มหัศจรรย์ทะเลตรัง สวรรค์แห่งเมืองไทย

เก้าโมงเช้า! ท่าเรือปากเมงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและ เรือโดยสารสองชั้นที่มาจอดรอรับกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ชาวเราได้เดินขึ้นเรืออย่างเป็นระเบียบไม่เบียดเสียดกันไปมา…ดูดี มากๆ เอ๊! หรืออาจเป็นเพราะว่าคุณประทีป นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด ตรังและเจ้าของลิบงการท่องเที่ยว มาอำนวยความสะดวกให้พวกเราด้วยตนเองเป็นพิเศษโดยเฉพา

image003

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากต่างคนต่างกวาดสายตาชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางพอประมาณ เรือของเราและลำอื่นๆ อีกกว่า 5 ลำ ก็มาถึงจุดหมายแทบจะพร้อมๆ กัน ชุลมุนเล็กน้อย เพราะจุดหมายแรกของทุกคนคือ ‘เกาะมุก’ แหล่งมุดตามกันเป็นสาย เพื่อเข้าไปสู่ ‘ถ้ำมรกต’ ขอบอกไว้เลยว่า เส้นทางการลอยคอตามกันเข้าไปจะมืดมาก ต้องจับยึดกันดีๆ และอย่าเผลอเกาะโขดหินเป็นอันขาดถ้าไม่อยากโดนเพรียงบาดโดยไม่รู้ตัว ผ่านไปสักหนึ่งหอบเหนื่อยเมื่อยขาจากการถีบน้ำพยุงตัว ทุกคนก็มาถึงโถงของหาดทรายขนาดมินิ ที่มีต้นไม้ใหญ่พอประมาณ

image002

‘เกาะกระดาน’ เกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง เป็นจุดหมายที่สองต่อจากถ้ำมรกต มองปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่า ทำไมทางจังหวัดจึงเลือกที่นี่เป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรอันโด่งดัง เพราะชายหาดพรมด้วยทรายเม็ดขาวที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้ามากยามย่างเดิน อีกทั้งท้องทะเลยังสะอาดใสจนมองเห็นแนวปะการังที่ทอดยาวอยู่ใต้น้ำ สำหรับคนที่ชอบสนอร์เกิล เกาะนี้ยังมีจุดดำน้ำตื้นอยู่หลายแห่งให้ได้ชื่นมื่นกับฝูงปลาน้อยใหญ่ เรียกว่าต่อให้มาพร้อมๆ กันหลายคณะทัวร์ก็ไม่ดำชนกันมั่วแน่นอน

image003

หลังจากอิ่มตา อิ่มใจ และอิ่มท้องจากมื้อกลางวันบนเรือที่จอดเทียบ ณ เกาะกระดานแล้ว เราก็มาถึงจุดชมปะการังเจ็ดสีและฝูงปลาหลากหลายสายพันธุ์ ณ ‘เกาะเชือก’ ซึ่งต้องบอกว่าบรรยากาศและอารมณ์ในการรื่นรมย์ชมวิวใต้น้ำก็ไม่ได้แตกต่าง กันมากจากจุดหมายสุดท้าย

 

ปั่นสองล้อ ชม ชิม ชอป บ้านนาต้นจั่น สุโขทัย

image001

สำหรับทริปแรกในการขี่จักรยานเที่ยวบ้านนาต้นจั่นนั้น อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย นั้นต้องบอกว่า บ้านนาต้นจั่น เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้อพยพมาจากทางภาคเหนือของประเทศไทย อาทิ จังหวัดลำปาง เมืองลับแล และจังหวัดอุตรดิตถ์ ภาษาที่ใช้จึงแตกต่างจากชาวพื้นเมืองทั่วไปของจังหวัดสุโขทัย และส่วนใหญ่มีอาชีพทางด้านเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ ทำสวนผลไม้ เก็บของป่า ยามว่างจากฤดูทำการเกษตร กลุ่มพ่อบ้านจะเก็บซากไม้ในป่าเพื่อมาทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้เป็นสินค้าส่งออก

image003

และด้วยความพร้อมในหลายๆ ด้าน ของชุมชนบ้านนาต้นจั่น กองการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงเล็งเห็นว่าภูมิทัศน์ในจังหวัดสุโขทัยเหมาะแก่การท่องเที่ยวแบบจักรยาน ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวในเชิง Slow Travelling ภายใต้คอนเซปต์ Real Life Real Ride การท่องเที่ยวด้วยจักรยานเพื่อสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ซึมซับวิถีชีวิต วัฒนธรรมในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ

image004

ชมการทำผ้าหมักโคลน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำผ้ามาหมักในน้ำโคลนเพื่อให้สีที่ย้อมคงทนและได้สีที่สวยงาม โดยมีส่วนประกอบของสีต่างๆจากวัตถุดิบธรรมชาติ อาทิ เปลือกมังคุด มะเกลือ ไม้ฝาง ซึ่งต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนและรายละเอียด ทำให้ผ้าหมักโคลนมีสีธรรมชาติ ดูคลาสสิกเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และขึ้นชื่อของบ้านนาต้นจั่น

image005

งานไม้ของคุณตาวงษ์ คุณตาวงษ์เป็นนักแกะสลักไม้ตัวยงของบ้านนาต้นจั่น ของเล่นขึ้นชื่อจากรุ่นสู่รุ่น ที่เด็กๆคุ้นเคยกันดีเป็นตุ๊กตาบาร์โหนซึ่งเป็นชิ้นงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้เล่นมากที่สุด ที่สำคัญเด็กๆ บ้านนาต้นจั่นได้ซึมซับคุณค่าจากภูมิปัญญาคุณตาวงษ์ ของเล่นที่คุณตาทำส่วนใหญ่มาจากวัสดุเหลือใช้ ทั้งเศษไม้ และลูกมะพร้าวแห้ง ตาวงษ์นำมาประดิษฐ์เป็นของเล่นได้เกือบทุกอย่าง

image006

แวะร้านข้าวเปิ๊บ กินอาหารกลางวัน (ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ข้าวเปิ๊บ” อาหารท้องถิ่นต้นตำรับของที่นี่ที่มีหน้าตาคล้ายก๋วยเตี๋ยว มีเส้น ผัก และน้ำซุป โดยเส้นกับผัก ถูกห่อรวมกันคล้ายๆ ข้าวเกรียบปากหม้อ

image007

นอกจากนี้ชุมชนบ้านนาต้นจั่นยังมีที่พักบริการ พร้อมอาหาร ที่บ้านนา ต้นจั่น มีโฮมสเตย์ จำนวน 15 หลัง พักได้หลังละ 4-6 ท่าน มีบริการพร้อมอาหาร 3 มื้อ มื้อค่ำจะเป็นมื้อที่รับประทานอาหารร่วมกัน พร้อมมีการแสดงต้อนรับ และผูกข้อไม้ข้อมืออย่างอบอุ่นจากผู้ใหญ่ภายในชุมชน นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางไปขี่จักรยานท่องเที่ยวสนุกๆ สูดอากาศบริสุทธิ์แถมได้ใกล้ชิดวิถีชุมชนเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

 

ฟาร์มอัลปาก้าแห่งแรก และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

สถานที่ที่จะพาไปเที่ยววันนี้ก็คือ Alpacahill ที่สวนผึ้งราชบุรี นั่นเองจ้า มาชมการเดินทางกันสักนิดนะคะ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับอัลปาก้า กันก่อน เพราะหลายท่านอาจจะยังไม่รู้จักว่า คือตัวอะไร อัลปาก้า เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กินพืชเป็นอาหาร จัดอยู่ในตระกูลอูฐ โดดเด่นด้วยขนที่หนานุ่มและสวยงาม มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ชาวอินคานิยมนำขนมาใช้ และเรียกว่า “เส้นใยจากพระเจ้า” อัลปาก้า มีอยู่ สองสายพันธุ์ คือ suri และ huacaya ซึ่งแตกต่างกันที่ลักษณะของขน โดย suri จะมีขนยาวและนุ่มเหมือนเส้นไหม ส่วน huacaya นั้นจะมีลักษณะเหมือนขนปุกปุยเหมือนกับก้อนเมฆ

image001

ที่อัลปาก้าฮิล แห่งนี้มีพื้นที่กว่า 250 ไร่ ลักษณะเหมือนสวนสัตว์ขนาดย่อมที่เราสามารถใกล้ชิดสัตว์ได้ตลอดเวลาโดยมีเจ้า หน้าที่ควบคุมอย่างใกล้ชิด สัตว์แต่ละโซนก็แยกออกจากกัน มีสัตว์มากมายหลายประเภท

image002

 

หลักๆเลย ก็คือ เจ้าอัลปาก้า ช่วงแรกๆ ตอนที่นี่เปิดบริการก็มีแต่เพียงอัลปาก้าอย่างเดียว ตอนนี้ขยายโซนเพิ่มเติมแล้วนะคะ จะมีสัตว์เพิ่มเติม ก็คือ เฟอเรท จิงโจ้แคระ แพรี่ด็อก กวางดาว แกะ กระต่ายไทย กระต่ายยักษ์ แมวเปอร์เซีย เต่ายักษ์ เป็ด นกยูง หนูชินชิล่า และจะขยายโซนอีกมากมายเลยค่ะ

image004

image005

image006

image009

image013

image010

image011

image012

ต่อมาเป็นถึงพระเอกของเราแล้วนะคะ เป็นเจ้าอัลปาก้า นั่นเอง อยากให้น้องมาใกล้ๆ ต้องเอาอาหารมาล่อค่ะ อิอิ การเข้าไปใกล้ๆ น้องอัลปาก้า ต้องมีวิธีการเข้าไปนะคะ อย่าเข้าด้านหลัง และอย่าลูบบริเวณศีรษะ เพราะน้องจะไม่ชอบอย่างแรง และอาจจะเกิดอันตรายกับเราได้ ส่วนการให้อาหาร ให้แบบนี้ผิดวิธีนะคะ การให้อาหารน้อง ต้องจับด้วยสองมือ ถ้าจับมือเดียวแบบด้านบน อาหารหกน้องจะไม่ทานทันที !!! ชมความน่ารักและถ่ายรูปได้ตามใจชอบเลยค่ะ เวลาน้องนั่งรวมกัน เหมือนตุ๊กตา น่ารักมากๆเลยค่ะ ว่าไหมค่ะ เต็มอิ่มกับน้องอัลปาก้าแล้วไปชมกันต่อเลยค่ะ อย่าลืมแสตมป์ด้วยนะคะ

image008

image007