เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว “ภูสอยดาว” พิชิตลานสน ด้วยหัวใจสีเขียว

ชวนคนชอบเที่ยวเชิงผจญภัย เก็บกระเป๋า ไปเดินขึ้นเขาที่ ภูสอยดาว’ เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกล  ณ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 มกราคม 2562

เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว “ภูสอยดาว”
พิชิตลานสน ด้วยหัวใจสีเขียว

พื้นที่วนอุทยานแห่งชาติ ภูสอยดาว ยังคงมีสภาพผืนป่าอุดมสมบูรณ์  ปกคลุมด้วยป่าดิบเขาสลับกับทุ่งหญ้า และป่าสน ซึ่งเป็นป่าสนสามใบที่ใหญ่ที่ในประเทศไทย ไฮไลท์คือการชม ทุ่งดอกหงอนนาค ดอกไม้สีม่วงอ่อนที่จะบานสะพรั่งเต็มลานสนในทุกช่วงฤดูฝน ท่ามกลางทะเลหมอกลอยเอื่อย ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม  จนได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดของความโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

สำหรับเส้นทางเดินเท้าจากน้ำตกภูสอยดาว ขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ผ่านเนินต่างๆ คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้าย ที่ลาดชันที่สุด

ขอบคุณภาพจาก อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง

ระหว่างทางเดินขึ้นมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์ นอกจากนี้บนลานสน ยังมีดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมสีม่วง พากันชูช่อผลิดอกหลากสีสันเป็นกลุ่มๆ

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีบ้านพักให้บริการอยู่บริเวณใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ และสามารถไปกางเต็นท์นอนบนลานสน เพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยนำเต็นท์ขึ้นไปเอง หรือจะเช่าเต็นท์จากอุทยานก็ได้ 

ขอบคุณรูปภาพจาก : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว – Phusoidao

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ที่ชอบความท้าทาย รักการผจญภัย ร่วมเดินทางท่องเที่ยวแบบใสๆ ด้วยหัวใจสีเขียว โดยเดินเท้าขึ้นภูสอยดาว แล้วเก็บขยะลงมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมบนยอดภู พร้อมรับของที่ระลึกจากทางททท. ติดตามรายละเอียดได้ทาง TAT Sukhothai fanpage

8 เมืองก๊อปปี้ ที่เที่ยวจีน เหมือนเที่ยวทั่วโลก

8 เมืองก๊อปปี้ ที่เที่ยวจีน
เหมือนเที่ยวทั่วโลก

เรื่องก๊อปปี้ ใครๆ ก็ยกให้ประเทศจีน ตั้งแต่ของชิ้นเล็กๆ อาหาร อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ หรือแม้กระทั่ง เมืองทั้งเมือง ใหญ่โตขนาดไหนก็ยังสามารถสร้างออกมาได้เหมือนเปี๊ยบ เนียนเวอร์ๆ หากไม่เชื่อ ตามไปดูกันเลย กับ 8 เมืองก๊อปปี้ ที่เที่ยวจีน เหมือนเที่ยวทั่วโลก

1. Florentia Village

นี่คือแฝดคนละฝาของเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือเทียนจิน มีความเหมือนตั้งแต่ ลำคลอง รูปแบบสถาปัตยกรรม รวมไปถึงร้านค้าแบรนด์เนมอย่าง Gucci และ Prada ที่คล้ายกันขนาดนี้ ก็เพราะว่าคนสร้างเป็นชาวอิตาลีแท้ๆ นั่นเอง

******************************************************

2. Hallstatt

สร้างเลียนแบบหมู่บ้านฮอลล์ชตัด (Hallstatt) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบ ในประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ที่เมืองฮุ้ยโจว มณฑลกวางตง

******************************************************

3. Tianducheng (เมืองปารีสจำลอง)

ภาพซ้ายของจีน ภาพขวาของฝรั่งเศส

ปารีสโคลนนิ่ง หรือ เถียนตู้เฉิง (Tianducheng) ตั้งอยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง  สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมในปารีสมากมาย ทั้งหอไอเฟล สวนในพระราชวังแวร์ซายส์ ตึกรามบ้านช่อง หรือแม้แต่ประติมากรรมรูปปั้นและถนนหนทางต่างๆ

******************************************************

4. Overseas Chinese Town East (OCT)

เมื่อข้ามฟากแม่น้ำมาจากฮ่องกง จะพบกับ Overseas Chinese Town East (OCT) แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่ถอดแบบมาจากเมืองอินเตอร์ลาเคน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งรีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว สนามกอล์ฟ สปา รถจักรไอน้ำ รถไฟ และสะพาน Kappelbrücke จำลอง ซึ่งเป็นสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำร็อยส์ในเมืองลูเซิร์น

******************************************************

5. Tonghui Town International Bar Street

ใจกลางกรุงปักกิ่ง ยังมีเมืองอินเตอร์ลาเคนจำลองอีกแห่งหนึ่ง คือถนน Tonghui Town International Bar Street สองข้างทางเรียงรายไปด้วยบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์

******************************************************

6. Thames Town

Thames town ชุมชนสไตล์อังกฤษ ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนบ้านวิกตอเรียน ถนนปูพื้นหินและร้านรวงต่างๆ ก็ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศแบบยุโรป  แต่แท้จริงตั้งอยู่ที่เขต Songjiang ใกล้เมืองเซี่ยงไฮ้

******************************************************

7. Pudong’s Nederland, Holland Town

Holland Town หรือรู้จักกันในชื่อ  Pudong Holland Town ถอดแบบมาจากหมู่บ้านชาวดัตช์ของประเทศเนเธอแลนด์ โดยดึงแลนด์มาร์คชื่อดังของเมืองอัมสเตอร์ดัม และเทศบาลอาเมอร์สโฟร์ต มาสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งลำคลอง, Maritime Museum และห้างสรรพสินค้า Bijenkorf รวมไปถึงหมู่บ้านกังหันลมด้วย

******************************************************

8. Breeza Citta di Pujiang

Breeza Citta di Pujiang เมืองจำลองอิตาลีสมัยใหม่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเซี่ยงไฮ้ พื้นที่ทั้งหมดแวดล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ อพาร์ทเมนต์ ทางเดินอิฐบล็อค จึงแทบไม่เหลือพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้เขียวขจี

คราวนี้ก็ไม่ต้องเถียงกับเพื่อนแล้วล่ะว่าอยากไปเที่ยวไหน เพราะมาเที่ยวจีนที่เดียว ก็เที่ยวได้ครบทุกที่ และอาจได้ฟิลลิ่งเหมือนอยู่เมืองแห่งนั้นจริงๆ ก็ได้นะ

Source : thisisinsiderbusinessinsider

22 ภาพในอดีต พาไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อ 100 ปีก่อน

22 ภาพในอดีต พาไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อ 100 ปีก่อน

เคยสงสัยไหม สภาพบ้านเมืองของแต่ละประเทศ เมื่อ 100 ปีก่อน จะมีลักษณะยังไง จะผิดแผกแตกต่างจากปัจจุบันขนาดไหน หากเราย้อนเวลากลับไปได้จริงเหมือนอย่างในละคร เราจะต้องใช้ชีวิตกินอยู่ยังไง ยานพาหนะที่คนสมัยก่อนใช้เดินทางมีหน้าตาแบบไหน วันนี้ travel.mthai จะไขปริศนา กับ 22 ภาพในอดีต ของเมืองต่างๆ ทั่วโลก

1.แซนตามอนิก้า, รัฐแคลิฟอเนีย, สหรัฐ
ปี 1901

2. ไคโร, ประเทศอียิปต์
ปี 1910

3. กรุงปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
ปี 1902

4. โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น
ปี 1880

5. เบอร์ลิน, ประเทศเยอรมัน
ปี 1910

6. จาการ์ตา, ประเทศอินโดนีเซีย
ปี 1885

7. มุมไบ, ประเทศอินเดีย
ประมาณ 1890–1910

8. ปักกิ่ง, ประเทศจีน
ปี 1910

9. ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ
ปี 1893

10. แบกแดด, ประเทศอิรัก
ปี 1909

11. เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก, ประเทศรัสเซีย
ปี 1905

12. ดาร์ เอส ซาลาม, ประเทศแทนซาเนีย
ปี 1910

13. มหานครนิวยอร์ก, สหรัฐ
ปี 1900

สะพานบรูคลิน (Brooklyn Bridge)

14. เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน
ปี 1900

ภาพซ้าย คือ ถนนหนานจิง / ภาพขวา คือ ย่าน The Bund ปัจจุบันรายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ รูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก

15. อิสตันบูล, ประเทศตุรกี
ระหว่าง ปี 1890 และ 1900

16. นครโฮจิมินห์, เวียดนาม
ปี 1912

17. โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น
ปี 1880

ย่านโยชิวะระ (Yoshiwara) แหล่งสถานเริงรมย์ของชายหนุ่ม

18. การาจี, ประเทศปากีสถาน
ปี 1890

19. เม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
ปี 1905

20. โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้
ปี 1900

21. มอสโก ประเทศรัสเซีย
ปี 1914

22. เตหะราน ประเทศอิหร่าน
ปี 1910

ถ้าทะลุมิติได้ และเลือกได้ว่าจะไปโผล่ประเทศไหน ที่ไม่ใช่ประเทศไทย เพื่อนๆ จะเลือกที่ไหนคะ และเพราะอะไรกันเอ่ย ^^

Source : Buzzfeed