10 ที่เที่ยวเดือนกันยายน ออกไปสัมผัส ความสวยงามที่มาพร้อมฝน

เดือนกันยายน ยังคงอยู่ในช่วงหน้าฝน แถมตกหนัก ตกเกือบทุกวันซะด้วย อย่างนี้จะออกไปเที่ยวไหนได้ …Travel Mthai ขอนั่งยันนอนยันว่ามีที่ให้ไปแน่นอน เพราะหน้าฝนมักซ่อนสิ่งสวยงามทางธรรมชาติไว้รอให้เราไปค้นพบอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหุบเขา ต้นไม้ ทุ่งข้าว ลำธาร หรือทะเลหมอก ตามเรามาสิ รับรองว่าฟินทุกที่แน่นอน

10 ที่เที่ยวเดือนกันยายน ออกไปสัมผัส
ความสวยงามที่มาพร้อมฝน

 

1. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง (ปางอุ๋งสุพรรณ)
จ.สุพรรณบุรี


แค่ได้ยินชื่อปางอุ๋ง ก็นึกถึงภาพของสายหมอกยามเช้าที่ลอยระเรื่อเหนืออ่างเก็บน้ำ กับวิวต้นสนเรียงเป็นทิวแถว เป็นสถานที่ท็อปฮิตที่ใครก็ยินยอมนั่งรถฝ่าฟันหลายพันโค้งเพื่อไปชื่นชมความสวยงาม แต่ถ้าใครไม่อยากเดินทางไกล ก็สามารถมาเที่ยว อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง จังหวัดสุพรรณบุรี แทนกันได้ ที่นี่ได้ฉายาว่า ปางอุ๋งสุพรรณ ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติ มีทั้งป่าเขาและผืนน้ำ อันเกิดจากความร่วมมือของชุมชน ช่วยกันพัฒนา และดูแลพื้นที่ป่าของหมู่บ้าน ให้สามารถรับนักท่องเที่ยวแบบเรียบง่าย และเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ เหมาะกับการแค้มปิ้ง กางเต้นท์ หรือจะนอนบนแพ ก็มีให้บริการ

 2. เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์


หากถามว่าเที่ยวเขาค้อฤดูกาลไหนสวยที่สุด คงต้องตอบว่าหน้าฝนนี่แหละสวยที่สุดแล้ว มีความความเขียวสดของดอกไม้ ต้นหญ้า  มีหมอกขาวลอยฟุ้งปกคลุมทั่วทิวเขา มีอากาศเย็นสบายและความสดชื่นหลังฝนตก จนใครต่อใครก็พูดกันว่า “นอนเขาค้อ 1 วัน อายุยืน 1 ปี” จะจริงมั้ย ต้องลองมาพิสูจน์เอง

ทุ่งกังหันลม คือหนึ่งในแลนด์มาร์คของเขาค้อที่เพื่อนๆ ควรแวะมา วิวที่เห็นเป็นทุ่งกังหันลมยักษ์ใหญ่ ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองไปได้กว้างไกลถึงวัดผาซ่อนแก้ว นอกจากนี้ยังมีเหล่าบรรดาเทเลทับบี้ และทุ่งดอกไม้ให้ถ่ายรูปแบบใกล้ชิดกันอีกด้วย

3. นาขั้นบันได จ.เชียงใหม่


นาขั้นบันได นาข้าวที่ปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขา  เป็นอีกหนึ่งวิวสวยขั้นเทพ ไฮไลท์ของที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามอยู่เสมอ ช่วงหน้าฝนซึ่งเป็นฤดูทำนาข้าว เดือน ก.ย. – ต.ค. ต้นข้าวจะเริ่มเขียวขจีชุ่มฉ่ำ เคล้าสายหมอกบางๆในฤดูฝน

นาขั้นบันไดในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีด้วยกันหลายที่ เช่น

  • นาข้าวขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันไดบ้าน กองกาน อ.แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันได แม่ปาน อ.แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันได บ้านตีนผา อ. แม่แจ่ม
  • นาข้าวขั้นบันได แม่กลางหลวง อ.จอมทอง
  • นาข้าวขั้นบันได บ้านผาหมอน
  • นาข้าวขั้นบันได โครงการหลวงขุนแปะ อ.จอมทอง
  • นาข้าวขั้นบันได บ้านแม่ระมีดน้อย อ.อมก๋อย

4. นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ จ.น่าน
 
อีกหนึ่งนาข้าวขั้นบันได ที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวในฤดูฝน ระหว่างเดือน ก.ย. –  ต.ค. จากภูเขาหัวโล้นในอดีต แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยูหัว ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นความเขียวขจี ด้วยนาข้าวที่มีลายเส้นโค้งงดงามตามไหล่เขา เป็นความพิเศษที่เราจะสามารถเห็นนาข้าวที่ปลูกบนภูเขาสูงเทียมเมฆเคียงคู่กับท้องฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถชมทะเลหมอกอันสวยงามในยามเช้าที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดอีกด้วย

5. เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี


เขื่อนรัชชประภา หรือที่เรียกกันติดปากว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาสก ทัศนียภาพโดยทั่วไปภายในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก มีลักษณะเป็นเขาหินปูนที่ยอดเขาตั้งฉากกับผืนน้ำสีเขียวมรกต คล้ายกับผืนน้ำทะเล สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีลักษณะเป็นเขื่อนปิด เเต่หน้าฝนจะมีหมอกเยอะลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือเขาหินปูน ดูสวยชุ่มฉ่ำ การมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับมันคงให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนกินลอดช่องไม่ใส่กะทิ ดังนั้นการได้พักค้างคืนที่นี่ ดูจะเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลของการมาพักผ่อนแบบเต็มที่อย่างที่สุด

6. หมู่บ้านสลักคอก เกาะช้าง จ.ตราด


หมู่บ้านสลักคอก เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของเกาะช้าง หรือเกาะช้างฝั่งซ้าย หลบซ่อนอยู่ในช่องแคบๆ ภายในเวิ้งวงกลมขนาดใหญ่คล้ายคอกสัตว์ ล้อมรอบด้วยป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ กิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ การนั่งเรือมาด เรือแจวลำเล็กที่เรียกกันว่า เรือกอนโดลา เพราะคล้ายกับการนั่งเรือชมคูคลองในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี  เพียงแต่แปลงมาใช้เป็นเรือพายพานักท่องเที่ยวล่องชมธรรมชาติรอบอ่าวสลักคอก

7. ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ จ.อุทัยธานี


ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ ที่เที่ยวใหม่แกะกล่อง แห่งอำเภอบ้านไร่ อุทัยธานี เดิมเป็นฝายปูนกั้นน้ำธรรมดาๆ ไม่ได้น่าสนใจอะไร แต่ไฮไลท์ที่ทำให้ฝายแห่งนี้พิเศษขึ้นมานั้น คือช่วงหน้าฝนน้ำจะไหลเอ่อล้นจากบนลงล่าง กลายเป็นม่านน้ำตกขนาดเล็ก โดยมีหุบเขาและพื้นหญ้าเขียวชะอุ่มห้อมล้อมอยู่เป็นฉากหลัง ทำให้ภาพที่ออกมานั้นสวยงามมาก และเรายังสามารถลงไปสัมผัสความเย็นสดชื่นของสายน้ำได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย

8. จุดชมวิวดอยกิ่วลม จ.แม่ฮ่องสอน


จุดชมวิวดอยกิ่วลม มีความสูงประมาณ 2,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดชมวิวนี้สามารถชมได้ทั้งสองฟากถนน มีทัศนียภาพที่สวยงามและหลากจินตนาการของทิวเขาที่สลับซับซ้อนของยอดดอยเชียงดาว มีเมฆขาวสลับกันสวยงาม มีร้านขายของอาคารขายสินค้าของพี่น้องชาวเขาเผ่าลีซอ มีสินค้าหัตถกรรม และสินค้าอื่น ๆ วางขายบริการแก่นักท่องเที่ยว

9. หล่มภูเขียว จ.ลำปาง


หล่มภูเขียว แอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่บนภูเขา ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท มีลักษณะคล้ายปล่องภูเขาไฟ น้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียว คล้ายสีมรกต  เป็นแหล่งอาศัยของปลาจำนวนมาก บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบแล้ง ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชันที่เกิดจากภูเขาหินปูน ปกคลุมร่มรื่นด้วยเงาจากต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศแสนสงบบวกกับความเรียบนิ่งของผิวน้ำ เหมือนสรวงสวรรค์บนดิน ที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย

10. นาโปแก จ.พัทลุง


อันดับสุดท้ายลงใต้ไปสูดโอโซนที่ นาโปแก จังหวัดพัทลุง เดินชิลล์บนสะพานไม้ นั่งถ่ายรูปที่กระท่อมปลายนา จิบกาแฟแลท้องทุ่ง เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันเขียวขจีของธรรมชาติ และขยับร่างกายออกกำลังสักนิด ด้วยการทำเวิร์คช็อป ตั้งแต่การเกี่ยวข้าว ไถนา ดำนา เลี้ยงควาย ขุดบ่อปลา โอ้โห ทั้งสนุกแถมได้ความรู้เต็มๆ

7 สถานที่เที่ยวพม่า ควรค่าแก่การไป ไม่ใช่แค่ไหว้พระ

7 สถานที่เที่ยวพม่า ควรค่าแก่การไป
ไม่ใช่แค่ไหว้พระ

หากพูดถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทย ส่วนใหญ่หลายคนมักนึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น  แต่ความจริงพม่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์  ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักครั้ง วันนี้เรารวบรวม 7 สถานที่เที่ยวพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่ไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

1. ขึ้นบอลลูนที่เมืองพุกาม

ด้วยความที่เมืองพุกามเป็นเมืองโบราณ จึงทำให้มีโบราณสถานสวยงามมากมาย ดังเช่นสมญานามว่า “เมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์” เป็น สถานที่เที่ยวในพม่า ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก พื้นที่บริเวณโดยรอบค่อนข้างกว้างขวาง ทั้งยังสมบูรณ์ด้วยสีเขียวจากต้นไม้ ให้นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของอารยธรรมเก่าแก่ไปรอบๆ ได้โดยพาหนะต่างๆ ทั้งรถลาก จักรยาน หรือว่า การขึ้นบอลลูน!

ใครจะคิดว่าไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา จะมีกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้ ลองจินตนาการภาพที่คุณจะได้เห็นจากมุมสูงแบบพาโนรามา 360 องศา กับเจดีย์ที่เรียงรายต้องแสงแดด ทำให้เห็นความพิเศษของสถานที่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีตกาล บอกเลยว่านี่เป็นกิจกรรมที่นักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝันให้ได้มาสักครั้ง สำหรับการขึ้นบอลลูนที่เมืองพุกาม คุณสามารถติดต่อบริษัทที่ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Balloons Over Bagan หรือ Oriental Ballooning โดยค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 350 USD ส่วนช่วงเวลาแนะนำในการขึ้นบอลลูนจะเป็นช่วง เดือนตุลาคมมีนาคม (หากจะมาช่วงเทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประมาณ 20 USD นะคะ) เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวในพม่าที่น่าตื่นเต้น ใครชอบแนวนี้แนะนำเลยค่ะ

*******************************************************

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom

Credit : myanmore

หากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่ สวนน้ำ Yangon Water Boom กันดีกว่า! สถานที่เที่ยวในพม่า อีกแห่งที่อยากชวนคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำแห่งแรกของพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ที่นี่คุณจะได้พบกับสไลด์เดอร์สุดเจ๋งระดับโลก ทั้ง Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้คุณไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น Python” ให้คุณและเพื่อนๆ นั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่คดเคี้ยว ยาวกว่า 60 เมตร! นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆ ได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันดีกว่า

เวลาทำการ : 09.00-18.00 . (ปิดวันจันทร์)
ค่าเข้า : วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 7,000 kyats, เด็ก 5,000 Kyats / วันเสาร์อาทิตย์ ผู้ใหญ่ 15,000 Kyats, เด็ก 10,000 Kyats

*******************************************************

3. ช้อปปิ้งที่ตลาดแนว Eco “Yangon Zay”

สถานที่เที่ยวในพม่า ที่อยากชวนคุณมาอีกแห่งคือ Yangon Zay เป็นการจัดตลาดให้คุณมาเลือกชิมอาหารอร่อย เลือกซื้อสินค้าจากพม่า โดยไม่ซ้ำธีมกันในแต่ละเดือน โดย Yangon Zay จะเป็นแหล่งรวมของชาวสวน ชาวไร่ที่นำวัตถุดิบในท้องถิ่นมีคุณภาพมาออกร้าน ให้คุณมาเดินเล่นลิ้มลองรสชาติอาหารที่ใส่ใจอย่างพิถีพิถัน ทั้งยังเป็นตลาดแนว Eco ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการใช้พลาสติก โดยมีพื้นที่ให้คุณนั่งพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ในบรรยากาศสบายๆ สำหรับตลาด Yangon Zay จะจัดกิจกรรมอยู่ที่ The Tea Factory ที่เมืองย่างกุ้งเป็นประจำทุกเดือน 

*******************************************************

4. เที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!

มาเที่ยวพม่ากันต่อที่ สะพานอูเบ็ง (U Bein Bridge) สะพานไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุกว่า 200 ปี เป็นสะพานที่สร้างขึ้นด้วยไม้สักที่เหลือจากการรื้อพระราชวังเก่าของกรุงอังวะ ทอดตัวยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่ง สถานที่เที่ยวในพม่า ที่ให้บรรยากาศสมัยก่อน นอกจากจะเก่าแก่ที่สุดในโลกแล้ว ยังถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย

สะพานอูเบ็งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ ไม่ไกลจากตัวเมืองมัณฑะเลย์ เป็นสะพานที่ใช้ข้ามทะเลสาบตองตะมาน ไปยังเจดีย์เจ๊าตอว์กยี และนอกจากกิจกรรมเที่ยวแบบชิลล์ๆ อย่างการเดินเล่นบนสะพานแล้ว คุณยังสามารถลงไปล่องเรือท้องถิ่น เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกกลางน้ำได้อีกด้วย เป็นบรรยากาศธรรมดาๆ แต่มีความเรียบง่ายและห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ เชื่อว่าคุณจะต้องประทับใจกับสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

*******************************************************

5. เที่ยวชิลล์ๆ ที่ทะเลสาบอินเล

สถานที่เที่ยวในพม่า ที่ไม่อยากให้คุณพลาด นั่นก็คือ ทะเลสาบอินเล ที่นี่คุณสามารถล่องเรือกินลมชมวิว พร้อมชมวิถีชีวิตของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่กลางน้ำ โดยระหว่างทางคุณจะเห็นชาวประมงจับปลาที่พายเรือด้วยเท้าข้างเดียว เป็นภาพแปลกตาที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของทะเลแห่งนี้เลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีฟาร์มลอยน้ำ ที่เกษตรกรสามารถปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน แต่ใช้แปลงกลางน้ำแทน เป็นการปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสภาพความเป็นอยู่ที่ทำให้เราทึ่งกับภูมิปัญญาชาวบ้านได้ไม่น้อย โดยที่นี่ถือเป็นแหล่งปลูกมะเขือเทศที่ใหญ่ที่สุดในพม่าเลยล่ะค่ะ อีกทั้งที่นี่ยังมีรีสอร์ทสไตล์ธรรมชาติตั้งอยู่กลางน้ำ ให้คุณสดชื่นกับการพักผ่อนแบบสโลวไลฟ์อีกด้วย ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่ในรัฐฉาน ห่างจากเมืองตองยีประมาณ 25 กิโลเมตร ถ้าได้มาพักผ่อนชิลล์ๆ ที่ทะเลสาบอินเล การมา เที่ยวพม่า ครั้งนี้จะต้องสร้างความทรงจำดีๆ ให้คุณไม่รู้ลืมแน่นอน

*******************************************************

6. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต แห่งทะเลพม่า

อีกหนึ่ง สถานที่เที่ยวในพม่า ที่อยากให้คุณมาสัมผัสกับธรรมชาติใต้น้ำ ที่ยังคงความสมบูรณ์ชนิดที่ว่ามีน้องปลาและปะการังหลากหลายชนิดมากๆ คอยต้อนรับผู้มาเยือน นั่นก็คือ เกาะหัวใจมรกต อยู่ที่เกาะ Cocks Comb ในพม่า ห่างจากจังหวัดระนองเพียง 80 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น ส่วนใหญ่คนไทยจะติดต่อทัวร์จากเมืองไทยเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว ที่นี่เป็นเกาะที่ไม่มีชายหาด แต่ทว่าคุณสามารถว่ายน้ำลอดช่องปากทางเข้าเกาะเข้าไปได้ เพื่อพบกับโลกอีกใบ ใจกลางเกาะที่หากมองจากมุมสูง จะเห็นช่องกลางเกาะมีรูปร่างคล้ายหัวใจ บวกกับน้ำทะเลสีมรกต ทำให้เกิดสมญานามขึ้นว่า “เกาะหัวใจมรกต” นั่นเอง คุณสามารถดำน้ำลงไปทักทายฝูงปลาหลากชนิด และอิ่มเอมใจกับภาพปะการังหลากสีสัน มาเที่ยวทะเลอันดามันในโซนของพม่ากันบ้าง แล้วคุณจะหลงรักธรรมชาติมากขึ้นแน่นอน

*******************************************************

7. พักผ่อนแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติที่ Sane Let Tin Resort

Sane Let Tin Resort” รีสอร์ทสุดคูลแห่งพม่า ที่จะพาให้เราใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ตั้งอยู่ที่เมืองจากเมืองไจโท (Kyaik Hto) ซึ่งห่างจากย่างกุ้งประมาณ 30 นาที เพียงแค่ก้าวเข้ามายังรีสอร์ทแห่งนี้ก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นของต้นไม้สีเขียวขจีทั่วบริเวณ ด้วยเนื้อที่กว่า 150 ไร่ ทำให้มีกิจกรรมรอให้คุณไปร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สระน้ำกลางแจ้ง หรือจะเช่าจักรยาน ขี่ชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แวะชมวิวมุมสูง สัมผัสประสบการณ์ขี่ช้างหรือขี่ม้า รวมถึงเดินชมสวน Organic Orchard ที่แรกในพม่า

ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ Zoo and Zipline สวนสัตว์ในรีสอร์ท ที่เต็มไปด้วยสัตว์มากกว่า 100 ตัว จากกว่า 40 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, นก หรือสัตว์เลื้อยคลาน ที่ได้รับการดูแลและจดทะเบียนถูกต้อง ทั้งยังเป็นสวนสัตว์แบบ private แห่งแรกในพม่าอีกด้วย นอกจากที่คุณจะเข้าชมสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดแล้ว ยังสามารถเดินผ่านสะพานยาวที่ทอดตัวไปตามสวนสัตว์ ให้คุณใกล้ชิดกับวิถีทางธรรมชาติได้มากกว่าที่เคย

เห็นไหมล่ะว่า การไปเที่ยวพม่า ก็ไม่ได้มีแต่การไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเท่านั้น พม่ายังมีแหล่งธรรมชาติสวยๆ อีกมากมาย โดนใจคนชอบเที่ยวชิลล์ๆ สไตล์สโลว์ไลฟ์ หากมีโอกาสลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การเที่ยวพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิมนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mushroomtravel

รับส่วนลด 500 บาท! เมื่อพักที่ ชูการ์ มารีน่า รีสอร์ท เซิร์ฟ กะตะบีช (Sugar Marina Resort – SURF – Kata Beach) จ.ภูเก็ต

ชูการ์ มารีน่า รีสอร์ท เซิร์ฟ กะตะบีช (Sugar Marina Resort – SURF – Kata Beach) .ภูเก็ต

มอบส่วนลดทันที 500 บาท เมื่อจองโรงแรมนี้

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Travel Guru เท่านั้น!

ชูการ์ มารีน่า รีสอร์ท เซิร์ฟ กะตะบีช (Sugar Marina Resort – SURF – Kata Beach) จ.ภูเก็ต โรงแรมสุดฮิปใกล้หาดกะตะ ที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่น ห้องพักทั้งหมด 76 ห้อง แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ Deluxe ที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อน พร้อมระเบียงส่วนตัว Deluxe Pool View มองเห็นวิวสระน้ำจากระเบียงส่วนตัว และ Deluxe Pool Access ที่สามารถก้าวลงสระ เล่นน้ำได้มันทีจากระเบียงส่วนตัวเช่นกัน ห้องพักเหล่านี้จะมีการตกแต่งต่างกันไปใน 3 สไตล์ คือ Loft, Classic และ Retro แม้ว่าที่นี่จะเป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างเต็มพื้นที่ ใครมีแผนมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ไม่ควรพลาดที่พักภูเก็ตสุดฮิปแห่งนี้

ห้องพักแบบ Deluxe

ห้องพักแบบ Deluxe Pool View

ห้องพักแบบ Deluxe Pool Access

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

เงื่อนไข:

-ห้องพักทุกประเภท 2 วัน 1 คืน จำนวน 1 ห้อง

-รับส่วนลด 500 บาท เมื่อมียอดชำระค่าห้องพักตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก Travel Guru เท่านั้น

-ราคาดังกล่าวรวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

-Check in 14.00 hrs and Check out 12.00 noon

-ไม่สามารถใช้ได้ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง (Long Weekend) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ

-กรุณาสำรองห้องพักอย่างน้อย 7 วันทำการก่อนเข้าพัก

-กรุณาสำรองห้องพักได้ที่ 02-100-7008 เท่านั้น

-ไม่สามาถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นๆหรือแลกเป็นเงินสดได้

-กรณีเลื่อนวันหรือยกเลิกการเดินทางต้องแจ้งก่อนการเดินทางอย่างน้อย 14 วันทำการ และ สามารถเลื่อนได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น

-หากของรางวัลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทจะหาของรางวัลที่มูลค่ามากกว่าหรือเทียบเท่ามาชดเชยให้

ระยะเวลา: วันนี้ – 30 พ.ย. 61

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.hotelsthailand.com/thailand/phuket/sugar-marina-resort-surf-kata-beach.html