เบสท์เวสเทิร์น ประกาศเปิดโรงแรมใหม่ ในซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เบสท์เวสเทิร์น ประกาศเปิดโรงแรมใหม่
ในซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น

เบสท์เวสเทิร์น โฮเทลแอนด์รีสอร์ท เตรียมเปิดให้บริการ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ซัปโปโร โอโดริ-โคเอน โรงแรมระดับกลาง ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด

โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ซัปโปโร โอโดริ-โคเอน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ร้านค้าต่างๆ ย่านออฟฟิศ และฝั่งตรงข้ามคือ สวนสาธารณะโอโดริที่มีชื่อเสียง โรงแรมแห่งนี้สามารถตอบโจทย์ผู้เข้าพักทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโรประจำปี โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกจำนวนมากกว่า 2 ล้านคน ให้เดินทางมาเที่ยวที่สวนโอโดริทุกปี และในปี 2561 เทศกาลหิมะเมืองซัปโปโรจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-12 กุมภาพันธ์

โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ซัปโปโร โอโดริ-โคเอน จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 ให้บริการห้องพักจำนวน 60 ห้อง ทุกห้องได้รับการตกแต่งอย่างทันสมัย ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ฟรี โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเจอาร์ ซัปโปโรเพียง 600 เมตร ใช้เวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมงไปยังสนามบินนิวชิโตเสะที่เชื่อมต่อหลากหลายเส้นทางจากเมืองสำคัญทั่วเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ และใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมงจากโรงแรมไปยังลานสกีที่เมืองนิเซโกะ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและมีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งปี

มร. โอลิเวียร์ แบร์ริแวง ผู้บริหารระดับสูง ฝ่ายปฏิบัติการ ภูมิภาคเอเชีย เบสท์เวสเทิร์น โฮเทลแอนด์รีสอร์ท กล่าวว่า

“ซัปโปโรเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นและถือเป็นประตูสู่เกาะฮอกไกโด เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะมีโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเมืองนี้ ด้วยสถานที่ตั้งของโรงแรมซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ห้องพักที่ทันสมัย และการบริการอันยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของเบสท์เวสเทิร์น ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ซัปโปโร โอโดริ-โคเอน จะได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ผู้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้จะได้สัมผัสกับเทศการงานประจำปีต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นที่สวนโอโดริ อาทิ ฮอกไกโดมาราธอน เทศกาลชมดอกซากุระบาน เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี และเทศกาลหิมะซัปโปโรอันมีชื่อเสียง”

“การเปิดโรงแรมที่เมืองซัปโปโรในครั้งนี้นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของเบสท์เวสเทิร์นที่เมืองซัปโปโร และเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายโรงแรมในเครือเบสท์เวสเทิร์นเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวและเมืองสำคัญทางธุรกิจต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นที่เปิดให้บริการแล้วและโครงการที่อยู่ภายใต้การพัฒนาในประเทศญี่ปุ่นจำนวนทั้งหมด 15 แห่ง นับเป็นการการันตีถึงตำแหน่งผู้นำในฐานะเครือโรงแรมระดับโลกในประเทศญี่ปุ่น”

การเปิดโรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ซัปโปโร โอโดริ-โคเอน สะท้อนให้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์เบสท์เวสเทิร์นในประเทศญี่ปุ่น ต่อเนื่องจากการเปิดให้บริการของ โรงแรมเบสท์เวสท์เทิร์นโตเกียว นิชิคาไซ แกรนด์เด ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่สามของเบสท์เวสเทิร์นในโตเกียว และการรีแบรนด์ของ โรงแรม บี ดับเบิ้ลยู พรีเมียร์ คอลเลคชัน นางาซากิ ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์บี ดับเบิ้ลยู พรีเมียร์ คอลเลคชันแห่งแรกของเอเชีย โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น โอซาก้า ซึคาโมโตะเปิดให้บริการแล้วในโอซาก้า เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น และ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น ยามากาตะ แอร์พอร์ต ที่เปิดให้บริการไปเมื่อเดือนตุลาคม 2560 นับเป็นเตรียมการต้อนรับนักนักท่องเที่ยวจากนานาชาติในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน “รักบี้ เวิลด์” ในปี 2562 และเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2563 ซึ่งซัปโปโรจะเป็นอีกหนึ่งเมืองหลักที่มีบทบาททางด้านการท่องเที่ยว

 

 

แต่งชุดไทยย้อนยุค เดินเที่ยวงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”

แต่งชุดไทยย้อนยุค เดินเที่ยวงาน
“อุ่นไอรัก คลายความหนาว”

แต่งชุดไทยย้อนยุคเดินถ่ายรูปใจกลางกรุงเทพฯ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 โปรดเกล้าให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 11 มีนาคม 2561 บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ตั้งแต่เวลา 10.30 – 21.00 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์และวันเสาร์ ขยายเวลาถึง 22.00 น.

เนรมิตพระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค ชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจของในหลวง ร.5 และ ร.9 การแสดงศิลปวัฒนธรรม เรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยสมัยอดีต สนุกกับกิจกรรมการถ่ายภาพโบราณ ตลอดจนเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ที่มาร่วมออกร้านจำนวนมาก

โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน ดังนี้

1.โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้า การประปา ไปรษณีย์ไทย และธนาคารสยามกัมมาจล (ธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบัน)

2.โซนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านจิตอาสา 904 ร้านภูฟ้า ร้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ รวมทั้งมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลง

3.โซนร้านอาหารและร้านค้า ภายใต้แนวคิด ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย ซึ่งนอกจากซุ้มร้านอาหารไทยแล้ว ยังมีการสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุค

อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงออกถึงความเป็นไทยและความกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศภายในงาน ขอเชิญชวนประชาชนแต่งชุดไทยย้อนยุค หากไม่มี สามารถสวมใส่ผ้าไทย หรือชุดสุภาพแทนได้ ทั้งนี้ไม่มีค่าบัตรผ่านประตู โดยเงินรายได้จากการจัดงานจะนำไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก: NNT, กรมประชาสัมพันธ์

 

ไหว้พระ 9 วัด สมุทรสงคราม รับบุญต้นปี 2018

ไหว้พระ 9 วัด สมุทรสงคราม
รับบุญต้นปี 2018

นอกจากแวะชิมช้อปที่ตลาดอัมพวาจนอิ่มท้องแล้ว เราก็ต้องเข้าวัดทำบุญให้อิ่มใจกันด้วย ซึ่งที่จังหวัด สมุทรสงคราม ก็มีวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานอยู่หลายแห่ง สามารถไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ เพราะอยู่ไม่ไกลกรุงเทพ ว่าแต่จะมีวัดไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยดีกว่า

  1. วัดบางกุ้ง

มาเที่ยว สมุทรสงคราม ต้องแวะเที่ยววัดบางกุ้ง เพราะเป็น 1 ใน unseen  thailand ด้วยมีต้นไทรปกคลุมรอบพระอุโบสถ ด้านในมีพระพุทธรูปให้ขึ้นไปปิดทองพระขอพร นอกจากจะไหว้โบสถ์เลื่องชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีอนุสาวรีย์ของพระเจ้าตากสินมหาราชและหุ่นนักมวยแห่ง ค่ายบางกุ้ง ด้วย ที่วัดบางกุ้งนี่เองตามประวัติศาสตร์ ระบุว่า เคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารช่วงสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2 และเป็นค่ายทหารของพระเจ้าตากสิน

นอกจากนี้ที่วัดบางกุ้งยังมีสวนสัตว์ให้เที่ยวชมอีกด้วย สามารถซื้อหญ้ามาป้อนอาหารสัตว์ได้ เช่น ม้า อูฐ กวาง แพะ นกยูง ควายเผือก และบริเวณหน้าวัดจะอยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง เป็นแหล่งชุกชุมของปลาน้ำจืด จนได้ชื่อว่า วังมัจฉา

*********************************************************

  1. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม)

แต่เดิมชื่อวัดศรีจำปา สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ชาวบ้านได้อาศัยวัดนี้เป็นที่หนีภัยสงครามพม่า และภายหลังได้ช่วยกันบูรณะวัดขึ้นใหม่แล้วเรียกว่า “วัดบ้านแหลม” ปัจจุบันวัดบ้านแหลมได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรีวรวิหาร  และได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเพชรสมุทรวรวิหาร” มีหลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของ สมุทรสงคราม ถ้ามาเที่ยวจังหวัดนี้แล้วไม่ได้มานมัสการหลวงพ่อก็เหมือนมาไม่ถึง

*********************************************************

  1. วัดบางกะพ้อม

เป็นวัดเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา สิ่งที่น่าเข้าไปชมคือภายในวิหารเก่าของวัด ซึ่งมีความสวยงามวิจิตรด้วยอิทธิพลการตกแต่งแบบจีน ผนังวิหารเป็นปูนปั้นลวดลายนูน แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติที่หาดูได้ยาก ส่วนผนังวิหารด้านล่างมีช่องเจาะเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป และตรงกลางวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองขนาดใหญ่สีรอยซ้อนกัน

นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อ หลวงพ่อคง อดีตเจ้าอาวาส และเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัด จึงไม่แปลกใจที่มีบรรดาลูกศิษ์และผู้คนที่ศรัทธาเดินทางมามาสักการะปิดทองจำนวนมาก

*********************************************************

  1. วัดจุฬามณี

วัดจุฬามณี เป็นวัดโบราณเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองอัมพวา สิ่งสำคัญที่อยู่คู่วัด ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวชม ได้แก่ ร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเนื่อง โกวิโท อดีตเจ้าอาวาส และพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังมาก, อุโบสถจตุรมุขหินอ่อน ปูพื้นด้วยหินหยกสีเขียว จากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน และกราบไหว้องค์ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวเวสสุวัณ ก่อนกลับบ้านอย่าลืมซื้อทองม้วนสูตรโบราณเป็นของฝาก ซึ่งร้านจะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าวัดค่ะ

*********************************************************

  1. วัดบางแคใหญ่

วัดบางแคใหญ่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ใกล้ๆ กับวัดบางแคน้อย เมื่อมาเยือนที่นี่ ควรเข้าไปสักการะ หลวงพ่อศรีสมุทรพุทธโคดม ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ นอกจากจะได้ชมพระอุโบสถที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปีแล้ว ภายในบริเวณวัดยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ธรรมเจดีย์ 7 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ, หอระฆังที่อยู่ตรงซุ้มประตูระเบียงคตอุโบสถด้านข้าง ด้านขวาของหอระฆังเป็นอนุสาวรีย์เจ้าพระยาวงษาสุรศักดิ์ สมุหพระกลาโหม ตลอดจนจิตรกรรมฝาผนัง ที่เขียนด้วย สีฝุ่นผสมกาว ในสมัยรัชกาลที่ 2 เล่าเรื่องราวการทำสงครามไทย-พม่า ทั้งนี้ไม่ได้เปิดให้ชมทั้วไป ต้องขอนุญาตก่อน

*********************************************************

  1. วัดเขายี่สาร

เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาลูกเล็กๆ ที่ตำบลเขายี่สาร อำเภออัมพวา ความน่าสนใจก็คือ พระวิหารบนยอดเขามีลักษณะเป็นรูปเรือ ภายใน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอย และหลวงพ่อปากแดง พระพุทธรูปปางมารวิชัย นอกจากนี้ในบริเวณวัด ยังมีพระพุทธไสยาสน์ ประดิษฐานอยู่ในถ้ำพระนอน, ศาลหลวงพ่อปู่ศรีราชา โดยจะมีการจัดงานนมัสการหลวงพ่อปู่ทุกๆ ปี รวมถึงพิพิธภัณฑ์บ้านยี่สาร ที่จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวบ้านยี่สารด้วย

*********************************************************

  1. วัดศรัทธาธรรม (วัดมอญ)

วัดศรัทธาธรรม ตั้งอยู่ที่ตำบลบางจะเกร็ง ระหว่างทางไปดอนหอยหลอด ชาวบ้านมักเรียกกันว่า วัดมอญ เนื่องจากเป็นวัดที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชุมชนมอญ มีจุดเด่นอยู่ที่พระอุโบสถทำจากไม้สักทองฝังมุกแท้รูปเรือสำเภา ส่วนเสาระเบียงฝังมุกลายไทย และผนังภายนอกฝังเปลือกหอยมุกเป็นลายเทพพนม ภายในเป็นภาพพุทธประวัติ ภาพรามเกียรติ์ หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และมีพระประธานที่สำคัญคือ พระพุทธชินราช เป็นที่สักการะของชาวสมุทรสงคราม และจังหวัดใกล้เคียง

*********************************************************

  1. วัดอัมพวันเจติยาราม

วัดอัมพวันเจติยารามได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์เรื่อยมา ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ถึง 5 พระอุโบสถตลอดวัตถุโบราณในวัดนี้ ส่วนใหญ่เป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นแทบทั้งสิ้น

สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และบทพระราชนิพนธ์ต่างๆ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้เขียนขึ้นตามแบบรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอุทยาน ร.2 เนื่องจากเคยเป็นที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

********************************************************

  1. วัดภุมรินทร์กุฎีทอง

วัดภุมริทนร์กฎีทอง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา สิ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ได้แก่ กุฎีทองทำด้วยไม้สัก พิพิธภัณฑ์วัดภุมรินทร์กุฎีทองและอุทยานการศึกษา เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าสมควรแก่การศึกษาอนุรักษ์ไว้ เช่น พระพุทธรูป หนังสือไทย โถลายครามและเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี พระพุทธรัตนมงคลหรือหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ปางมารวิชัย รวมถึงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประดิษฐาน

ที่สมุทรสงครามมีที่เที่ยวอีกมากมายรอให้คุณไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น ตลาดร่มหุบ พิพิธภัณฑ์ขนมไทย ตลาดน้ำท่าคา ป่าชายเลนคลองโคน หูยย บอกวันเดียวก็ไม่หมดอะ ต้องมาสำรวจด้วยตัวเองค่ะ แนะนำว่ามานอนโฮมสเตย์ในอัมพวา หรือคลองโคลน สักคืนสองคืน เพื่อจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและใกล้ชิดกับความน่ารักของชาวบ้านที่นี่ค่ะ

ขอบคุณรูปภาพจาก: thai.tourismthailand, วัดบางแคใหญ่ อัมพวา สมุทรสงคราม