เพิ่งจะผ่านวันหยุดยาวมาไม่นาน…หลายท่านคงจะเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ หลังจากไปพักผ่อนเติมพลัง ชาร์จแบตให้ร่างกายในช่วงวันหยุดยาว และถ้าท่านรู้สึกยังพักผ่อนไม่จุใจ travel.mthai.com ขอแนะนำ 10 ที่พัก เที่ยวยกก๊วน นอนยกแก๊ง ให้คุณและผองเพื่อน ไปมันส์กันเป็นหมู่คณะ

1. กรีน แกลเลอรี่ หัวหิน เบด แอนด์ เบรคฟาสต์
   (Green Gallery Bed & Breakfast)

ที่พักน่ารักๆ สำหรับก๊วนเพื่อน ต้องที่นี่เลย Green Gallery Bed & Breakfast อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ้านพักตากอากาศสไตล์ไทยผสมโคโลเนียล ที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าสมัย ร.5 ห้องทั้งหมดได้รับการตกแต่งใหม่ในแบบวินเทจประยุกต์ผสานกับศิลปะร่วมสมัย ที่เน้นโทนสีขาวและเขียวอ่อน ประดับลวดลายดอกไม้ ให้เข้ากับชุดเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุค

ห้องพักสำหรับแก๊งเพื่อนหรือครอบครัว แนะนำ Lighthouse Suite ภายในมี 2 ห้องนอนเชื่อมต่อกัน มองเห็นวิวทะเล, Green Suite ห้องแนวคลาสสิกโมเดิร์น ด้วยผนังสีเขียวกับแสงไฟในห้องที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน และยังมีห้องพักน้องใหม่ Bellevue Beach Pool Villa มาพร้อมสระจากุซซี่ส่วนตัว และคุณสามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ เหมาะสำหรับปาร์ตี้ริมทะเลเป็นที่สุด นอกจากนี้ Green Gallery Bed & Breakfast ยังมีอาหารเช้าแสนอร่อยให้บริการทุกวันอีกด้วย

2. อีโค รีสอร์ท เชียงใหม่
   (Eco Resort Chiang Mai)

Eco Resort Chiang Mai ที่พักไซส์มินิ ราคาประหยัด ตั้งอยู่บนถนนบำรุงราษฎร์ ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ ที่นี่ให้บริการห้องพักรูปแบบโฮสเทล ที่ใครๆก็เข้าพักได้ในราคาสบายกระเป๋า และได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ใหม่ๆกับผู้เข้าพักท่านอื่น

Eco Resort Chiang Mai แห่งนี้ แวดล้อมไปด้วยสวนอันร่มรื่น ภายในห้องพักตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลเข้ม เข้ากันกับสีเขียวของต้นไม้ที่อยู่รอบๆ สำหรับนักเดินทางที่มากันหลายคน เลือกห้องพักได้ทั้งแบบ Eco Room Bunk Bed, Eco Room Twin Bed, Superior Room (ห้องน้ำส่วนตัว), Superior Room (ห้องน้ำส่วนตัว) และ Deluxe Room (ห้องน้ำส่วนตัว) โดยทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศ และ Wi-Fi บริการตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมี ร้าน บาร์นเฮ้าส์ ที่มีอาหาร พร้อมเครื่องดื่มให้บริการในทุกมื้อ…ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อนแบบเดิมๆ แนะนำที่นี่เลย

3. เกลอ โฮสเทล(Glur Hostel)

Glur Hostel อีกหนึ่งที่พักราคาประหยัด บนหาดอ่าวนาง จ.กระบี่ เกลอโฮสเทลเป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ซึ่งรายล้อมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม การตกแต่งเน้นความเรียบง่ายและอบอุ่นเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนพักอยู่ที่บ้าน ห้องพักทุกแบบ ประกอบด้วยเตียง 2 ชั้น โทรทัศน์ เครื่องเล่นดีวีดี และล็อกเกอร์ส่วนตัว มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ 2 Glur Shared Bath (ห้องน้ำรวม แยกชาย-หญิง) และ 2 Glur Ensuite (ห้องน้ำส่วนตัว)

พื้นที่ส่วนกลางเป็นแบบเปิดโล่ง สามารถนั่งดูหนังฟังเพลง หรือทำอาหารกินเองแบบง่ายๆได้ที่ห้องครัวขนาดเล็ก ส่วนด้านนอกยังมีสวนหย่อมให้นั่งเล่นสูดอากาศสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน…ใครที่มีงบประมาณจำกัด และต้องการมากกว่าแค่ที่หลับนอน Glur Hostel คือที่พักในฝันสำหรับคุณ

4. ฟอเรสต้า รีสอร์ท ปราณบุรี
   (Foresta Resort Pranburi)

Foresta Resort Pranburi เป็นรีสอร์ทแนวโมเดิร์นแห่งใหม่บนหาดปราณบุรี ที่ตกแต่งห้องพักสไตล์ Hip & Cozy เก๋ไก๋ในบรรยากาศร่มรื่น ห้องพักมีให้เลือกทั้งหมด 6 สไตล์ การออกแบบเน้นความรู้สึกอบอุ่นและสะดวกสบาย มีเตียงขนาดคิงไซส์ และมินิบาร์ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพัก ห้องพักแบ่งเป็น 6 แบบ ได้แก่ Superior Room, Studio Room, Poolside Room, Family Room และ Honeymoon Sweet Room นอกจากนี้คอกาแฟจะได้ลิ้มรสชาติอันกลมกล่อมของกาแฟพันธุ์ดี ที่เสิร์ฟร้อนๆริมชายหาด ณ Coffee Beach Bar และที่พิเศษสุดในยามค่ำคืน คอฟฟี่บาร์แห่งนี้จะกลายเป็นบาร์ค็อกเทลสีสันสดใส พร้อมดนตรีสบายๆขับกล่อมริมทะเล

Foresta Resort Pranburi ยังมีกิจกรรมสนุกๆรอคุณอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผจญภัยไปกับการขับรถ ATV, มอเตอร์ไบค์, จักรยานวิบาก, รถ Buggy, กิจกรรมพายเรือคายัค, นั่งเรือชมวิว, กิจกรรมตกปลา-ตกหมึก, บานาน่า โบ๊ท, เจ็ทสกี และขี่ม้า…ได้ทั้งที่พักบรรยากาศดี แถมมีกิจกรรมให้เล่นสนุกเยอะขนาดนี้คุ้มสุดๆไปเลย

5. อิมม์ โฮเทล ท่าแพ เชียงใหม่
   (Imm Hotel Thaphae Chiang Mai)

Imm Hotel Thaphae Chiang Mai โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งอยู่หน้าลานเอนกประสงค์ประตูท่าแพ ใจกลางความเจริญที่ควบคู่ไปกับอารยธรรมเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ที่นี่มีห้องพักมากถึง 106 ห้อง มีห้องให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ Superior Room, Duluxe Room (พร้อมมินิบาร์),Triple Room และ Family Room ที่มีเตียงเดี่ยว 2 เตียง และเตียงสองชั้น 1 เตียง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆครบครัน

และด้วยที่ตั้งติดถนนใหญ่ คุณจึงสามารถเดินเล่นที่ถนนคนเดินท่าแพ หรือ ตลาดนัดวันอาทิตย์ รวมถึงวัดวาอารามที่มีชื่อเสียงอย่าง วัดเจดีย์หลวง และวัดพระสิงห์ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถโดยสารหน้าโรงแรม (ค่าโดยสารเพียง 20 บาท) เพื่อไปยัง กาดหลวง, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และห้างเซ็นทรัล กาดสวนแก้ว ได้อีกด้วย…ไปไหนมาไหนง่ายขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่ Imm Hotel Thaphae Chiang Mai จะเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย

6. โบนันซ่า เขาใหญ่ รีสอร์ท
   (The Bonanza Khao Yai Resort)

หากจุดหมายในทริปนี้คือ เขาใหญ่ The Bonanza Khao Yai Resort จะเหมาะสำหรับก๊วนเที่ยวของคุณไม่น้อย ด้วยทำเลที่ตั้งในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงมอบความรู้สึกสงบและกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบ ให้คุณสัมผัสกับทัศนียภาพขุนเขา และความเขียวขจีของแมกไม้นานาพันธุ์ จากที่นี่คุณสามารถเดินทางไปยังทุกที่ในเมืองได้สะดวกสบาย ห้องพักและบังกะโลทั้งหมด 158 ห้อง ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกสงบและปลอดโปร่งแก่ผู้เข้าพัก

นอกจากนี้ยังมีห้องอาหาร ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูแสนอร่อยตลอดทั้งวัน รวมถึงมีกิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลินทั้ง การขี่ม้า, การขี่จักรยานเสือภูเขาชมธรรมชาติ,  กีฬากอล์ฟ, การพายเรือแคนู และกีฬาทางน้ำอื่นๆ…หลบความวุ่นวาย แล้วมาเที่ยวพักผ่อนที่ The Bonanza Khao Yai Resort  สักครั้ง รับรองว่าจะทำให้ทริปของคุณเป็นวันหยุดที่น่าประทับใจแน่นอน

7. ไอสไตล์ หัวหิน (I Style Hua Hin Hotel)

ทันสมัยไม่ซ้ำใครกับโรงแรม I Style Hua Hin Hotel บูติกโฮเทลสุดฮิปในหัวหิน เป็นตัวเองอย่างโดดเด่นด้วยห้องพัก 5 ชั้น 5 สไตล์ ประกอบด้วย i-spoil ห้องพักสไตล์เรียบหรู สัมผัสธรรมชาติ, i-smooth เน้นอารมณ์สบายๆด้วยโทนสีฟ้าและสีเขียวน้ำทะเล, i-sweet เหมาะสำหรับคู่รัก ด้วยโทนสีชมพูหวานแหวว

ส่วนก๊วนเพื่อนและครอบครัว ต้อง i-connect และ i-max ห้องพักขนาดใหญ่ สำหรับผู้เข้าพัก 4-6 ท่าน ที่เน้นสีสันสดใสให้อารมณ์สนุกสนาน เหมาะแก่การปาร์ตี้สุดๆ และ i-sky มุมสุดฮิปแอนด์ชิคของร้านอาหารสไตล์บาร์บีคิวบนชั้นดาดฟ้า ยังมองเห็นวิวสวนสาธารณะ 19 ไร่ และทะเลหัวหินในมุมมองแบบ 360 องศา อีกด้วย…วัยรุ่นที่ชอบความสนุกและสีสันสดใส จัดเลย

8. บ้านกางมุ้ง หัวหิน
   (Baan Kang Mung Hua Hin)

หากมาหัวหิน แล้วไม่พูดถึง บ้านกางมุ้ง (Baan Kang Mung) เห็นทีจะไม่ได้ซะแล้ว…บ้านกางมุ้ง ที่พักสีขาวสะอาดตา สไตล์โคโลเนียลร่วมสมัย ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเขาตะเกียบ ริมหาดหัวหิน ไม่ซ้ำใครด้วยการนำมุ้งสีขาวมาประดับภายในห้องนอน กลมกลืนกับบรรยากาศทะเลที่ใสสงบ ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งเมื่อได้มาพักผ่อน

ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนเรือนไม้หลังใหญ่ 2 ชั้น มีระเบียงชมวิวหน้าห้อง พร้อมทางเดินลงสู่ทะเลที่ห่างเพียง 40 เมตร และโซนติดหาด หรือ บ้านกางมุ้ง ออน เดอะบีช (Baan Kang Mung On The Beach) ที่คุณจะได้ชมวิวชายหาดหัวหินตลอดทั้งวัน สำหรับใครที่มาเที่ยวเป็นก๊วนแนะนำห้องแบบ Two Bed Room เป็น 2 ห้องนอน และมีระเบียงติดกับชายหาด สามารถพักได้ 4 ท่าน สวยอย่าบอกใครเลยล่ะ

9. ชมวิว (Chom View Hotel)

โรงแรมชมวิว (Chom View Hotel) ที่พักริมทะเลบรรยากาศดี บนหาดตะเกียบ ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกสงบเย็นสบาย ตัวโรงแรมเป็นตึกทรงเตี้ย สูงเพียงไม่กี่ชั้น แต่จัดแบ่งห้องพักได้อย่างลงตัว ภายในตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มีให้เลือกทั้งแบบห้องพักคู่ ไปจนถึงห้องพักขนาดใหญ่สำหรับพักหลายท่าน อย่าง ห้อง Studio Delight รูปแบบทันสมัย ที่มีเตียงควีนไซส์ 2 เตียง พร้อมระเบียงชมวิว, ห้อง Family Duplex สำหรับ 4 ท่าน ภายในมี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และพื้นที่เอนกประสงค์ปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้เข้าพัก

หรือจะเป็น ห้อง Ocean View Duplex สำหรับ 4 ท่าน ที่มี 2 ห้องนอน และ 1 ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ พิเศษด้วยระเบียงที่มองเห็นวิวทะเลในมุมกว้าง บริเวณสวนด้านนอก เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้สีสันสดใสเรียงรายตลอดทางเดิน และมีร้านอาหารริมทะเลอย่าง The Giardino Pizzeria by the Sea,  ห้องอาหารเพลินวิว และ Pool Bar ให้ปลดปล่อยอารมร์จิบเครื่องดื่มเย็นๆในสระว่ายน้ำได้อีกด้วย โรงแรมยังอยู่ใกล้ตัวเมืองหัวหินเพียง 5 นาที เรียกว่าได้กิน เที่ยว ดื่ม ครบสูตรจริงๆ

10. เมืองทองธานี รีสอร์ท โคราช
    (Muangthong Thani Resort Korat)

รีสอร์ทน้องใหม่ในโคราชที่ห้ามพลาด… เมืองทองธานี รีสอร์ท โคราช (Muangthong Thani Resort Korat) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง วัดปราสาทพนมวรรณ ได้อย่างง่ายดาย ในรีสอร์ทมีห้องพักดีไซน์แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครกว่า 72 ห้อง รายล้อมด้วยสวนสวยเขียวขจี และสระว่ายน้ำหลายขนาดให้ผู้เข้าพักเพลินเพลินได้ตลอดทั้งวัน

นอกจากอาคารที่พักหน้าตาเก๋ไก๋แล้ว ทางรีสอร์ทยังมีจักรยานให้เช่า บริการฟรี Wi-Fi ทุกห้องพัก รวมถึงกิจกรรมและพื้นที่นันทนาการสุดพิเศษอีกมากมาย เช่น โต๊ะปิงปอง, สนามเด็กเล่น, สระว่ายน้ำ และห้องคาราโอเกะ ไม่ว่าจะไปนครราชสีมาเมื่อไหร่ เมืองทองธานี รีสอร์ท จะเป็นที่พักแสนสบายสำหรับคุณ

เรียบเรียง : Travel.MThai

ร้านอาหาร “อันหยังก็ได้ by เป็นลาว” ตั้งอยู่ริมถนนธนะรัชต์ ก่อนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นร้านอาหารสไตล์ ‘โคซี่ อีสาน’ cozy i-san ที่ขอนำเสนออาหารอีสานซึ่งทั้งรสชาติและบรรยากาศร้าน สามารถสร้างทั้งความอร่อย ความสนุกสนาน ความแซ่บ และความสดชื่นให้กับทุกคนที่เข้ามาในร้าน ซึ่งความสนุกนี้นี้เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่าทุกมื้ออาหารคือมื้อของความสุข การสังสรรค์ และรอยยิ้ม

ร้านอาหาร “อันหยังก็ได้” มีแนวคิดต่อยอดมาจาก “เป็นลาว” ซึ่งเป็นร้านที่มีลักษณะเป็น “Community Restaurant” หรือ ” ร้านอาหารแห่งชุมชน” ตามแนวความคิดของ “มูฮัมหมัด ยูนุส” ผู้ก่อตั้ง “ธนาคารเพื่อคนจน” แห่งแรกขึ้นในโลก ที่ทำงานบนพื้นฐานของความจริงใจ และการแบ่งปันเพื่อสังคม โดยไม่หวังแต่ผลกำไรสูงสุด ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน มุ่งหวังให้สังคมมีความสมดุลและสงบสุขอย่างแท้จริง จึงเป็นร้านอาหารที่เกิดขึ้นด้วยแนวความคิดของการทำธุรกิจที่มุ่งแบ่งปันเพื่อสังคม ทำงานร่วมกับท้องถิ่นโดยส่วนใหญ่ ประกอบไปด้วยกลุ่มคนทั้ง 3 วัย ได้แก่ ผู้สูงวัยที่มีประสบการณ์ คนวัยทำงานที่พร้อมลงแรง และเยาวชนที่พร้อมจะเรียนรู้ ทำงานร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ และผลผลิตต่าง ๆ จากชุมชนใกล้เคียงที่ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญของร้าน เพื่อให้ชุมชนและชาวบ้านได้มีส่วนร่วมกับร้านอาหารแห่งนี้อย่างแท้จริง ทำให้เกิดโครงการ พนักงานอาสาสมัคร ที่จะมาผลัดเปลี่ยน หมุนเวียน กันให้บริการกันอย่างเป็นกันเอง

ในขณะที่ “ร้านเป็นลาว” เป็นร้านอาหารอีสาน ขนาดประมาณ 400 ที่นั่ง เปิดบริการ ช่วงสายถึงเย็น การต่อยอดสู่ “อันหยังก็ได้” บนแนวคิดเดียวกัน แต่เปลี่ยนลักษณะร้านเป็นร้านขนาดเล็ก คล้ายกับห้องนั่งเล่นของบ้าน โดยเปิดเป็น 2 เวลาของสองมื้ออาหาร คือเช้ากับเย็น

ทุกเช้าตั้งแต่ 7.00 น.-10.00 น. ชวนมาอุ่นท้องกับอาหารเช้าร้อนๆ อร่อยๆ อย่าง ไข่กระทะ ข้าวต้มกระดูกหมูอ่อน ก๋วยจั๊บน้ำใส และต้มเลือดหมูสูตรเฉพาะ

ทุกเย็นตั้งแต่ 17.00 น.22.00 น. มาอร่อยกับจิ้มจุ่มหมู/เนื้อระดับพรีเมี่ยม ในน้ำซุปต้มยำรสแซ่บและผักสดๆเติมไม่อั้น พร้อมเมนูเด็ดอย่างหมูกรอบ ข้าวผัดปู และยำอันหยังก้อได้ เป็นเมนูเด็ดที่ทุกโต๊ะขอสั่ง ซึ่งทุกวัตถุดิบหลักที่นำมาทำอาหารเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิคส์ ซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านในเขาใหญ่ ที่ทั้งสด สะอาด ปลอดภัย

“อันหยังก็ได้” ร้านจึงเป็นร้านอาหารอีสานแนว ‘โคซี่ อีสาน’ cozy i-san ที่นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังอบอุ่นจากการบริการที่เป็นกันเอง ท่ามกลางบรรยากาศที่มีสไตล์เฉพาะตัวแบบถ่ายรูปมุมไหนก็เก๋ นับเป็นร้านอาหารชิคๆ แห่งใหม่ของเขาใหญ่ที่อยากให้มาลองกัน

เมนูอาหารคุณภาพ ปลอดผงชูรส กับ วัตถุดิบที่ทุกอย่างล้วนตรวจสอบที่มาได้ เป็นความตั้งใจของ คุณปริญญา สมบุญยิ่ง และ คุณจินดานันท์ ยุระวิชัย 2 หุ้นส่วนหลักของร้าน ที่ต้องการให้อาหารทุกจานได้มาตรฐานเดียวกับอาหารที่ทำกินเองในบ้าน จึงใช้น้ำมันรำข้าวในการปรุงอาหารทุกจาน

มุม Self – Service เกิดจากความต้องการให้ร้านเป็นเหมือนบ้านที่ใครก็เดินมาหยิบผัก หยิบเครื่องปรุงเองก็ได้เพื่อให้เกิดความเป็นกันเอง ได้เยี่ยมชมพื้นที่ของร้านในมุมต่างๆ นอกจากนี้ ยามเช้ามุมนี้ยังมีขนมปังและน้ำชาฟรี หยิบได้ไม่อั้น ไว้ให้ลูกค้าได้มาปิ้งขนมปัง เลือกชาที่เจ้าของร้านสะสมมาจากการเดินทางไปทั่วโลกอีกด้วย

ช่วงนี้เชฟไอซ์ ภานุพงษ์ วิจิตรานนท์ มาเป็นเชฟอาสาที่นี่ เมนูอร่อยเด็ดของเชฟคือ กะเพราหมูสามชั้น ที่อร่อยเด็ดจนลูกค้าติดใจ

ก๋วยจั๊บน้ำใส ความอร่อยอยู่ที่น้ำซุป … อย่าซดนะ เดี๋ยวต้องไปกินถึงเขาใหญ่

หมูกรอบคือเด็ด!!!! ถึงเมนูนี้จะไม่คลีนจ๋า แต่ทอดด้วยน้ำมันรำข้าวนะยู กัดแล้วกรอบนอก และ ละเอียดใน นุ่มละมุนลิ้นจนเคลิ้ม ต้องคีบเข้าปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า…เอามาอีกจานเลยล่ะกัน !

จิ้มจุ่มหมู/เนื้อระดับพรีเมี่ยม ในน้ำซุปต้มยำรสแซ่บ น้ำซุปรสนัว ไม่ถึงขั้นเผ็ดจ๋า แต่ก็ไม่เลี่ยน จากรสชาติของพริกแห้ง ช่วยให้แซ่บแบบไม่ซี้ดจนเกินไป เอาเป็นว่าต้องลองเอง เพราะ ในฐานะคอจิ้มจุ่มแล้ว บอกได้เลยว่า รสชาติซุปมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนที่ใดในโลกหล้าอย่างแน่นอน

ยำอันหยังก็ได้ ….แซ่บ สดชื่น

ผักสดออแกนิคส์จากชุมชน หยิบได้ไม่อั้นจ้า

ข้าวผัดปูอันเลื่องลือ

ข้าวต้มกระดูกหมู สำหรับมื้อเช้า ….อร่อยอิ่มท้อง

ไข่กระทะ กันไหมคุณ

ลานหน้าร้านตอนกลางคืนเหมาะแก่การกินจิ้มจุ่ม จิบไวน์ ชมดาว เป็นอย่างยิ่ง

ในวันที่ลูกค้าแน่นร้าน อาจต้องรอนานนิดสักนิดนะคะ เนื่องจากอาหารทุกจานจะปรุงทีละจานเท่านั้น ขึ้นเขาใหญ่ครั้งหน้า อย่าลืมไปแวะ พิสูจน์ความอร่อยที่ร้านอันหยังก็ได้กันนะคะ

เรียบเรียงโดย: Food MThai

“เชียงใหม่” ได้ยินชื่อแล้วนึกถึงอะไร…? ธรรมชาติ วัฒนธรรม คนเมือง กำเมืองน่าฮักๆ หรือความชิคๆ คูลๆ แต่สำหรับเราเรานึกถึง “ที่เที่ยว” จริงๆ เชียงใหม่มีที่เที่ยวเยอะมากเลยนะ ทั้งธรรมชาติ วัดที่มีเยอะที่สุดในประเทศไทย เส้นทางปั่นจักรยานรอบคูเมืองที่แสนจะคลาสสิค หรือจะเป็นวิถีคนเมือง วิธีชนเผ่าต่างๆ ไหนจะอาหาร ไหนจะร้านกาแฟชิคๆ ที่พักคูลๆ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยที่เชียงใหม่ต้องมีคือ “งานศิลปะ” ทั้งแบบล้านนาโบราณ หรือศิลปะร่วมสมัยในปัจจุบัน ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน จะนั่งรถแดง ขับมอไซค์ หรือปั่นจักรยาน จะสัมผัสได้เลยว่าเชียงใหม่เป็นเมืองน่ารัก มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เที่ยวเท่าไหร่ก็เที่ยวไม่หมด วันดีคืนดีก็มีที่เที่ยวใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นว่าเล่น คนไทยก็ชอบเที่ยว ฝรั่งก็เยอะ จีนนี่ยิ่งโคตรเยอะ ห้าาาาา

วันนี้เราจะชวนเพื่อนๆ ที่ชอบเก็บกระเป๋าไปเชียงใหม่ ได้รู้จักกับที่ชิคๆ กับที่นี่ “Street Art เชียงใหม่” ที่ไม่ได้มีแค่ปีนัง ถนนเจริญกรุง หรือสงขลา มาเติมให้เต็มทุกประการณ์กันค่ะ ครั้งนี้ขึ้นเหนือบ้างน้อ ถ้าพร้อมแล้วไปพบกับ Street Art เชียงใหม่กันเลย (ทุกภาพถ่ายจากมือถือค่ะ)

“Think Park”

1.โครงการ Think Park

โครงการ Think Park นอกจากจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ช็อปเก๋ๆ และโรงแรมอิสตินของคุณตันแล้ว ถ้าได้เดินเข้าไปตามตรอกซอกซอย เพื่อนๆ จะพบกับงานศิลปะน่ารักๆ ตามผนัง ขอบฟุตบาท บานหน้าต่าง เป็นรูป มานี มานะ ตัวการ์ตูนในหนังสือภาษาไทยชั้นประถมที่เราคุ้นเคย เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของหนังสือเบาๆ เลย ชอบมากๆ และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีได้ดีมากค่ะ ถ่ายรูปเล่นเพลินเลย แต่ทางค่อนข้างแคบ มุมภาพจะได้ไม่กว้างเท่าตาเห็น

พิกัด : Think Park อยู่ตรงสี่แยกรินคำ ถนนห้วยแก้ว ข้างๆ เมญ่าค่ะ https://goo.gl/maps/kGKTCzQNS6H2

“กาดสวนแก้ว”

2.ลานจอดรถ “กาดสวนแก้ว”

กาดสวนแก้วเป็นห้างรุ่นเดอะของเชียงใหม่เลยค่ะ เชื่อว่าทุกคนรู้จักกันดี สังเกตได้จากอิฐที่ใช้ในการสร้างและตกแต่งตัวห้างและโรงแรม เด็กเชียงใหม่ ชอบใช้ที่นี่เป็น Location ถ่ายภาพชิคๆ เพื่อนๆ ที่ผ่านมาแถวนี้ จอดรถไว้แล้ว แวะถ่ายภาพก่อนเข้าห้างได้นะคะ นอกจากผนังอิฐอาร์ทๆ แล้ว ยังมีผนังงานศิลป์อย่าง Street Art ให้เราได้ถ่ายภาพเท่ๆ อีกด้วยค่ะ

พิกัด : https://goo.gl/maps/bktfV2oLqpj

เส้นทางที่ 1 ถ้าเข้าจากด้านหน้า ให้ตรงเข้ามาเกือบสุดทาง เลี้ยวขวาจะพบกับลานจอดรถ และจะเห็น Street Art ตามกำแพงเลยค่ะ

เส้นทางที่ 2 เข้ามาทางโรงเรียนสอนตัดเสื้อกรรไกรทอง ถนนศิริมังคลาจารย์ ซอย 7 สุดซอยเป็นลานจอดรถค่ะ จะเจอ Street Art

“ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 5”

3.ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 5,17 

นิมมาน เป็นย่านชิคๆ คูลๆ ใครมาเชียงใหม่เป็นต้องแวะ มีทั้งที่พัก โรงแรมเก๋ๆ ร้านอาหารอร่อยๆ ร้านกาแฟ คาเฟ่ เบเกอรี่ ร้านเหล้า ยันผับ ประเด็นหนุ่มหล่อสาวสวยเพียบ แต่ที่รู้ๆ อ่านะ ว่าคนในพื้นที่มักจะไม่เที่ยวแถวนี้หรอก อะไรก็แพง ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า ว่าแต่… Srteet Art ที่ว่าอยู่ไหนล่ะ??

พิกัด : ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 5 ตรงข้ามร้านก๋วยจั๊บฟ้าธานี จะมีลานจอดรถอยู่ ตรงนั้นจะมี Street Art รูปเด็กอยู่ค่ะ  https://goo.gl/maps/RK3rTeouKuz

ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17  Srteet Art จะอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมวิคตอเรียนิมมาน ค่ะ
https://goo.gl/maps/Trsb3K7eKCs

“ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17”

“ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17”

ถนนมูลเมือง

4.ถนนมูลเมือง ซอย 6,7 และ ถนนราชวิถี ซอย 1

ถนนหนทางแถวนี้อาร์ตดีนะจ๊ะ ปูพื้นด้วยอิฐตัวหนอนเหมือนที่ถนนคนเดินเลย ฝรั่งเพียบและหล่อมาก ห้าาา อยู่แถวๆ วัดล่ามช้างเลยค่ะ เราไปที่ถนนมูลเมือง ซอย 7 ส่วนมูลเมืองซอย 6 กับราชวิถีซอย 1 ไม่ได้ไปนะ ทั้งๆ ที่มันอยู่ใกล้กัน ตอนนั้นเราหาซอยไม่เจอ ห้าาา กลับบ้านมาเสริจหาใน google map เจ็บแปลบมากกก ยังไงเพื่อนๆ ลองไปเก็บภาพสวยๆ กันดูนะคะ

พิกัด

– ซอย 6 >>  https://goo.gl/maps/ikaBaPgXjc42
– ซอย 7 >>  https://goo.gl/maps/V1ppYogzFkD2
– ถนนราชวิถี ซอย 1 >> https://goo.gl/maps/ZYp67fEMg5C2

“คุกเก่า หรือคุกกลางเวียง”

5.ทัณฑสถานหญิง, คุกเก่า หรือคุกกลางเวียง

ทัณฑสถานหญิง, คุกเก่า หรือคุกกลางเวียง ฟังแล้วดูน่ากลัว ไม่กล้าย่างกลายเข้าไปใกล้ๆ เมื่อก่อนที่นี่เป็นคุกเก่าค่ะ เพิ่งจะย้ายไปแม่ริมเมื่อปี 2556 เองค่ะ เพราะมีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ต้องขังที่เพิ่มขึ้น  แล้วคือตั้งอยู่กลางเมืองไง มันไม่เหมาะ เลยต้องย้าย และมีการทำพิธีสงฆ์ด้วยนะ ตอนนั้นเราอยู่เชียงใหม่ทันได้เข้าไปดูด้วย เกิดมาก็เพิ่งเข้าคุกนี่แหละ สภาพไม่อยากจะบรรยาย แต่หดหู่มาก ความเป็นอยู่ไม่ค่อยดี ทั้งที่นอน ที่กิน ห้องน้ำ พอทำพิธีเสร็จเขาก็ทุบทิ้งค่ะ สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์แทน ตอนนี้รอบๆ กำแพงทัณฑสถานหญิงเก่า ได้ถูกแปลงโฉมให้เป็นสถานที่แสดงงานศิลปะ หรือ Street Art  ยาวมากกก งานดิบ งานดี เรียกได้ว่ารอบรั้วจริงๆ เดินกันให้เหนื่อย ให้เหงื่อแตกกันไปข้างนึงเลย

พิกัด : https://goo.gl/maps/V1daKvcNHFQ2

ภาพสุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆ เดินจนครบ ด้านหน้าถนนฝั่งตรงข้าม จะมีเหมือนร้านอาหาร หรือเกสเฮาส์นี่แหละ เป็นซอยแคบๆ ประตูทำมาจากซากจักรยานโบราณ อย่างจ๊าบบบ เข้าไปแล้วจะเจอสิงห์นักปั่นบนผนังรั้วเพียบเลย มีหลายภาษา ต้อนรับ AEC ด้วย อย่างเท่

และนี่ก็คือ Street Art ที่เราไปตามล่ามาใน 1 วันเท่าที่จะทำได้ ยังมีที่อืนๆ อีกนะ ซึ่งบางที่อาจจะดูน่ากลัว เปลี่ยวๆ ต้องชวนเพื่อนไปกันหลายๆ คน อุ่นใจดี

• ปั๊มน้ำมันร้าง ข้างโรงเรียนดาราวิทยาลัย
• ตึกร้าง ถนนแม่โจ้ ไปทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตึกจะอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงมหาวิทยาลัย
• แถวสะพานเหล็ก
• แถววัดเจ็ดยอด

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : https://www.facebook.com/kepkrapao

เรียบเรียง : Travel.MThai