The Core (เดอะ คอร์) โรงแรมสุดฮิป น้องใหม่ล่าสุด ในจังหวัดเชียงใหม่

The Core (เดอะ คอร์) โรงแรมสุดฮิป น้องใหม่ล่าสุด ในจังหวัดเชียงใหม่

The Core (เดอะ คอร์) เป็นโรงแรมน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน มีกลิ่นอายของธรรมชาติ ตกแต่งเน้นโทนสีขาว-น้ำเงิน ดูแล้วสบายตา อีกทั้งยังมีมุมเก๋ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ กันหลายมุมเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ส่วนไหนของโรมแรมก็สวยทุกมุม! พร้อมด้วยการบริการที่อบอุ่น งานนี้ใครมาพักเชียงใหม่ พลาดไม่ได้ซะแล้วกับที่พักสุดฮิปแห่งนี้

01

The Core Hotel, Chiang Mai (โรมแรม เดอะคอร์ เชียงใหม่) นำเอากลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติจากรูปแบบของผ้าย้อมคราม มาออกแบบเป็นโรงแรมเพื่อตอกย้ำความแข็งแรง ให้คุณได้สัมผัสถึงคุณค่าของธรรมชาติและมาถึงแก่นของเชียงใหม่อย่างแท้จริง

02

โรมแรม เดอะคอร์ เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนห้วยแก้ว อยู่เยื้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ทางขึ้นดอยสุเทพ) ในจังหวัดเชียงใหม่

03

04

โรงแรมเน้นใช้โทนสีขาว-น้ำเงิน ดูสะอาด สบายตา อีกทั้งการตกแต่งที่ช่างดึงดูดชาวฮิปสเตอร์ สายวินเทจ อย่างเราๆ ได้เป็นอย่างดี โดยการใช้วัสดุที่ทำจากไม้ เหมือนเราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น การตกแต่งภายในโรงแรมดูน่ารัก ชิวๆ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ สำหรับคนรักชีวิต slow life หลายมุมเยอะมากๆ

 

05

The Core มีห้องพักทั้งหมด 56 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบ คือ

Deluxe Double / Deluxe Twin

Triple Room

Family Room

06

07

08

09

ห้องพักของ The Core ทุกห้องมี WIFI ฟรี! พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง รวมถึง Mini bar ด้วย

10

11

12

นอกจากนี้ทางก็ยังมีสระน้ำ ที่เปิดไว้ให้ใช้บริการกันอยู่ทางชั้น 1 ของโรงแรม เปิดให้เล่นกันตั้งแต่ 08:00 – 21:00 น. , ฟิตเนส ‘Best’s Fitness’ ให้เล่นสำหรับลูกค้าที่เข้าพัก เปิดตั้งแต่ 09:00 – 21:00 น.

13

เมื่อเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึก (ชั้น 5) จะเป็นชั้นดาดฟ้า จะเป็นห้องอาหาร ที่มีทั้ง in door และ out door นั่งรับลมเย็นๆ ซึมซับบรรยากาศดีๆ มองเห็นวิวสวยๆ ของดอยสุเทพด้วย

14

15

ส่วนบริเวณหน้าโรงแรมมีพื้นที่จอดรถให้บริการได้ไม่เกิน 14 คัน และมีบริการที่จอดรถกรณีที่จอดรถเต็ม ซึ่งจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 ม. ฟรี! สำหรับลูกค้าของโรงแรม

16

นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีบริการ อื่นๆ เช่น

มีจักรยานให้เช่าขับ ฟรี!

ฟรี Wi-Fi

บริการเช่ารถยนต์ – มอเตอร์ไซค์

Scotty I 110 250 Baht/Day

Zoomer X 110 300 Baht/Day

Toyota Vios 1,300 Baht/Day (Included Insurance)

Toyota Altis 1,600 Baht/Day (Included Insurance)

17

สอบถามเพิ่มเติม : 062-6892599

ที่ตั้ง: 99/64,99/105-107 หมู่ 1 ถ.ห้วยแก้ว ต.ช้างเผือก, Chiang Mai, Thailand 503000

ละติจูด (Latitude) : 18.8074520554545

ลองติจูด (Longitude) : 98.9569312334061

เบอร์ติดต่อ: +665 321 8163, +665 321 8164, +66 86 363 2105

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/thecorehotelchiangmai,  https://www.instagram.com/the_core_hotel

ขอบคุณข้อมูล-รูปภาพ: https://www.facebook.com/thecorehotelchiangmai และ http://travel.mthai.com/hotel-review/134798.html

 

 

 

 

 

 

 

 

รีวิว บุฟเฟ่ต์ปู 3 ชนิด แบบจุใจที่ ฮอกไกโด

รีวิว บุฟเฟ่ต์ปู 3 ชนิด แบบจุใจที่ ฮอกไกโด

ถ้าพูดถึงขาปูยักษ์ หรือ ปูยักษ์ หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะนึกถึง ฮอกไกโด เพราะถือเป็นดินแดนอาหารทะเลเลื่องชื่อของญี่ปุ่น โดยเฉพาะปู ที่มีขนาดใหญ่และมีความสดอร่อย เมื่อมาฮอกไกโดทั้งทีคงไม่พลาดที่จะต้องทานให้ได้ สำหรับร้านที่อยากจะแนะนำเสมือนสวรรค์ของคนรักบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสไตล์ปิ้งย่าง Viking Park Cook Robin และเราขอเน้นไปที่ปูละกันค่ะ

01

บุฟเฟ่ต์ปู 3 ชนิด ฮอกไกโด

ที่นี่เป็นร้านค่อนข้างใหญ่ ( 280 ที่นั่ง) มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบที่นั่งสไตล์ญี่ปุ่น และแบบเก้าอี้ ระยะเวลาในการรับประทาน 90 นาที (ราคา 3,675 เยน) สำหรับเครื่องดื่มเราสามารถทานได้ไม่อั้น ทั้งซอฟท์ดริงค์ เบียร์ สาเก โซจู และไวน์  ก็จ่ายเพิ่มเพื่อดื่มแบบไม่อั้นได้อีก (840 เยน) งานนี้ไม่อั้นทั้งอาหารทะเลและเครื่องดื่ม ไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ก็คือ “ปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูขน ปูทาราบะ ปูซูไว”

02

ปูฮอกไกโด ปูขน ปูทาราบะ ปูซูไว

เริ่มแรกเค้าจะให้เราเดินเลือกอาหารตามใจชอบ แต่สำหรับปูแล้ว เค้าจะจัดเซ็ทมา 3 ชนิดก่อนโต๊ะละ 1 ชุด หากหมดจะให้กดออทเรียกพนง.เพื่อเอามาเสิร์ฟเพิ่ม เลือกได้ว่าเราอยากทานปูชนิดไหนเพิ่มตามใจเราเลย

03

ปูทาบาระ ฮอกไกโด เนื้อแน่นๆ เน้นๆ

สำหรับเราแล้ว รสชาติเนื้อปูทั้ง 3 ชนิดจะแตกต่าง ปูทาราบะ เป็นปูเนื้อแน่นและมีรสค่อนข้างเค็ม, ปูซูไว เนื้อนุ่มแต่ไม่แน่นเท่ากับปูทาราบะ รสค่อนข้างจืด (เราว่า ต้องทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดถึงจะเด็ด) ส่วนปูขน อันนี้เราว่าเด็ดสุด เนื่อนุ่มและหวานค่ะ สำหรับคนที่ชอบกินมันปู ปูขนจะมีมันค่อนข้่างเยอะ ทำให้ฟินกันไปเลย

04

ขอบอกว่า ปู ฮอกไกโด เค้าไม่ต้องปิ้งย่างก็สามารถทานได้เลย มีอุปกรณ์สำหรับแกะปูให้ครบ นอกจากนี้ยังมียากินิคุเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อแกะอีกเพียบ และสำหรับคนไทยแล้วหากอิ่มอาหารคาวแล้วต้องตบด้วยของหวาน ที่นี่เค้ามีทั้งเค้ก ขนมหวาน ผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ รวมทั้งไอศกรีมซอฟท์ครีม ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และด้วยข้อจำกัดของเวลาในการทานบุฟเฟ่ต์ปู (เพราะต้องใช้เวลาแกะอยู่ประมาณนึงเลยทีเดียว) อย่าลืมคุมเวลาดีๆ ภายใน 90 นาที เราอาจจะต้องเลือกทานอย่างใดอย่างนึง (สำหรับเราคิดว่าจะจัดปูให้เต็มที่เลยล่ะ) อ้อ..อย่าลืมว่า เราคนไทยชอบรสจัด หากเรามาเที่ยวกินบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดแบบนี้ อย่าลืมพกน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบจัดจ้านแนวบ้านเรามากันด้วยนะคะ

05

ภาพนี้จาก http://www.seaport.co.jp/cookrobin

ขอบคุณข้อมูลจาก: http://food.mthai.com/eat-abroad/japan/99578.html

 

 

 

 

Rubber Land ศูนย์การเรียนรู้เรื่องยางพารา แห่งแรกและแห่งเดียวในเอเซีย!

Rubber Land ศูนย์การเรียนรู้เรื่องยางพารา แห่งแรกและแห่งเดียวในเอเซีย!

ตื่นตะลึงไปกับศูนย์การเรียนรู้เรื่องยางพารา แห่งแรกและแห่งเดียวในเอเซีย! พร้อมกับความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว เปิดอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ คนไทยทุกคนได้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน

01

บริษัท พี.พี. สยามลาเท็กซ์ จำกัด ผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพาราของประเทศไทย เกิดแนวความคิดในการส่งเสริมธุรกิจสินค้ายางพาราเพื่อให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยทุ่มงบสร้าง “RubberLand” (รับเบอร์แลนด์) ศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับยางพาราเสมือนจริง ซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเซีย! บนพื้นที่กว่า 4,400 ตร.ม. พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติด้วย

02

ภายใน RubberLand (รับเบอร์แลนด์) มีแหล่งสาระความรู้เรื่องของยางพารา ตั้งแต่การกำเนิดต้นยาง เป็นน้ำนางดิบ จนถึงการนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม และภูมิปัญญาของคนไทย แบางออกเป็นโซน เช่น โซนป่ายาง, โซนแปรรูปยาง, โซนยางกับชีวิตประจำวัน, โซนมหัศจรรย์ยางพารา

อีกทั้งยังให้ความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยมีการโต้ตอบผ่านเทคนิคมัลติมีเดีย และภาพสามมิติเสมือนจริง 3D Project Mapping นอกจากนี้ยังมีสินค้ายางพาราและของที่ระลึกให้เลือกซื้อกันอีกด้วย

ค่าเข้าชม : คนไทยราคา 100 บาท / เด็กความสูงตั้งแต่ 90-135 ซม. ราคา 60 บาท / ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไปและเด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ฉลองการเปิดอย่างเป็นทางการ คนไทยทุกคนได้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายนนี้

ที่อยู่ : พัทยากลาง อำเภอ บางละมุง ชลบุรี

โทรศัพท์ : 038 413 490

03

04

ขอบคุณข้อมูลจาก: http://travel.mthai.com/news/141798.html