ลัดเลาะเมืองน่าอยู่ กับ 10 ที่เที่ยวกระบี่ ร้อนนี้ต้องไป

01

“กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” คงจะเป็นคำขวัญจังหวัดที่สั้นและได้ใจความที่สุดในเมืองไทย เมืองที่เต็มไปด้วยหุบเขา ทะเล หมู่เกาะ และน้ำตก อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันหลากหลาย จึงไม่แปลกที่กระบี่ จะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และยิ่งหน้าร้อนแบบนี้ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลก็ยิ่งคึกคัก แต่ที่แน่ๆ กระบี่ ไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้น travel.mthai.com ขอพาท่านลัดเลาะเมืองน่าอยู่ กับ 10 ที่เที่ยวกระบี่ ร้อนนี้ต้องไป รับรองว่าสวยถูกใจทุกที่แน่นอน

  1. สระมรกต อ.คลองท่อม

02

สระมรกต สระน้ำกลางผืนป่าที่ราบต่ำ ที่มีสีเขียวมรกตสมชื่อ โดยมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 25 เมตร ยาว 20 เมตร และมีระดับความลึกราว 1.5-2 เมตร ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพราะคราบตะไคร่เขียวอี๋ หากแต่เป็นแบคทีเรียและสาหร่ายในน้ำซึ่งจะทำให้น้ำมีสีต่างๆ แตกต่างกัน โดยอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียส และนอกจากนั้นสายน้ำแร่ใต้ดินที่มีอยู่บริเวณนี้ยังทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอน จึงทำให้น้ำมีความใสมากอีกด้วย ซึ่งถ้าเราเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นต้นน้ำที่ไหลเป็นสายลงมารวมกันจนกลายเป็น สระมรกต แห่งนี้

  1. น้ำตกร้อนคลองท่อม อ.คลองท่อม

03
ภาพจาก krabi8travel.com

เป็นน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนี้ น้ำจะไม่ร้อนมาก มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมร่มรื่น สายน้ำไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่ บางช่วงมีควันกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนาทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตกเล็ก ๆ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 90 บาท

  1. เกาะรอก


ภาพจาก www.tatcontactcenter.com

เกาะรอก ตั้งอยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งคู่กันเป็นเกาะที่มีหาดทรายที่ยาวเหยียด และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวจนมองเห็นปลาหลากสีสัน เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก

  1. หาดไร่เลย์

05

หาดไร่เลย์ อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา– หมู่เกาะพีพี ได้ชื่อว่าเป็นเกาะพีพีแห่งที่ 2 ของจังหวัดกระบี่ เป็นหาดที่งดงามด้วยหินผาสูงตระหง่าน และถือว่าเป็นแหล่งกีฬาปีนผาที่ลือชื่อ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความสนใจอยากมาลองสัมผัสประสบการณ์อันน่าท้าทายนี้ การเดินทางไปเที่ยวไร่เลย์ สามารถนั่งเรือได้ที่ท่าเรือหางยาวที่สะพานเจ้าฟ้า ตัวเมืองกระบี่ ค่าโดยสารประมาณ 100 บาท หรือที่ อ่าวนาง และอ่าวน้ำเมา ค่าเรือโดยสารประมาณ 50 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10-15 นาที

  1. วัดถ้ำเสือ อ.เมือง

06
ภาพจาก pantip.com/topic/32524874

วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวต่างประเทศ ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ “หลวงพ่อจำเนียร” ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน และยังเป็นที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานที่น่าสนใจอีกด้วย สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน “วัดถ้ำเสือ นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

  1. อ่าวมาหยา

07

อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ อ่าวมาหยาเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน อ่าวมาหยา นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของทะเลกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาพักผ่อนทิ้งตัวทิ้งใจลงบนหาดทรายขาวละเอียดที่เค้าว่ากันว่าละมุนเหมือนผงแป้ง นอนแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแวดล้อมซึ่งปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ชายทะเล จึงไม่แปลกใจเลยที่ต่างชาติจะยกให้ “อ่าวมาหยา” เป็นทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก

  1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

08
ภาพจาก www.painaidii.com

เป็นหมู่เกาะที่ประกอบไปด้วยอ่าวและหาดทรายที่สวยงามมากมายหลายที่ด้วยกัน อ. เกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะสามเกาะเรียงตัวจากเหนือ-ใต้ อันได้แก่ เกาะลันตาน้อย เกาะกลาง และเกาะลันตาใหญ่ และเกาะเล็กๆ อีก มากมายราว 49 เกาะ มีจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงามคือ “หินม่วง หินแดง” บริเวณนี้จะได้พบกับ ภูเขาใต้น้ำจำนวน 2 ลูก โดย “ยอดหินม่วง” จะจมอยู่ใต้น้ำ และ “ยอดหินแดง” จะปรากฎปริ่มๆน้ำ ที่นี่จัดเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับความสวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่ อย่าง วาฬ, ฉลามวาฬ และแมนต้าเรย์ รวมถึงกระเบนราหู กระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

  1. ถ้ำผีหัวโต อ.อ่าวลึก

09
ภาพจาก www.nokjibjib.com

ถ้ำผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลก อยู่ห่างจากอุทยานธารโบกขรณี ประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากถ้ำลอดประมาณ 500 เมตร ที่มีชื่อว่า ถ้ำหัวกะโหลก เนื่องจากแต่เดิมภายในถ้ำเคยมีหัวกะโหลกมนุษย์ ที่มีขนาดโตกว่าปกติ นอกจากนี้ บนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ ฯลฯ สามารถพายเรือแคนูชมทิวทัศน์ป่าชายเลนที่สงบร่มรื่นได้ ค่าเช่าเรือแคนู 1,200 บาทต่อคน รวมอาหารกลางวัน โดยสามารถเช่าเรือได้จากบริเวณท่าเรือบ่อท่อ

  1. ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ อ.เมือง

10
ภาพจาก www.painaidii.com

ป่าพรุท่าปอมเป็นป่าที่มีแหล่งน้ำสวยงามหลายแห่ง มีต้นกำเนิดจากแอ่งน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำจืดใสสะอาดจนมองเห็นพื้นน้ำและรากไม้ป่าหลุมพี ไหลเอื่อย มาบรรจบกับป่าโกงกางสู่ทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม จึงได้ชื่อว่าคลองสองน้ำ ภายในมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทำด้วยไม้ระแนง บางช่วงมีเก้าอี้ไม้  ให้นักนิยมไพรผู้รักธรรมชาติได้นั่งพักชมทัศนียภาพสองข้างทาง บางส่วนอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้ ถึงแม้บริเวณที่เิปิดให้นักท่องเที่ยวที่วไปได้ลงเล่นน้ำจะไม่กว้างนัก แต่ก็มีปบลาสองน้ำที่หาดูในที่อื่นๆ ได้ไใม่ง่ายนัก อย่างเช่น ปลาตะกรับเสือดาว ปลาอมไข่น้ำจืด และปลาปักเป้าเขียว เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ค่าธรรมเนียมสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท

  1. เกาะปอดะ อ.เขาพนม

11
ภาพจาก www.kmpweb.com

เกาะปอดะเป็นหนึ่งในหมู่เกาะปอดะ อันประกอบด้วยเกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เป็น 4 เกาะเด่น ที่สามารถรวมเป็นโปรแกรมเที่ยวภายในหนึ่งวันได้ นับเป็นรายการท่องเที่ยวยอดนิยมของทะเลกระบี่ เพราะเดินทางสะดวกและค่าใช้จ่ายไม่มาก หากเลือกพักที่อ่าวนางจะสามารถเหมาเรือหางยาวหรือเรือหัวโทงมาเที่ยวชมหาดทรายสวยๆ ของเกาะเหล่านี้ได้ โดยเกาะปอดะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีหาดทรายขาวยาวกว่ากิโลเมตรทางด้านทิศตะวันออกของเกาะ บรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสน น้ำทะเลใสจนเห็นทรายสีขาวอยู่ใต้น้ำ เกาะปอดะยังเป็นสวรรค์ของนักอาบแดด บริเวณทิศเหนือและทิศตะวันออกก็มีแนวปะการังให้ดำน้ำชมได้ดี นอกจากนี้บริเวณชายหาดยังมีกิจกรรมทางทะเลเช่น พายเรือคายัค คอยให้บริการ หรือจะเล่นน้ำอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

 

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org , painaidii.com , sadoodta.com , oceansmile.com
เรียบเรียง : Travel.MThai

10 สถานที่ เที่ยวตามรอยซีรีส์ Game of Thrones

01

เกาะกระแสมาแรงของเกมออฟทรอน เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner พาลัดฟ้าไปตามรอยซีรี่ย์ดังระดับโลกที่คนติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองและทั่วโลก Game of Thrones ซึ่งมีโลเกชั่นหลักที่ เกาะไอร์แลนด์เหนือ (North Island) และ เบลฟัสต์ (Belfast) นอกจากเรื่องราวของซีรี่ย์เกมออฟโทรนจะเข้มข้น หักมุม โดนใจชาวโลกแล้ว สถานที่ถ่ายทำทุกแห่งก็กลายมาเป็นเดสติเนชั่นสถานที่ท่องเที่ยวที่แฟนละครอยากจะไปพิสูจน์ความงามและความอลังการว่าของจริงนั้นจะสวยงามมากหรือน้อยกว่าในจอขนาดไหน

  1. สวนป่าทอลลี่มอร์ (Tolly More Forest Park)
    เมืองไบรอันสฟอร์ด (Bryansford)

02

สถานที่ถ่ายทำป่าหลอกวิญญาณหลอน (The Haunted Forest) ผืนป่าธรรมชาติที่ใหญ่กว่า 600 เฮคเตอร์ในเขตภูเขามอร์น (Mourne Mountain) มีธรรมชาติสวยงามและเส้นทางเดินชมธรรมชาติหลายเส้นที่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนชื่อในละคร เส้นทางเดินยอดนิยม คือ ทางลัดเลาะริมแม่น้ำชิมนา (Shimna River) ทางเดินผ่านซุ้มประตู กำแพง และถ้ำที่ได้รับการออกแบบให้เหมือนเดินผ่านเข้าสู่โลกยุคอัศวิน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าสวนแห่งนี้จะถูกลิสต์เป็นฉากสำคัญฉากหนึ่ง

  1. ซากปรักหักพังของสำนักสงฆ์อินช์ (Inch Abbey)
    เมืองดาวน์แพทริค (Downpatrick) 

03

ซากปรักหักพังของสำนักสงฆ์โบราณยุคศตวรรษที่ 12 ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคอยล์ (Quoile River) มีร่องรอยของการออกแบบสไตล์โกธิค สำนักสงฆ์แห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากที่ร็อบบ์ สตาร์ค (Robb Stark) ตั้งแคมป์และประกาศอำนาจเป็นกษัตริย์แห่งทิศเหนือ (The King of North) นอกจากนั้นในบริเวณแม่น้ำคอยล์ก็ยังใช้เป็นฉากที่ถ่ายงานศพของฮอสเตอร์ทัลลี่ (Hoster Tully) อีกด้วย

  1. ปราสาทวอร์ด (Castle Ward)
    เมืองดาวน์แพทริค (Downpatrick) 

04

สถานที่ถ่ายทำปราสาทแห่งอาณาจักรวินเทอร์เฟล (Winterfell) อาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ สร้างขึ้นมาในยุคศตวรรษที่ 18 มีจุดชมวิวสวยงามที่สามารถมองเห็นทะเลสาบสแตรนจ์ฟอร์ด (Strangford Lough) และยังล้อมรอบไปด้วยสวนสวยกว่า 332 เฮคเตอร์ และป้อมหอคอยเก่า ปราสาทแห่งนี้เปิดให้เข้าชมได้ ภายในมีส่วนของห้องฉายภาพยนตร์ ร้านค้า และร้านอาหารไว้คอยให้บริการผู้มาเยือน

  1. เดอะดาร์คเฮดจ์ (The Dark Hedges)
    เมืองบัลลี่มันนี่ (Ballymoney)

05

ถนนสายต้นบีช (Beech Tree) อันสวยงามที่เป็นฉากถ่ายทำถนนของกษัตริย์ (King’s Road) ต้นบีชเหล่านี้ได้รับการปลูกและจัดแต่งให้เป็นซุ้มโค้งสองข้างถนนโดยครอบครัวสจ๊วต (Stuart Family) ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ไม่น่าแปลกใจเลยว่าซุ้มกิ่งต้นบีชที่โค้งสวยงามอายุหลายร้อยปีจะสร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็นจนได้มาเป็นฉากในละครดัง ที่สำคัญทริปขับรถชมวิวลอดซุ้มกิ่งบีชที่ถนนเส้นนี้ก็นับว่าฮ็อตฮิตมาแต่ไหนแต่ไร และเป็นแลนด์มาร์คอันดับต้นๆ ของไอร์แลนด์เหนือด้วย

  1. ถ้ำคุชเช็นดัน (Cushendun Caves)
    เมืองคุชเช็นดัน (Cushendun)

06

ถ้ำริมทะเลในหมู่บ้านคุชเช็นดัน ที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำสถานที่เกิดของทารกแห่งเงา (Shadow Baby) และฉากที่ดาวอส ซีเวิร์ธ (Davos Seaworth) กับเลดี้เมลิซานเดร (Lady Melisandre) ขึ้นฝั่ง ถ้ำแห่งนี้มีอายุทางธรณีวิทยากว่า 400 ล้านปี รู้จักกันในชื่อท้องถิ่นว่าถ้ำแดง (Red Cave) ในบริเวณรอบๆ เป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก และเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนยุคเก่ามากมาย เช่น คฤหาสน์เกลนมอนา (Glenmona House) โบสถ์เก่าแห่งคุชเช็นดัน (Cushenden Old Church) และซากปราสาทคารา (Castle Cara)

  1. บัลลี่คาสเซิล (Ballycastle)

07

เมืองชายฝั่งขนาดเล็กทางตะวันออกเฉียงเหนือของไอร์แลนด์ ถึงแม้เมืองนี้จะไม่มีที่เที่ยวมากมาย แต่ก็เป็นจุดชมวิวริมทะเลแบบชิลๆ เป็นเมืองทางผ่านที่ไม่ควรขับผ่านเลย เพราะชายฝั่งเมืองนี้สวย แถมร้านค้า ร้านอาหารริมท่าเรือที่นี่ก็น่านั่ง เรียกว่าเป็นจุดแวะพักนักเดินทางของเส้นทางตามรอยเรื่องนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

  1. บัลลินทอย (Ballintoy)

08

หมู่บ้านชาวประมงและเมืองชายฝั่งอีกเมืองที่เป็นโลเกชั่นของเมืองลอร์ดสพอร์ต (Lordsport) บัลลินทอยมีเขตเวิ้งอ่าวที่มีความสวยงาม เป็นจุดถ่ายรูปแบบพาโนรามายอดนิยม หากยังนึกไม่ออกว่าฉากไหนหนอ ขอเฉลยว่าเป็นที่ธีออน (Theon) เดินทางกลับสู่เกาะเหล็ก (Iron Island) และไม่ต้องห่วงด้วยว่าคุณจะหลงทาง เพราะเมื่อเข้าเขตหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว คุณจะเห็นป้ายจุดท่องเที่ยวที่มีตัวละครเรื่องนี้ตั้งอยู่อย่างเด่นชัด ไม่หลงชัวร์!

  1. ชายหาดดาวน์ฮิลล์ (Downhill Strand)
    เมืองโคเลอแรน (Coleraine)

09

ใกล้กับสนามบินเมืองเดอรี่ (Derry) และสนามบินเบลฟัสต์ หนึ่งในชายหาดที่มีความยาวมากที่สุดของไอร์แลนด์เหนือ หาดแห่งนี้มีความยาวกว่า 7 ไมล์ และเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านโบราณดาวน์ฮิลล์ (Downhill Village) ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ราวปีค.ศ. 1776 ซึ่ง ณ หมู่บ้านแห่งนี้ก็มีซากคฤหาสน์โบราณบนเนินเขา (Downhill House) ให้ได้ไปชมและถ่ายรูปวิวสวยๆ นอกจากนั้นที่ยังมีซากวัดโบราณมุสเซนเด็น (Mussenden Temple) ที่ในอดีตถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นห้องสมุด วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเล ซึ่งบริเวณโดยรอบที่นี่ใช้เป็นฉากของหินมังกร-ดราก้อนสโตน (Dragonstone)

  1. ปราสาทดันลูซ (Dunluce Castle)
    เมืองบุชมิลส์ (Bushmills)

10

ซากปราสาทโบราณยุคเมดิอิวัลที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินบะซอลต์ริมน้ำ การเข้าไปยังตัวปราสาทนั้นมีสะพานเชื่อมต่อตัวปราสาทกับแผ่นดินใหญ่ ในปัจจุบันเป็นจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่จะมีไกด์พาเที่ยวชมปราสาทด้านใน ปราสาทแห่งนี้เป็นฉากของอาณาจักรเวสเทรอส (Kingdom of Westeros)

  1. ไจแอนท์คอสเวย์ (Giant Causeway)
    เมืองบุชมิลส์ (Bushmills) 

11

แนวหินภูเขาไฟริมทะเลที่ยาวกว่า 4.8 กิโลเมตร เป็นเขตมรดกโลก หินภูเขาไฟหรือหินบะซอลต์เหล่านี้ถูกลมและน้ำกัดกร่อนจนเกิดเป็นรูปร่างคล้ายก้อนอิฐสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ตั้งซ้อนกันเป็นทางเดินลัดเลาะและยื่นเข้าไปในทะเล สามารถเดินบนก้อนหินเหล่านี้ได้ เป็นจุดชมวิวสวยงามและเป็นมหัศจรรย์ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นหนึ่งในฉากถ่ายทำที่อลังการของซีรี่ย์ดังเรื่องนี้ที่ห้ามพลาดการไปชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง

เนื่องจากมีโลเกชั่นถ่ายทำกันหลายที่และหลายแห่งสามารถเดินทางไปเส้นทางเดียวกันได้ ควรจะวางแผนไปเที่ยวเป็นวันละเส้นทาง โดยให้โลเกชั่นของแต่ละวันอยู่ในเส้นทางเดียวกัน ขอแนะนำให้เดินทางไปลงที่เบลฟัสต์จะง่ายที่สุดและสะดวกมาก เพราะโลเกชั่นถ่ายทำจะอยู่รอบๆ และไม่ไกลมากที่เดินทางไป-มา และในบางโลเกชั่นควรติดต่อไกด์ท้องถิ่นเพื่อนำทางเข้าไป เพราะจะได้ข้อมูลสถานที่ดีๆ และจุดถ่ายรูปเจ๋งๆ ที่คนต่างถิ่นอย่างเราอาจไม่รู้

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : https://www.skyscanner.co.th/
เรียบเรียง : Travel.MThai