ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=-WGx_BO1j5c

“สาธารณรัฐปาเลา” (Republic of Palau) เป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ไปประมาณ 500 กิโลเมตร โดยมี เมืองเมเลเคอ็อก (Melekeok) เป็นเมืองหลวงของประเทศ และมีเมืองคอรอร์ (Koror) เป็นอีกเมืองใหญ่ และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศมาก่อน

เมืองเมเลเคอ็อก เมืองหลวงที่เป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวในปาเลา โดยตัวเมืองหลวงนั้นตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะบาเบลดาอ็อบ (Babeldaob Island) เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศปาเลา

สำหรับการท่องเที่ยวในปาเลานั้น ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการท่องเที่ยวทางทะเล กิจกรรมหลักๆ ก็มักจะเป็นการดำน้ำชมปะการัง เนื่องจากว่าที่นี่มีแนวปะการังสวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบัน ปาเลา ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคู่รัก ที่จะจัดการแต่งงาน หรือกำลังหาสถานที่ฮันนีมูนอันแสนโรแมนติกอีกด้วย

สิ่งแรกที่คุณจะต้องทราบ คือ การเดินทางท่องเที่ยวในปาเลานั้น สามารถเที่ยวได้ทั้งทางอากาศ หรือการขนส่งทางบก และทางทะเล โดยฤดูกาลท่องเที่ยวของปาเลา เริ่มในช่วงต้นเดือนตุลาคม ไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น

เมื่อมาถึงปาเลาแล้ว แน่นอนว่าสิ่งแรกที่คุณจะได้สัมผัสความเป็นประเทศหมู่เกาะแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก ก็ต้องเป็นการดำน้ำชมปะการังที่ หมู่เกาะร็อค (Rock Islands) เพราะ ปาเลา มีชื่อเสียงมากในเรื่องการการดำน้ำแบบสกูบ้าไดฟ์วิ่ง (Scuba diving) กิจกรรมนี้นักท่องเที่ยวจะได้ดำลงสู่ใต้น้ำชมหมู่ปะการังสีสันสดสใส พร้อมทั้งชมสัตว์โลกใต้น้ำ และหอยกาบยักษ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

นอกจากการชมปะการังแล้วที่ หมู่เกาะร็อค แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก ให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ ตกปลา การพายเรือคายัค หรือจะพักผ่อนบนหาดทรายสีขาวน้ำตาล ที่ตัดกันกับน้ำทะเลสีฟ้าครามอันสวยงาม

และที่จะพลาดไม่ได้สำหรับกิจกรรมที่น่าท้าทายอีกอย่าง ก็คือ การไปชมความลึกลับของปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ การไปชมทะเลสาบแมงกะพรุน (Jellyfish Lakes) ตื่นตากับแมงกะพรุนที่มีอยู่จำนวนมากมายเต็มทะเลสาบ

สาธารณรัฐปาเลา ถือว่าเป็นอีหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเล เนื่องจากเป็นประเทศหมู่เกาะที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานชีวิตที่ดี ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น การไปเที่ยวปาเลา จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลสำหรับนักท่องเที่ยวอีกต่อไป…

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : wili / flickr.com / travelwizard.com
เรียบเรียง : Travel.MThai

จุดศูนย์รวมวัยรุ่นใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อย่างสยามสแควร์ ทุกสิ่งที่ใหม่และทันสมัยมารวมกันอยู่ที่นี่ ที่สำคัญคือร้านอาหารและร้านขนมหลากหลายสไตล์ เลือกนำแต่ร้านดีๆ มาให้วัยรุ่นได้ชิมเพียบ  ณ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยาม มีร้านเปิดใหม่ 5 ร้าน ครบทุกรสชาติไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ชาบู ขนมจากญี่ปุ่น เกาหลี และไอศกรีมเย็นสดชื่นมาพร้อมกับชูโรสจากสเปนแท้ๆ จะน่ากินขนาดไหนไปดูกันเลย

มาเริ่มร้านแรกกันก่อน กับร้าน Bon Gousse  (บงกูซ) เบอร์เกอร์ข้าวเกาหลีมาเปิดสาขาแรกในไทยแล้วจ้า

เจ้าของร้านก็เป็นสาวสวยดาราเอกหน้าหวาน บี มาติกา ได้นำบงกูซมาเปิดสาขาในไทยเป็นเจ้าแรก ขอบอกเลยว่าใครที่เป็นติ่งเกาหลีห้ามพลาด ถึงแม้ว่าจะอิมพอร์ตมาไกลจากเกาหลี แต่รสชาติยังคงเหมือนสาขาเกาหลีแบบเป๊ะๆ

เบอร์เกอร์ข้าวเกาหลีมากับไส้ยอดฮิตอย่าง ทูน่า-กิมจิชีส หรือเมนูหมูเจยุก และ เนื้อบูลโกกิ ราคาเริ่มต้นที่ 85 บาท เท่านั้น ชิ้นเดียวก็อิ่มเพราะชิ้นใหญ่มาก เหมือนทานข้าวหนึ่งมื้อเลยทีเดียว ร้านอยู่ขวามือ หน้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยาม จะเจอร้านสีเหลืองๆ มีที่ให้นั่งทานด้วยนะจ๊ะ

ร้านที่ 2 Xugar Handcrafted Churros ชูโรสที่มาไกลจากสเปน ทอดกันสดๆ หน้าร้าน ส่งกลิ่นหอมมาก ชูโรสมีดิปปิ้งซอสให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต สตอเบอร์รี่ คาราเมล และยังมีอีกมากมายให้เลือก มาพร้อมแพคเกจจิ้งที่ถือง่าย เดินกินสะดวก

ให้เข้าอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย เพิ่มเมนูไอศกรีมชูโรสสีสันสดใส มีหลายรสชาติให้เลือก แต่หากเลือกไม่ถูกแนะนำให้เป็นเมนู The Pink Panther ชูโรสแท่งสีแดงกับไอศกรีมหวานน้อยพร้อมโรยสตรอว์เบอร์รีสดกับแยมสตรอว์เบอร์รีกินแล้วชื่นใจแน่นอนค่ะ

ร้านอยู่ตรงข้ามกับร้านบงกูซ เมื่อเห็นป้ายร้านแบบนี้แล้วพุ่งตรงเข้าไปสั่งกันได้เลยค่ะ

ร้านที่ 3 กับร้าน เชย์ชีส มาอยู่ที่มุมญี่ปุ่นกันบ้าง ความเป็นญี่ปุ่นแน่นอนว่าต้องเป็นชีส การกินชีสยืดๆ กลายเป็นเทรนด์มาให่ กินอย่างไรให้ตะมุตะมิต้องกินชีสร้านนี้เลยค่ะ เซย์ชีสร้านนี้เป็นร้านชื่อดังจากฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเหนียวมาก ยืดได้ยาวโดยที่ไม่ขากแต่ก็จะมีความนุ่มเมื่อได้ลองกัด กินคู่กับขนมปัง

ขนมปังที่ประกบกับชีสมี 3 รสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นรสนมฮอกไกโดกับชีสเป็นรสชาติออริจินัล และ รสชาโคลชีส กับช็อกโกแลตชีส

โชว์ความยืดของชีสว่าจะยืดได้สุดๆ แค่ไหน

ร้านเซย์ชีสจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าเซ็นเตอร์พอยท์ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับ ร้านบงกูซและ ชูโรส ซึ่งร้านเปิดใหม่ของหน้าเซ็นเตอร์พอยท์จะมีทั้งหมดสามร้านค่ะ เราจะ move เข้าไปในห้างกันค่ะ ไปต่อกันอีกสองร้านเท่านั้น วันนี้ก็จะเสร็จสิ้นภารกิจ

กดลิฟท์ขึ้นตรงมาที่ชั้น 4 มาเบาๆ ดูแลสุขภาพกันสักหน่อย กับร้าน Natural Rich ใครที่รักความเฮลตี้ต้องมาลอง ร้านนี้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น มีขนม อาหารและเครื่องดื่มสำหรับสายคลีนโดยเฉพาะ

หน้าตาขนมเอาใจสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มกินคลีนที่กลัวไม่อร่อยหรือกลัวกินไม่ถูกวิธีแคลอรี่เกินรึเปล่า แต่สินค้าในร้านนี้จะมีสลาดบอกข้างกล่องว่าทั้งหมดในกล่องนี้มีกี่แคล ได้ทั้งของอร่อยและสุขภาพดีไปพร้อมๆ กัน แถมแพคเกจจิ้งเหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากได้

ถัดมาคือร้าน ต้มตุ๋น Shabu ที่อยู่เยื้องๆ กับ Natural Rich ร้านชาบูที่มาเปิดเป็นสาขาที่ 2 แล้ว สาขาแรกอยู่ที่สามย่าน ซอยจุฬาลงกรณ์ 48 แล้วขยายสาขามาอยู่ที่สยาม

มีทั้งแบบบุฟเฟต์ และ A La Carte หากสั่งแบบบุฟเฟ่ต์คิดหัวละ 359 บาทเท่านั้น เป็นราคานักศึกษา ราคาโดนใจมาก มีเมนูสั่งไม่อั้นทั้งหมดกว่า 30 เมนู หากใครรู้ตัวว่ากินไม่คุ้ม กินน้อยรักษาหุ่นก็สั่งแบบอาลาคาทได้สั่งเท่าไหร่จ่ายเท่านั้นเมนูจะเหมือนกันต่างแค่ตรงอาลาคาทจะมีแบบเป็นชุดคือชุดหมูและเนื้อ

น้ำซุปมี 3 รสชาติให้เลือกไม่ว่าจะเป็นซุปปรองดอง ซุปสุกี้อ่อนโยน และซุปขาวเนียน ส่วนน้ำจิ้มก็มี 3 รสชาติด้วยเช่นกัน จะมี เต้าเจี้ยว พอนซึ และน้ำจิ้มสุกี้ ส่วนตัวแล้วชอบทุกรสชาติของจิ้มเลยค่ะ จิ้มได้ตามใจชอบหรือจะเอามาผสมกันก็ไม่มีใครห้ามค่ะ

แหล่งรวมของดีทุกแบบทุกสไตล์อยู่ที่สยามหมดแล้ว ไม่ต้องไปหลายที่ให้เหนื่อย ของอร่อยเยอะแบบนี้ขออยู่ทั้งวันเลยจ้าา…

เรียบเรียง : Food.MThai