เที่ยว 7 สิ่งมหัศจรรย์ อุบลราชธานี ที่ไม่ควรพลาด!

เที่ยว 7 สิ่งมหัศจรรย์ อุบลราชธานี ที่ไม่ควรพลาด!

01

สุดทิศตะวันออก มีดินแดนพิศวง รอคุณอยู่ ที่อุดมธรรมชาติ พร้อมชมแสงแรกก่อนใคร ที่แห่งนั่้นก็คือ “อุบลราชธานี” สำหรับผม ด้วยความที่เป็นจังหวัดใหญ่ ทำมีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาและธรรมชาติมากมาย อุดมไปด้วยแก่งหิน หน้าผา ผืนป่า และวัดวา โดยแต่ละแห่งความสวยงามก็ไม่ใช่เล่น ๆ แถมยิ่งใหญ่อลังการจนคุณก็อาจคาดไม่ถึง เราจะพาคุณไปพบกับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ อุบลราชธานี บอกเลยว่าถ้ามาเที่ยวครบทั้งหมด คุณจะประทับใจไปตลอดกาล

1. วัดพระธาตุหนองบัว

02

วัดพระธาตุหนองบัว เป็นวัดราษฎร์ นิกายธรรมยุต เป็น วัดสำคัญวัดหนึ่ง ของจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ คือพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นั้น ได้จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอบองค์พระธาตุเป็นกำแพงแก้ว ซึ่งทั้ง 4 มุม ของกำแพงแก้ว ได้ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กอีก 4 องค์

03

เมื่อได้เดินเข้ามาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสวยงามโอ่อ่า กับสีทองอร่ามตา แสดงให้เห็นถึงงานสถาปัตยกรรมที่ละเมียดละไม เป็นความวิจิตรงดงามที่น่าบันทึกภาพเก็บไว้

2. เสาเฉลียงและผาแต้ม

04

เสาเฉลียง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ สายลมและแสงแดดมีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้น มีส่วนบนเป็นแผ่นหินวางอยู่โดยไม่ติดกันมองดูคล้ายดอกเห็ด หากได้ขึ้นไปถ่ายรูปคู่กับเสา จะยิ่งเห็นความยิ่งใหญ่ได้อย่างชัดเจน

05

ส่วนผาแต้ม มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย ด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด และยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามและเป็นที่แรกที่ได้เห็นแสงตะวันก่อนใคร

3. หินชมนภา แก่งชมดาว

06

เขาเล่าว่า … ณ หาดหินรูปทรงประหลาดอันกว้างใหญ่ ในฤดูน้ำโขงลด จะมีหินกลางน้ำผุดขึ้นมาให้เราได้เห็น ชาวบ้านเชื่อกันว่าให้หาหินนี้ให้เจอ เพราะเป็นจุดชมท้องฟ้าที่ส่องแสงและสีสันได้สวยที่สุด ทั้งแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ และทะเลดวงดาว สวยระยิบระยับเต็มท้องฟ้าในยามคืนข้างแรม

07

ณ แก่งชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี แก่งหินที่มีความพิเศษด้วยลวดลายที่เป็นเส้นสวยงาม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นที่เดียวกันกับสามพันโบก โดยแก่งชมดาวนั้นมีขนาดเล็กกว่า แต่พื้นผิวของหินมีมิติชัดเจนกว่ามาก

4. หาดหงส์

08

หาดหงส์ เป็นทะเลทรายกว้างใหญ่ซึ่งเกิดจากการพัดพาของน้ำและตะกอนทรายมาทับถมกัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าไป หากจะไปเยือนสามพันโบก ไปหาดหินสี ไปหาดสลึง อีกหนึ่งที่ที่ต้องไปให้ได้ คือ หาดหงส์ โดยช่วงเวลาที่หลายคนบอกว่าเด็ดมาก คงจะเป็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกยามเย็น จะเห็นความสวยงามจากแสงทอง ที่ส่องลงกระทบทรายสีขาวระยิบระยับงามจับตา

09

ว่ากันว่าถ้ามาหาดหงส์ ต้องมากระโดดเนินทราย พุ่งทะยานปลดปล่อยร่างกายให้เต็มที่ ถึงจะเรียกว่ามาถึงที่โดยสมบูรณ์ พอได้บันทึกภาพเก็บไว้ เป็นโมเมนต์ที่เท่มาก ๆ เลยฮะ

5. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว

10

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อ.สิรินธร เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากจุดหนึ่ง รวมไปถึงเหมาะสำหรับการดูดาว ซึ่งหากโชคดีอาจได้พบฝูงช้างเผือกเชือกใหญ่เปล่งประกายบนท้องฟ้า ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น เมื่อนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้พบเห็นแล้ว ต้องประทับจำใจอย่างแน่นอน

11

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ด้านหลังของพระอุโบสถ ที่มีงานศิลปกรรมอันโดดเด่นด้วยภาพของต้นกัลปพฤกษ์ ที่ยามค่ำคืนจะปรากฎกายเรืองแสงออกมา เป็นภาพความมหัศจรรย์ของสิ่งปลูกสร้างท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงาม

6. สามพันโบก

12

สามพันโบก เป็นแก่งหินใต้ลำน้ำโขง เขตบริเวณบ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร สามพันโบกคือความงดงามใต้น้ำ จะปรากฏให้เห็นแค่เพียงในยามน้ำแล้งเท่านั้น เนื่องจากในช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินดังกล่าวจะจมอยู่ใต้บาดาล ความสวยงามวิจิตรของหินที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่ง

13

“โบก” เป็นภาษาลาว เป็นชื่อเรียกอีกอย่างของ แอ่ง หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ลำน้ำโขง นั่นเองมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป ใหญ่บ้างเล็กบ้าง บ้างเป็นรูปวงรี รูปดาว รูปวงกลม และรูปอื่น ๆ อีกมากมาย ตามแต่ที่เราจะจินตนาการจำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3 พันโบก

7. ทุ่งหนองหญ้าม้า

14

ทุ่งหนองหญ้าม้า บ้านโนนเค็ง ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ความงามที่เบ่งบานในช่วงเดือน ธันวาคม – มกราคม พบกับทุ่งดอกไม้ป่าหลากหลายชนิด กับพื้นที่อันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกตา แต่ปัจจุบันจะเหลือเพียงแค่ดอกกระดุมเงินและดอกดุสิตาเท่านั้น เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง และความไร้วินัยของนักท่องเที่ยว

แนะนำว่าถ้าจะมาเที่ยวที่ทุ่งหนองหญ้าม้า ควรเดินถ่ายภาพในบริเวณที่เป็นช่องทางเดิน จะเข้าไปเดินไปนั่งไปนอนถ่ายภาพได้ตามสะดวก แต่ขอความร่วมมือไม่ให้ย่ำลงในบริเวณทุ่งดอกไม้ ถือเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

15

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี

ถ่ายภาพและเรียบเรียงโดย: Travel MThai

 

 

 

 

 

 

 

ลดา เฮาส์ (Lada House) ที่พักบ้านไม้ สไตล์วินเทจ จ.ลำปาง

ลดา เฮาส์ (Lada House) ที่พักบ้านไม้ สไตล์วินเทจ จ.ลำปาง

หลีกหหนีความวุ่ยวายจากเมืองกรุง ขึ้นเหนือไปเที่ยวเมืองรถม้า หรือ จังวัดลำปาง เมืองที่รายล้อมรอบด้วยภูเขา มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน วันนี้ Travel.mthai มีที่พักน่ารัก เหมาะกับวันพักผ่อนแบบชิลๆ ลดา เฮาส์ (Lada House) ที่พักบ้านไม้ สไตล์วินเทจ แห่งนี้ ^^

01

ลดา เฮาส์ (Lada House) เป็นบ้านหลังเล็กๆ สไตล์วินเทจสีเขียวอมเทา เนรมิตมาจากบ้านเก่าอายุกว่า 40 ปี ให้เป็นที่พัก ตกแต่งสไตล์ Modern vintage ที่โล่งโปร่งสบาย ให้บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ สนามหญ้า ดอกไม้กลิ่นหอม ตั้งอยู่กลางใจเมืองลำปาง สะดวกสบายกับการเดินทาง

02

03

ถ้าใครได้เข้ามาที่นี่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอเมืองลำปางในอดีต บ้านก่ออิฐถือปูนแบบไทย ผสมผสานอย่างลงตัวกับความเป็นโคโลเนียน ช่องลมลายดอกพิกุล, พื้นไม้แดงขัดมันสีเข้ม, พื้นปูนขัด, เพดานสูงโปร่งและดาดฟ้าเปิดโล่ง รวมทั้งประตูเหล็กดัด

04

05

ส่วนตัวบ้านและห้องพักของ ลดา เฮาส์ ตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล สีฟ้าอ่อน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีแสงธรรมชาติสาดผ่านช่องหน้าต่าง เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เพื่อให้ความรู้สึกที่อบอุ่น และเข้ากับยุคสมัยเก่า มีห้องพักทั้งหมด 6 ห้อง จากห้องยังสามารถมองเห็นสนามหญ้าสีเขียว ต้นชมพู่และกระรอกสีขาวที่แวะเวียนมาทักทายอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ ลดา เฮาส์ ยังมีงานศิลป์ที่ทำขึ้นเอง ประดับตกแต่งอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน

06

07

หากใครอยากทำกิจกรรมหรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ตอนยามเย็น ทาง ลดา เฮาส์ ก็มีดาดฟ้าอยู่ทางด้านบน ให้บริการ เป็นลานกว้างปูด้วยสนามหญ้าสสีเขียวสดใส ตกแต่งด้วยไม้ดอกสีและชนิดต่างๆ ตามคอนเซปท์ Modern vintage ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้กิจกรรมของเพื่อนๆ นั้นสนุกสนานและรื่นรมย์มากยิ่งขึ้น

08

09

นอกจากนี้ ลดา เฮาส์ ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำกันอีกมากมาย อาทิสอนทำอาหารท้องถิ่น, สอนทำงานฝีมือท้องถิ่น , งานดอกไม้ใบตอง, ตัดตุง, แกะสลักผลไม้ เป็นต้น หรือถ้าใครอยากปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบเมือง ทางที่พักก็มีให้ยืม ได้ซีมซับบรรยากาศเมืองเก่า พร้อมได้เรียนรู้แบบฉบับคนเมือง ที่สำคัญราคาห้องพักเริ่มต้นเพียง 800 บาทเท่านั้นเอง ^^

10

ที่อยุ่ : เลขที่ 69 ตรอกหลังวัดน้ำล้อม ถนนทิพย์วรรณ ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง ลำปาง 52000

โทรศัพท์ : 081- 885 – 6577

Facebook : https://www.facebook.com/ladahouse

เว็บไซต์ : ladahouselampang.com

ขอบคุณข้อมูล: Travel MThai

 

 

 

 

 

“VAPOR” ร้านอาหารซีฟู๊ด ตำหรับไทยใจกลางทะเลสาบนิชดาธานี

“VAPOR” ร้านอาหารซีฟู๊ด ตำหรับไทยใจกลางทะเลสาบนิชดาธานี

ลืมไปเลยว่าที่นี่คือกรุงเทพฯ กับร้านอาหารแห่งใหม่ของคนรักอาหารทะเล ท่ามกลางวิวทะเลสาปพาโนรามาส่วนตัวกว่า 125 ไร่ พร้อมค็อกเทลสุดสร้างสรรค์จากบาร์เทนเดอร์ระดับเวิลด์คลาส “ตั้ม-ณฐกร แจ้งเร็ว

01

ชื่อของ “ตั้ม-ณฐกร แจ้งเร็ว” เป็นที่รู้จักเฉพาะแวดวงเครื่องดื่ม ในฐานะบาร์เทนเดอร์ผู้สร้างสรรค์ค็อกเทลสุดสร้างสรรค์จากร้าน Perfume พ่วงด้วยดีกรี เมนูแชมป์ระดับเวิลด์คลาส แต่สำหรับวงการอาหารเขาคือผู้หลงใหลในการสรรหาวัตถุดิบหลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องความสดใหม่จากท้องทะเลไทยนั้นถือได้ว่าเป็นอีกความชำนาญและความชอบที่ยังไม่เคยบอกใคร กระทั่งได้มีโอกาสเปิดพื้นที่ริมทะเลสาบ 125 ไร่ ใจกลางหมู่บ้านนิชดาธานีอันเป็นธุรกิจของครอบครัว ให้กลายเป็นร้านอาหาร คุณตั้มได้นำความชอบทั้งสองอย่างมารวมกัน บวกด้วยพรสวรรค์ด้านครัวไทยที่ตกทอดมาจากคุณยายนวลนิตย์ ทั้งหมดจึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของร้านอาหารทะเลแห่งใหม่ “เวเปอร์ (VAPOR)

VAPOR เปรียบเสมือนร้านแห่งใหม่ที่คนรักอาหารทะเลสดใหม่ห้ามพลาด กับบรรยากาศความชิลล์ที่เหมือนขับรถไปนั่งกินริมน้ำในอยุธยา แต่จะบอกว่า VAPOR นั้นตั้งอยู่ใกล้ใจกลางกรุงเทพ กับบรรยากาศที่โดดเด่นด้วยความเย็นสบายของตัวร้านตั้งยื่นออกไปใจกลางทะเลสาบส่วนตัว มีโซนเอาท์ดอร์ และอินดอร์ให้เลือกนั่ง พิเศษกับการเชื่อมต่อสู่อินฟินิตี้พูลที่จัดพูลปาร์ตี้เล็กๆ ได้สนุกสุดชิลล์ มองเห็นพระอาทิตย์ตกริมทะเลสาบอยู่เบื้องหน้า

02

นอกจากเรื่องบรรยากาศที่แสนผ่อนคลายทั้งในมื้อกลางวันและดินเนอร์แล้ว VAPOR ยังโดดเด่นด้วยเรื่องของอาหารที่ผสมผสานระหว่างตำรับโบราณ จาก “คุณยายนวลนิตย์” และเทคนิควิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในการปรุงอาหารของคุณตั้มผู้เป็นหลานชายคนเดียว พร้อมกันนั้นก็ได้นำความชอบและงานอดิเรกส่วนตัวที่มักจะออกเรือไปสำรวจน่านน้ำทะเลไทยเป็นประจำ จนพบเจอกับปลาพื้นเมืองและวัตถุดิบหาทานยากที่รสชาติไม่ได้ด้อยไปกว่าซีฟู๊ดนำเข้าเลยแม้แต่น้อย ที่จะขาดไม่ได้ใน VAPOR คือค็อกเทลคุณภาพเยี่ยมในราคาย่อมเยาเป็นมิตร การันตีความคิดสร้างสรรค์ด้วยรางวัลเมนูแชมป์เวิลด์คลาส

สำหรับเมนูอาหารนั้นมีไฮไลต์ที่ “กุ้งแม่น้ำไซส์จัมโบ้ย่างถ่าน” คัดเฉพาะกุ้งแม่น้ำอยุธยาขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่าตัวละครึ่งกิโล นำมาย่างไฟอ่อนๆ ให้แตกมัน เสิร์ฟคู่น้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรเด็ดที่คัดเฉพาะพริกขี้หนูสีเขียวไม่แก่หรืออ่อนเกินไป จัดจ้านด้วยมะนาวไทยแท้ที่ทำให้น้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรคุณยายนวลนิตย์หอมหวลชวนยั่วน้ำลาย อร่อยสดใหม่แบบไม่ต้องขับรถไกลไปถึงอยุธยา

ด้านโซนซีฟู๊ดนั้น VAPOR จัดบรรยากาศความประทับใจแรกเห็นให้เป็นเหมือนตลาดอาหารทะเลกว่า 3 เมตร ลูกค้าเลือกวัตถุดิบเองได้ตามใจ โซนนี้แบ่งออกเป็นตู้แช่วัตถุดิบจากทะเลสดใหม่ ตู้ปลาทะเลเป็น ปูอลาสก้า กุ้งมังกร และหอยเม่น ที่ยังมีชีวิต พร้อมทั้งปลาหลากหลายชนิด สับเปลี่ยนหมุนเวียนกว่า 20 ชนิด ขึ้นอยู่กับฤดูกาล โดยปลาทุกชนิดมีความสดใหม่ระดับไม่เกิน 7 วัน พร้อมป้ายแนะนำลูกค้าให้เชฟนำไปปรุงเป็นเมนูไหนได้อร่อยที่สุด สำหรับปลาจากท้องทะเลไทยนั้น ทาง VAPOR เลือกรับปลามาจากชาวประมงพื้นบ้าน ครบทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย นักชิมจะได้ลิ้มรสกับปลาหายากของไทยที่ไม่คุ้นหูมาก่อน ทั้ง กระพงทอง กุดสลาด ตะคองทอง กุเลา โฉมงาม สีทองน้ำลึก แก้มบาง ช้างเหยียบ ครืดคราด โคเบีย  เป็นต้น

“จริงๆ แล้วอาหารจากทะเลไทย และประมงพื้นบ้านของไทยเองมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ต่างชาติ จากประสบการณ์การทำงานกับเชฟระดับมิชลิน และเชฟชื่อดัง ทำให้ผมได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเคล็ดลับความอร่อยของปลา เริ่มต้นตั้งแต่การจับและการเตรียมปลาก่อนนำมาปรุงอาหาร อย่างเรื่องเล็กๆ เช่นการจัดการเอาเลือดออกจากตัวปลาแต่ละชนิดอย่างถูกวิธี เท่านี้ก็จะทำให้ปลาไม่คาว เนื้อขาว ไม่มีเลือดค้าง เนื้อนุ่ม และทำให้รสชาติหวานตามธรรมชาติได้อย่างแท้จริง”

นอกจากซีฟู๊ดสดใหม่ปรุงโดยเทคนิคที่หลากหลายแล้ว VAPOR ยังมีทีเด็ดที่ “ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูก้างนิ่ม” ที่ใช้เทคนิคเรื่องความดันไปนำมานึ่งปลาทูแม่กลองให้ก้างนิ่ม ก่อนจะนำไปทอดเพื่อให้กรอบกินได้ตลอดตัว เสิร์ฟคู่เครื่องเคียงอย่างไข่ชะอม ผักลวก และดอกอัญชัญปลอดสารเคมีที่ปลูกเองในโครงการนิชดา

ก๋วยเตี๋ยวผัดมันกุ้งเนื้อปูกะทะร้อน” เมนูพิเศษที่ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินบนโต๊ะอาหารกับการเสิร์ฟแบบกระทะร้อน เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดจนได้ที่ โรยหน้าด้วยเนื้อปูก้อนใหญ่ ไข่แดง ต้นหอม ผักชี พร้อมซอสมันกุ้งถ้วยใหญ่ ให้ลูกค้าได้คลุกเคล้าและผัดด้วยตัวเอง อีกเมนูที่จะขาดไม่ได้คือ “ปลาโคเบียผัดพริกไทยดำ” รสชาติจัดจ้าน เสิร์ฟบนกระทะร้อน พร้อมสมุนไพรไทยกว่า 10 ชนิด

เมื่อลิ้มรสอาหารแล้วก็ห้ามพลาดกับ เบียร์ยี่ห้อ Tempus กลิ่นหอม รสชาตินุ่มละมุน นำเข้าจากประเทศแม็กซิโก เป็นที่แรกในไทย พร้อม Cocktail รสชาติระดับแชมป์หลายรางวัล ครั้งนี้คุณตั้มได้สร้างสรร ความเรียบง่าย และ หวือหวา ดื่มได้ทุกวันอย่างโมฮิโต้ คลาสสิคค็อกเทลต่างๆ สูตรเฉพาะของคุณตั้ม ที่สามารถจับคู่กับอาหารทะเลรสจัดจ้านได้อย่างลงตัว

เคียงคู่ วงดนตรีสด แนวเพลงฟังสบายๆ นั่ง ชิวๆ ลมเย็นๆ จาก ศิลปินคุณภาพ เข้ามาสร้างบรรยากาศกลางทะเลสาป ให้เป็นค่ำคืนอันสุดแสนประทับใจ

ค้นพบประสบการณ์ความอร่อยในร้านอาหารทะเลแห่งใหม่ของคนรักการกินดื่ม แล้ววันที่ VAPOR หมู่บ้านนิชดาธานี ซอยนิชดาธานี ถนน แจ้งวัฒนะ สำรองที่นั่งโทร 02-8320055 เปิดบริการ สิบโมงเช้า ถึง เที่ยงคืน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก: Food MThai