สวัสดีค่ะวันนี้จะมานำเสนอการทำอาหารในไมโครเวฟ สำหรับคนที่อยู่คอนโด หรืออยู่บ้านแต่อากาศข้างนอกมันร้อนเหลือเกินไม่อยากจะออกไปซื้อมารับประทาน วันนี้จะมานำเสนอ การนึ่งข้าวเหนียวด้วยไมโครเวฟ วิธีการแบบรวดเร็วทันใจ หรือบ้านใครไม่มีหวดที่สำหรับนึ่งข้าวนี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณจะนึ่งข้าวเหนียวทานเองได้สบายๆ คนไทยที่อยู่เมืองนอกที่คิดถึงข้าวเหนียวบ้านเราก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้เลย

อุปกรณ์

• ข้าวเหนียวดิบ
• หม้อต้มน้ำ
• กล่องสำหรับเข้าไมโครเวฟ

วิธีทำ

1. นำน้ำไปต้มจนเดือด จากนั้นปิดไฟยกลงจากเตา และรีบเอาข้าวเหนียวดิบใส่ลงไปในขณะที่ยังร้อน พักไว้ประมาณ 30 นาที สังเกตว่าเมล็ดข้าวเริ่มใสแล้วก็เป็นอันใช้ได้
2. พอเห็นข้าวเริ่มใสแล้ว เทน้ำออกให้หมดและนำข้าวไปใส่ในกล่องสำหรับเข้าไมโครเวฟ เอาเข้าเตาไมโครเวฟครั้งแรกใช้เวลา 5 นาที ครั้งต่อไปใช้เวลา 2 นาที นำเอาออกมาพลิกกลับด้านข้าวเหนียว เพื่อดูว่าข้าวสุกทั่วหรือยัง แล้วนำเข้าไปเวฟต่ออีก 2-3 นาที

การนึ่งข้าวเหนียวต้องใช้เวลาทั้งหมด 10 นาที หากข้าวเหนียวดิบที่แช่ไว้ใสมากก็ปรับเวลาการเข้าไมโครเวฟน้อยลง

เห็นไหมค่ะว่าการนึ่งข้าวเหนียวด้วยไมโครเวฟไม่ยากอย่างที่คิด และใช้เวลาไม่นานเลย ใครที่ไม่อยากออกนอกบ้านไปซื้อข้าวเหนียวก็เลือกใช้วิธีนี้ได้เลย

 สวัสดีค่ะ วันนี้พักกลางวันหาข้าวทานกันแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี เบื่ออาหารที่โรงอาหาร เห็นมีร้านก๋วยเตี๋ยวเพิ่งเปิดใหม่ที่ข้างตึกจัสมินของเรา เลยชวนเพื่อนๆ เดินมากินกัน กับ ร้านครีบเส้น ก๋วยเตี๋ยวปลาสด เห็นร้านสีสันสดใส ป้ายดูสะดุดตาลองเข้าไปชิมกันเลยดีกว่า

 ป้ายหน้า ร้านครีบเส้น ก๋วยเตี๋ยวปลา ขับเลยเซนทรัล แจ้งวัฒนะมาจะเจอซอยแจ้งวัฒนะ 22 อยู่ปากซอย ติดกับเซ่เว่นข้างตึกจัสมิน 

ร้านดูมีสีสันสดใส สะอาดสะอ้าน พ่อครัวแต่งตัวสะอาดบริการดีเยี่ยม

เมนูแนะนำ 

 เส้นปลาต้มยำ 55 บาท

เกาเหลาปลาสด 50 บาท

 เส้นปลาเย็นตาโฟ 60 บาท

ตบท้ายด้วยลอดช่อง ลอดช่องไทยจากวัดเจษฯ เลยทีเดียว หอม หวานมัน อร่อย

เราเคย ย่ำเมืองอุตรดิตถ์เมื่อ ปลายฝนต้นหนาวคราวก่อน ด้วยการทำตัวเป็นคนหลงทางกลางเมืองลับแล ไปกินอยู่กับชาวบ้านที่ยึดเอาความเรียบง่ายเป็นหลักในการใช้ชีวิต จนคิดจะฝังรากไปกับชาวเมืองลับแลเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ก็ต้องทิ้งความทรงจำดีๆ ไว้ที่เมืองลับแลก่อนกลับเมืองกรุง

วัน ปีข้ามผ่านไป เหมือนมีอะไรดลใจให้เราได้กลับมายังอุตรดิตถ์อีกครั้ง คราวนี้ประสบการณ์จากเมืองลับแลที่น่าลุ่มหลงยังคงอยู่ในความถวิลหา แต่อุตรดิตถ์ ยังมีความงดงามล้ำค่าของธรรมชาติให้เข้าไปเชยชมอีกมาก และถ้าอยากเปลี่ยนมุมมองของฤดูฝนที่เคยอึมครึมให้เป็นฤดูที่สวยที่สุดแล้ว เราได้รับคำแนะนำว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาที่นี่ให้ได้

ฝนพรำปีนี้เราจึงแวะมาเยือน “ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ” ที่เขาร่ำลือกันว่ามีป่าฝนธรรมชาติที่สวยที่สุด ดุจดังสวรรค์กลางดิน กินพื้นที่ครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ซึ่งอยู่ในพื้นที่สองจังหวัดคือ พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ และเป็นบ้านของน้ำตกภู สอยดาวอันงดงามนัก ฉะนั้นก็อย่าได้ชักช้า ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าภูสอยดาวในวันนี้จะยังมีดาวเด่นให้สอยมาชื่นชมไว้ใน ใจเหมือนในอดีตอยู่หรือไม่

พื้นที่วนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าภูสอยดาว ท้องที่อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ในวันนี้ยังคงสภาพป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เสน่ห์ของธรรมชาติบนพื้นที่สูงชันอย่างน้ำตก ยังคง “ขายได้” สำหรับใครที่ยังไม่เคยเยี่ยมเยียนมาก่อน กับกลุ่มที่รักธรรมชาติแบบเรียบง่ายเสพได้ทันที

เรามาเยี่ยมภูสอยดาวช่วงต้นของหน้าฝนเดือนมิถุนายน ซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุดของการขึ้นภูดูน้ำตก และดอกไม้ จังหวะที่ดีที่สุดของการมาเที่ยวภูสอยดาวจะอยู่ในช่วงเข้าฤดูฝนเต็มตัวราว เดือนสิงหาคม-กันยายน จะเป็นช่วงที่การเดินป่าพิชิตภูสอยดาวสนุกตื่นเต้นและท้าทายที่สุด แต่หากจุดหมายคือการได้มาสัมผัสความงามของธรรมชาติแบบใกล้ๆ ไม่ว่าจะมาฤดูไหน ภูสอยดาวก็สวยไม่เปลี่ยนเสมอ