั้น หลายห้อง เกือบทั้งหลังของ บ้านต้นไม้ ใช้วัสดุรีไซเคิล ไม้ทั้งหมดถูกตรึงด้วยตะปู 285,000 ดอก ยึดเข้าด้วยกัน รองรับน้ำหนักด้วยต้นไม้ 6 ต้น และ 1 ต้นโอ๊คยักษ์ สูง 85 ฟุต เบ็ดเสร็จแล้วใช้งบประมาณทั้งหมดเพียง $12,000 เท่านั้น!!

คาดกันว่าจะเป็น บ้านต้นไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังไม่ได้รับการจดบันทึกลงกินเนสบุ๊คอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลรอบโลกยังไม่แน่ชัด ถึงจะใช่หรือไม่ แค่นี้ก็ทึ่งพอให้โลกจดจำ!

04

05

06

07

08

09

10

11

12

14

ที่มา : www.thecoolist.com  /  housescheme.com  /  www.dailymail.co.uk

เรียบเรียงโดย: Travel MThai

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฟีลกู๊ดไปอีก! “ห้องสมุดกลางป่า” สวรรค์ของคนรักหนังสือ

ฟีลกู๊ดไปอีก! ห้องสมุดกลางป่าสวรรค์ของคนรักหนังสือ

สำหรับคนที่ชอบหาที่เงียบๆ บรรยากาศดีๆ นั่งอ่านหนังสือพร้อมจิบกาแฟ หลายคนก็จะไปตามคาเฟ่ ห้องสมุด แต่วันนี้ Travel.mthai จะพาไปดู “ห้องสมุดกลางป่า” ที่คนรักการอ่าน ต้องร้องดังๆ ว่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ!!

01

เห็นแล้วต้องร้อง ว้าว ดังๆ! นี่คือ ห้องสมุด ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าอันเงียบสงบ อยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถูกออกแบบโดยบริษัท US firm Studio Padron ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อ ห้องสมุดนี้ว่า “The Hemmelig Rom” โดยในภาษานอร์เวย์แปลว่า “ห้องแห่งความลับ” เหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์ไหมล่ะ >,<

02

ห้องสมุดกลางป่า ออกแบบให้เป็นทรงสีเหลี่ยม สร้างโดยใช้ไม้โอ๊ค และเน้นสีดำเป็นหลักมีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร เมื่อเดินเข้าไปข้างในห้องสมุดก็จะพบกัน หนังสือหลากหลายชนิด พร้อมทั้งมีเตียง โซฟา โต๊ะทำงาน รวมถึงเตาเผา ทำให้มีบรรยากาศสบายๆ เวลานั่งหน้าเตาผิง อ่านหนังสือ ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ ในหน้าหนาว โอ้ย! ฟีลกู๊ดไปอีก …

03

04

05