สีสันสุดจี๊ด! ทางลื่นบนสนามหญ้า ที่ยาวที่สุดในโลก

ทางลื่นบนสนามหญ้า ที่ยาวที่สุดในโลก สนามเด็กเล่นแห่งใหม่ของชาวจีน และนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการความสนุกแก่คนทุกเพศทุกวัยแล้ววันนี้

สีสันสุดจี๊ด! ทางลื่นบนสนามหญ้า
ที่ยาวที่สุดในโลก

ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน สิ่งก่อสร้างใดๆ ก็ล้วนไม่ธรรมดา ไม่พิสดารมาก ก็ยิ่งใหญ่อลังการมาก ไม่เว้นแม้กระทั่ง ทางลื่นบนสนามหญ้า สีสันคัลเลอร์ฟูล แถมยังเคลมตัวเองว่าเป็นทางลื่นที่ยาวที่สุดในโลกด้วย

ทางลื่นบนสนามหญ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีทั้งหมด 6 ราง แต่ละรางมีความยาวมากถึง 238 เมตร  แต่งแต้มสีสันแตกต่างกันไป ทั้งม่วงอ่อน ชมพู เหลือง น้ำเงิน เขียว ม่วงเข้ม

สัมผัสประสบการณ์แสนสนุกและแปลกใหม่ โดยผู้เล่นต้องนั่งบนกระดานพลาสติก จากนั้นดันตัวเองให้สไลด์ลงไปด้านล่าง คล้ายกับการเล่นกระดานเลื่อนหิมะ ปล่อยชีวิตให้พุ่งไปข้างหน้าอย่างอิสระเสรี ซึ่งเครื่องเล่นนี้ไม่จำกัดเด็ก หรือ ผู้ใหญ่ สามารถเล่นได้ทุกวัย แต่ต้องมาเที่ยวที่ฉงชิ่งเท่านั้นนะ ^^

Source : China Xinhua News

‘บานาน่า ฟาร์ม’ ที่เที่ยว ที่กิน ถ่ายรูปสวย จ.กาญจนบุรี

บานาน่า ฟาร์ม’ ที่เที่ยว ที่กิน
ถ่ายรูปสวย จ.กาญจนบุรี

บานาน่า ฟาร์ม (Banana Farm) แลนด์มาร์คใหม่ของกาญจนบุรี กำลังมาแรงสุด แซงหน้าทุ่งปอเทือง หรือแม้แต่นาข้าวเขียวขจี ที่เป็นไฮไลท์หน้าฝน ด้วยความเก๋ ความชิค ของคาเฟ่กลางดงกล้วยน้ำว้า แล้วไหนจะมีสะพานยอดกล้วย ให้เดินเล่น กินลม ชมวิวธรรมชาติ ในบรรยากาศสบายๆ แถมยืนถ่ายภาพมุมไหนก็ปัง!

หนุ่มสาวคนไหนหลงไหลธรรมชาติ ชอบถ่ายรูป ที่สำคัญชอบกินที่สุด เตรียมปักหมุดเช็คอิน ที่เที่ยวกาญจนบุรี ‘Banana Farm’ (Banana Farm) แห่งนี้ไว้เลย เพราะนี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหารและคาเฟ่ออร์แกนิคธรรมดาๆ แต่ทีเด็ดคือมันตั้งอยู่กลางสวนกล้วยน้ำว้า ขนาบข้างด้วยร่องสวน แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน

สำหรับร้านอาหารนั้น มีที่นั่งทั้งหมด 3 โซนด้วยกัน ได้แก่ ห้องแอร์ โอเพ่นแอร์ และกระท่อมน้อยริมท้องร่อง ไม่ว่าจะนั่งมุมไหน ก็ชิลล์ เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ซึ่งทางร้านจะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ โดยใช้ผลผลิตปลอดสารพิษจากสวนมารังสรรค์เป็นเมนูต่างๆ สะอาด ปลอดภัย แล้วยังอร่อยอีกต่างหาก

ถัดมาที่คาเฟ่กันบ้าง ก็จัดเต็มทั้งเค้ก ไอศกรีม รวมถึงเครื่องดื่มหลากชนิด มีตัวซิกเนเจอร์อย่างชาเขียว ที่การันตีว่าเป็นชาเขียวแท้ 100% และบานาน่าสมูตตี้ ที่ได้รสชาติของเนื้อกล้วยแท้ๆ

นอกจากบรรยากาศดีๆ ที่นี่ยังมีเรือให้พายไปตามท้องร่องด้วยนะ หรืออยากนอนเปลรับลมเย็นๆ ก็ได้นะเออ พีคกว่านั้น คือทางเดินเหนือสวนกล้วย หรือจะเรียกว่าเป็น สะพานยอดกล้วย สร้างให้มีรูปทรงแบบตัว Z ซึ่งตลอดทางเดิน นักท่องเที่ยวจะมองเห็นวิวสวนกล้วยได้ทั่วทั้งสวนเลย มุมมองกว้างแบบพาโนราม่า ยิ่งช่วงตอนค่ำจะเปิดไฟทั้งสะพาน บอกเลยว่าฟินมาก และถ่ายรูปสวยมาก

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นการต่อยอดแนวคิดจากความสำเร็จของผลิตภัณฑ์กล้วยทอดกรอบ OTOP แห่งบ้านทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี จนกลายมาเป็น Banana Farm และ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฏีใหม่ โดยจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นการเกษตรผสมผสาน ดำเนินรอยตามเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพืชหลายชนิดปลูกสลับกันไป ทั้งฟักข้าว ต้นส้ม ผักบุ้งไทย ตลอดจนเล้าไก่ ที่สามารถเก็บไข่ไปประกอบอาหาร เล้าหมู ที่สามารถนำมูลหมูไปทำก๊าซหุงต้ม และปลาในบ่ออีกหลายตัว ที่สามารถเอาไปทำอาหารได้เช่นกัน

เวลาเปิด – ปิด: 8.00 – 20.00 . (หยุดทุกวันจันทร์)

ที่ตั้ง: ริมถนนสายอู่ทองกาญจนบุรี ฝั่งขาออกจากเมืองกาญจน์ ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

ขอบคุณรูปภาพจาก : รีวิวกาญจนบุรีBananafarm กาญจนบุรี

10 เรื่องควรรู้! ที่คุณทำได้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น

10 เรื่องควรรู้! ที่คุณทำได้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมาเที่ยวประเทศนี้สักครั้ง หรือตอนนี้คุณกำลังเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตอยู่ละก็ ต้องห้ามพลาด!! มาติดตาม 10 เรื่องควรรู้! ที่คุณทำได้เมื่อไปญี่ปุ่น รู้ไว้จะได้ไม่พลาด!!! เกริ่นมาแบบนี้ อยากรู้แล้วใช่ไหมละว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน…

1. ชักโครกมีปุ่มเสียงดนตรี

เมื่อต้องทำธุระในห้องน้ำ แต่เกรงใจห้องข้างๆเพราะกลัวเสียงไม่พึงประสงค์จะเล็ดรอดออกไป “กดปุ่มสัญญลักษณ์รูปตัวโน๊ต” จะมีเสียงเพลงบ้าง, เสียงน้ำไหลบ้าง เพื่อกลบเสียงอย่างอื่นได้อย่างดี แถมปรับระดับความดังได้ด้วย

2. ถ้วยสำหรับใส่กาแฟแบบ take away

ทานข้าวเสร็จแล้ว บางท่านอยากทานกาแฟแต่ทานไม่ทัน ต้องรีบไป แทบจะทุกโรงแรมจะมีถ้วยกาแฟพร้อมฝาปิดอย่างดี สำหรับ take away ถือออกไปทานได้ ไม่ต้องเสียเงินซื้อกาแฟข้างนอกอีก แถมถ้วยกาแฟก็เป็นถ้วยอย่างดี ถือไม่ร้อนมือ ฝาปิดหนาแน่นมากไม่ต้องกลัวหกเลย

3. ปวดห้องน้ำระหว่างทาง ทำยังไง?

ถ้าเป็นบ้านเราก็ต้องแวะปั๊มขอเข้าห้องน้ำ แต่ที่ญี่ปุ่นเราสามารถเข้าห้องน้ำในร้านสะดวกซื้อได้เลย (ปั๊มที่นี่ไม่มีห้องน้ำให้เข้านะคะ No No ค่ะ อย่าเผลอไปหาห้องน้ำในปั๊มเชียว) ตามร้านมินิมาร์ทเช่น 7-11, Seicomart, Lawson เดินเข้าไปเข้าห้องน้ำได้เลยจ้า

4. ฟรี wi-fi ทุกที่

ยังคงเป็นเรื่องยอดฮิตที่จะไม่เขียนไม่ได้ เดินไปตามร้านต่างๆ ร้านอาหารต่างๆ จะพบเจอป้าย Free wi-fi ได้ง่ายๆ พอๆ กับร้านเซเว่นเลย

5. วัฒนธรรมการส่งแขก

เมื่อมาต้องต้อนรับ กลับต้องร่ำลา ไม่ว่าจะไปซื้อของตามห้างร้าน, ไปพักตามโรงแรมต่างๆ หรือแม้แต่ไปทานข้าวที่ร้านอาหาร การส่งแขกของญี่ปุ่นพบเห็นได้บ่อยมาก โดยเจ้าหน้าที่ที่ร้านจะออกมายืนโบกมือบ๊ายบายคุณอย่างน่ารัก จนกว่าคุณจะลับสายตากันเลยทีเดียว

6. น้ำเปล่าทานจากก๊อกได้เลย

ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด ปลอดภัย หิวน้ำก็ทานจากก๊อกได้เลยจ้า เค้าบอกไม่ต้องกลัวจะไม่สะอาดนะ รับรอง ปลอดภัยแน่นอน แถมบางโรงแรมที่ไปพักก็ไม่มีน้ำเปล่าให้ เราต้องซื้อเอง หรือ ไม่ก็กดทานจากก๊อกน้ำเนี่ยแหล่ะได้เลย! หรือถ้าโรงแรมไหน ติดสติ๊กเกอร์รูปขวดน้ำไว้ลักษณะนี้ สามารถทานน้ำได้ฟรี 1 ขวดค่ะ

7. ห้องพักที่ญี่ปุ่นคิดราคาเป็นต่อคน

ถึงแม้ห้องพักที่กว้างใหญ่เพียงใด หากตอนจองเราระบุว่าเข้าพัก 1 ท่าน ราคาห้องพักก็จะเป็นราคาสำหรับ 1 ท่าน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องเช่น ผ้าเช็ดตัว, รองเท้าสลิปเปอร์ใส่เดินในห้อง, อุปกรณ์ในห้องน้ำ แปรงสีฟัน, หมอน ผ้าห่ม เค้าก็จะเตรียมไว้ให้เพียงแค่ 1 ชุดเท่านั้นจ้า ถ้าจองไว้ 1 ท่าน แต่เข้าพัก 2 ท่าน หากทางโรงแรมรู้อาจถูกปรับได้

8. ตู้กดบุหรี่ ถึงเห็นตั้งอยู่ก็กดไม่ได้
ถ้าอายุไม่ถึง 18 ปี!

นอกจากตู้เครื่องดื่มที่มีอยู่ทุกซอกทุกมุมของญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่าใครหลายคนต้องเห็นตู้กดบุหรี่ เรียงรายตามถนนหนทาง เคียงคู่กับตู้กดน้ำอย่างแน่นอน ทั้งๆที่ตั้งอยู่ในที่สาธารณะ แต่อยู่ดีๆ จะไปกดไม่ได้ ต้องแสดงบัตรประชาชนเพื่อยืนยันว่าเราอายุเกิน 18 ปี โดยจะมีที่ให้สแกนบัตรก่อน

9. ทิชชู่ทิ้งลงชักโครกได้เลย

หลังจากทำธุระเสร็จในห้องน้ำ นอกจากมีปุ๋มกดทำความสะอาดถ่ายหนักถ่ายเบา และปุ่มเสียงเพลงตัวช่วยลดความอายในห้องน้ำญี่ปุ่นแล้ว การใช้ทิชชู่บ้านเขา หลังจากใช้เสร็จแล้ว ไม่ต้องทิ้งลงถังขยะ แต่สามารถทิ้งลงชักโครกกดน้ำได้เลย “ไม่ผิด” เพราะทิชชู่บ้านเขาย่อยสลายง่าย แถมถังขยะที่มีอยู่ภายในห้องก็เล็กๆ น่ารัก

10. สะสมตราประทับในสถานที่ท่องเที่ยว

บอกเลยว่าใครกำลังไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะสถานที่เที่ยวตามต่างจังหวัดของ เขามีตราประทับไว้ให้สะสม ดังนั้นอย่าลืมพกสมุดแบบไม่มีเส้น ปกสวยๆ ไว้ไปตามล่าตราประทับมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกกัน แต่ละลายนั้น บ่งบอกเอกลักษณ์ของสถานที่นั้นๆ ได้อย่างสวยงาม