“The 7th Room” โรงแรมบ้านต้นไม้ นอนชมแสงเหนือ ในฤดูหนาว

“The 7th Room” โรงแรมบ้านต้นไม้ นอนชมแสงเหนือ ในฤดูหนาว

01

แลปแลนด์ (Lapland)” เรารู้จักกันดีเพราะเป็นบ้านเกิดของซานตาคลอส เป็นอีกหนึ่ง Dream List ที่หลายคนใฝ่ฝันว่าอยากมาท่องเที่ยวเมืองแห่งนิยายนี้สักครั้ง นอกจากจะไปเยี่ยมบ้านลุงซานต้าแล้ว กิจกรรมที่กลายคนต้องทำเมื่อมาที่นี่ก็คือ การชมแสงแหนือ แต่จะฟีลกู๊ด … ไปอีก ถ้าเราได้นอนบนบ้านต้นไม้ บนเตียงอุ่นๆ ชมแสงเหนือ ความอัศจรรย์จากธรรมชาติ ผ่านห้องพัก ..

02

“The 7th Room” เป็นโรงแรมดีไซน์เท่ๆ ตั้งอยู่ที่แลปแลนด์ ทางเหนือของฝั่งประเทศสวีเดน ใกล้อาร์กติก ออกแบบโดยบริษัท Snøhetta ว่ากันว่า The 7th Room เป็นหนึ่งในโรงแรม ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวสวยที่สุดในโลกอีกด้วย

โรงแรมต้นไม้ The 7th Room สร้างขึ้นเพื่อลดช่องว่างระหว่างคนและธรรมชาติ เหมือนให้เรารู้สึกพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ตั้งอยู่กลมกลืนกับป่าสน ซึ่งออกแบบในสไตล์ดั้งเดิมของชาวยุโรป ความสูงจากพื้น 33 ฟุต (10 เมตร)

03

การตกแต่งภายในเน้นวัสดุที่ทำจากไม้ ช่วยสร้างบรรยากาศสบายๆ บวกกับหน้าต่าง กระจกบานใหญ่ที่ล้อมรอบตัวบ้าน ทำให้เรามองเห็นวิวตระการตาของแลปแลนด์ ดินแดนหิมะได้ทั่วพื้นที่ ทั้งดอกไม้ แม่น้ำ และภูเขา ภายในตัวบ้านมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่นั่งเล่น

นอกจากนี้ โรงแรมต้นไม้ The 7th Room ที่สวีเดนแล้ว ในเครือของ Treehotel ยังมีโรงแรมดีไซน์เจ๋งๆ อีก 6 แห่ง เอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมแสงเหนือด้วย สุดยอด!!

ขอบคุณข้อมูลจาก: Travel MThai

04

05

06

07

08

09

 

 

 

Nahim Cafe x Handcraft คาเฟ่น่ารัก ฮิปสเตอร์ต้องไม่พลาด

Nahim Cafe x Handcraft คาเฟ่น่ารัก ฮิปสเตอร์ต้องไม่พลาด

01

เราเดินจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เปิดแผนที่ทางไปร้าน  Nahim Cafe x Handcraft แบบเดินไปดูไปทุกนาที เพราะงงๆ ไม่ค่อยได้มาทางนี้ ให้ฟิลเหมือนตามล่าขุมทรัพย์ ทั้งเดินข้ามคลอง เข้าซอยซอกแซก ได้เห็นร้านรวงและวิถีชีวิตของแม่ค้าไซน่าทาวน์เดินกันให้วุ่น มีบางจังหวะหยิบกล้องขึ้นมาเป็นถ่ายเล่นเป็นระยะ สักพักก็มาโผล่ซอยนานาที่ตั้งของคาเฟ่นะฮิม ด้วยความน่ารักมุ้งมิ้ง สีสันสดใส ทำให้กล้องที่ยังไม่ทันได้ปลดออกจากคอก็ได้ใช้งานถ่ายแชะ แชะ แชะ ทันที โดยเฉพาะป้ายร้านวงกลมสีน้ำเงินที่มีรูปอัลปาก้ากับเด็กในกาน้ำชา

02

03

04

พอส่องเข้ามาในร้านก็เจอความสดใส กุ๊กกิ๊ก คลอเสียงเพลงจังหวะสนุกและลวดลายอัลปาก้าเต็มกำแพง แถมยังมีโซนมุมที่นั่งน่ารักๆ จำลองพื้นหญ้าและชิงช้าแขวน ให้บรรยากาศสนุกสนานด้วยของตกแต่งหน้าตาน่ารัก น่าหยิก ซึ่งเป็นความตั้งใจของคุณพิม  ชโลชา เจ้าของร้าน ที่อยากให้ร้านมีสีสันเยอะๆ ดูสนุก ระหว่างนั่งรอเครื่องดื่มที่สั่ง เราสังเกตว่าของข้าวทุกอย่างในร้านถูกคิดมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งกระจกหน้าร้านลายจุดที่เกิดจากการเจาะ MT Tape แปะทีละอัน ผ้าม่านข้างฝาผนังที่เย็บขึ้นเอง จนถึงลายกระเบื้องบนโต๊ะที่มีเพียงลายละแผ่น ที่สั่งตรงพิเศษจากลำปาง

05

06

07

COLD BREW TEA กลิ่น PA PA PA PIPO เป็นชาผลไม้ขวดแก้วแรกที่ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ  ซึ่งเป็นชาขาวผสมกับมะม่วงและสัปปะรด ส่วนแก้วที่สอง เราเล็งมาตั้งแต่เห็นรูปในโลกออนไลน์

08

09

กับเมนู HOT CHOCOLATE POT เมนูสุดครีเอทของทางร้าน มาพร้อมกานมร้อน ถ้วยฟองดู เม็ดช็อกโกแลต

10

ระหว่างที่เพลิดเพลินกับการหย่อนเม็ดช็อกโกแลต และคนไปมา เพื่อนสาวก็ไปสิงตัวอยู่ตรงมุมโต๊ะเก้าอี้ไม้ขนาด 1 คนนั่ง เป็นฟิลเหมือนโต๊ะทำงาน มีทั้งหนังสือ โคมไฟ แจกันดอกไม้ พร้อมกับนั่งวาดภาพสีน้ำรูปเมนูที่เพิ่งซัดกันหมดไปไม่นาน

สักพัก Happy Strawberry Fondue อีกหนึ่งเมนูน่ารัก ก็ถูกเสิร์ฟด้วยสตอเบอรี่กองโต หวาน สด ชื่น ฉ่ำ ทานคู่กับครัมเบิ้ล ครีมสด และจิ้มลงในถ้วยช็อกโกแลตเข้มข้นอุ่นๆ ปิดท้ายด้วยเมนูของคาวอย่าง SOUP PLATTER ประกอบขนมปังหน้าอัลปาก้า สลัด และมีซุปให้เลือก 3 อย่าง ทั้งข้าวโพด แครอท ฟักทอง ส่วนเราเลือกซุปฟักทอง สีเหลืองนวล ตัวซุปข้น รสกลมกล่อม มีความหวานละมุนลิ้นจากเนื้อฟักทอง ส่วนน้ำราดสลัดอารมณ์คล้ายน้ำสลัดญี่ปุ่น เฮลตี้หน่อยๆ กินคู่กับผักออแกนิค กรอบสด ทุกคำที่กัด

11

12

13

14

SOUP PLATTER

หรือจะลองชิมเมนู Strawberry & Nutella Waffle

15

สุดท้ายห้ามพลาด เครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ สีสวย อย่าง Strawberry Polka dot milkshake

16

17

ทั้งหน้าตาดี บรรยากาศดี รสชาติดี ถ้าใครหาร้านถ่ายรูปเก๋ๆ เราว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

18

19

20

และยังมีมุมขายของ DIY ไอเดียเก๋ๆ แบบเฉพาะของ Nahim Cafe ที่เดียวอีกด้วย

21

22

ที่ตั้ง: ซอยนานา ป้อมปราบ ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

เปิด:  จันทร์-อังคาร 10.00 – 21.00 น. / พฤหัส-ศุกร์ 10.00 – 21.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 09.00 -21.00 น.

ปิด: พุธ

ราคาเฉลี่ยต่อคน 150 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก: Food MThai

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทำกันแบบนี้เลย! ย้อนอดีต เวลาพาเด็กทารกขึ้นเครื่องบิน ในยุค 1950s

ทำกันแบบนี้เลย! ย้อนอดีต เวลาพาเด็กทารกขึ้นเครื่องบิน ในยุค 1950s

01

แน่นอนว่าการเดินทางโดยเครื่องบินนั้น ผู้โดยสารก็อยากที่จะได้รับความสะดวกสบาย ทั้งที่นั่งและการบริการ ซึ่งทางสายการบินก็มักจะมีบริการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าอยู่เสมอ อย่างเช่นภาพในอดีตภาพนี้!

02

ภาพถ่ายในปี 1953 ของสายการบิน British Airways ที่ได้สร้างสิ่งประดิษฐ์นี้เพื่อนักท่องเที่ยวตัวน้อย เรียกว่า “skycots” ที่นอนสำหรับเด็กทารก มีลักษณะเป็นแปลนอน และแขวนไว้ติดกับชั้นวางกระเป๋า ทางด้านบนศรีษะของที่นั่งผู้ใหญ่ โดยแปลนี้จะช่วยให้เด็กทารกนอนหลับสบาย อีกทั้งการออกแบบยังมีลักษณะเป็นเบาะกั้นเพื่อไม่ให้เด็กดิ้นหล่นลงมาอีกด้วย (แต่กั้นได้จริงหรอ?)…

03

04

Source: www.boredpanda.com

เรียบเรียงโดย: Travel MThai