ส่วนประกอบ
–ปลากระพง
–น้ำมันหอย,ซอสปรุงรส,น้ำตาลทราย
-น้ำมัน,พริกแกง
–ใบมะกรูด,แป้งข้าวโพด
วิธีทำ
–นำปลามาคลุกให้เข้ากันกับแป้งจนทั่ว
-นำปลาลงไปทอดให้เหลืองทอง
-ผัดพริกแกงให้หอมและแตกมันเล็กน้อย
-ปรุงด้วย น้ำมันหอย, น้ำตาลทราย, ซอสปรุงรส
-นำปลาลงไปคลุกให้ทั่ว แล้วตามด้วยใบมะกรูด
ชวนท่องเมืองประวัติศาสตร์
“พระนารายณ์ราชนิเวศน์” จ.ลพบุรี
กระแสละคร บุพเพสันนิวาส ทำเอาทุกคนอินจัด สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และโบราณสถานจึงพลอยได้รับผลในเชิงบวกไปด้วย วันนี้ travel.mthai เลยอยากพามาเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี สถานที่แห่งนี้จะมีสิ่งใดน่าสนใจและน่าค้นหา ตามเรามาเที่ยวเลย
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือที่ชาวเมืองลพบุรีเรียกกันติดปากว่า วังนารายณ์ เป็นพระราชวังโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองสูงสุดสมัยหนึ่งของเมืองละโว้ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้จัดแสดงโบราณวัตถุ และภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตามประวัติ วังนารายณ์ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปี พ.ศ. 2209 สำหรับใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ต่อมาเมื่อสมเด็จพระนารายณ์ฯ เสด็จสวรรคต สถานที่แห่งนี้ก็หมดความสำคัญและถูกปล่อยทิ้งร้างตั้งแต่นั้น กระทั่งได้รับการบูรณะ ฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 รวมถึงมีการสร้างพระที่นั่งพิมาณมงกุฎและหมู่ตึกพระประเทียบ ทรงพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ในปีพ.ศ. 2504
ด้านในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 เขต ได้แก่
เขตพระราชฐานชั้นนอก
สิบสองพระคลัง
ตึกเลี้ยงต้อนรับแขกเมือง
เขตพระราชฐานชั้นกลาง
พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท
หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ
โดย พระที่นั่งพิมานมุงกุฎ จะเป็นอาคาร 3 ชั้น ใช้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองลพบุรี ไขข้อสงสัยทุกเรื่องตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยปัจจุบัน ดังนี้
– ชั้นที่ 1 จัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,500-4,000 ปี เช่น ภาชนะดินเผารูปวัว โครงกระดูกมนุษย์ ขวานหิน ขวานสำริด จารึกโบราณ เครื่องประดับจากเปลือกหอย เป็นต้น
– ชั้นที่ 2 จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่พบในลพบุรี ช่วงที่ความเจริญของศิลปะเขมรมีอิทธิพลในไทย เช่น ทับหลังแกะสลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระพุทธรูปนาคปรก เทวรูปต่างๆ ตลอดจนเครื่องถ้วยกระเบื้องทั้งของจีน และไทย
– ชั้นที่ 3 เดิมเป็นห้องบรรทมของรัชกาลที่ 4 จัดแสดงเหมือนครั้งที่ยังประทับอยู่ มีพระแท่นบรรทม ฉลองพระองค์ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระสาทิสลักษณ์ เหรียญเงินต่างๆ เครื่องแก้ว เครื่องประกอบโต๊ะพระกระยาหารที่มีตราประจำพระองค์(มงกุฎ) เป็นต้น
เขตพระราชฐานชั้นใน
พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์ฯ ก่ออิฐถือปูนมุงหลังคากระเบื้องเคลือบแบบจีน
หมู่ตึกพระประเทียบ หมู่ตึกพระประเทียบ ตั้งอยู่หลังพระที่นั่งพิมานมงกุฎ เป็นตึกชั้นเดียว 2 หลัง ก่อด้วยอิฐปูน 2 ชั้น มี 8 หลัง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของข้าราชการฝ่ายใน
สำนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ยังมีบ้านตึกเขียว หรือ สำนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งเคยเป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดหลังแรกของลพบุรี เป็นสถานที่เก็บ หนังสือจินดามณี เล่มที่ 2 ไว้ให้ชมกันด้วย ส่วนเล่มแรกเก็บไว้ที่จดหมายเหตุ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
ที่ตั้ง : เขตตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : museumsiam, wikipedia, museumsiam, addsiam
10 อันดับ โรงแรมเก่าแก่ที่สุดในโลก
ครั้งหนึ่งควรไปพักให้ได้!!
โรงแรมที่ดีที่สุด อาจไม่ใช่โรงแรมที่ใหม่ที่สุด และโรงแรมที่เก่าที่สุด ก็อาจเป็นสถานที่พักผ่อนอันยอดเยี่ยมก็ได้ ซึ่งหากใครชอบการมานอนพัก พร้อมได้ซึบซับบรรยากาศเก่าๆ ต้องไม่พลาด 10 อันดับ โรงแรมเก่าแก่ที่สุดในโลก
โรงแรม Nishiyama Onsen Keiunkan ถูกบันทึกโดยกินเนสบุ้คให้เป็น โรงแรมเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอาคาอิชิ เมืองฮายากาว่า จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุมากกว่า 1,300 ปี โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 705 ปัจจุบันมีผู้สืบทอดกิจการมาแล้วกว่า 50 คน
*************************************************************************
โรงแรมเก่าแก่ที่สุดในโลก อันดับ 2 ยกให้ที่นี่เลย Hōshi Ryokan เป็นที่พักสไตล์เรียวกัง ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 717 เท่ากับว่ามันผ่านระยะเวลามามากกว่าพันปี
*************************************************************************
ขอบคุณรูปภาพจาก: maidsheadhotel
ตึกสีส้มอิฐดูสะดุดตาแห่งนี้ คือโรงแรม The Maids Head Hotel ก่อตั้งขึ้นมาในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1090 เพื่อรองรับแขกที่มาเยี่ยมชมพระราชวังโบราณที่สร้างอยู่ในบริเวณเดียวกัน แถมเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอังกฤษด้วย
*************************************************************************
ก่อตั้งในปี 1120 หรืออายุราวๆ เกือบ 900 ปี สร้างขึ้นก่อนที่เมือง Freiburg จะก่อตั้งซะอีก ถือเป็นโรงแรมที่มีอายุมากที่สุดในประเทศเยอรมนีเลยก็ว่าได้
*************************************************************************
ขอบคุณรูปภาพจาก: wikipedia
โรงแรม The Olde Bell ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1135 ซึ่งในปีนี้ก็จะมีอายุครบ 883 ปี
*************************************************************************
โรงแรม Angel & Royal Hotel ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1203 เท่ากับเปิดบริการมาแล้วกว่า 800 ปี
*************************************************************************
โรงแรม Sanct Peter Hotel ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1246 เท่ากับเปิดกิจการมาแล้ว 771 ปี
*************************************************************************
โรงแรม Orso Grigio สไตล์บูติค ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1300 เท่ากับเปิดกิจการมาแล้ว 717 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง San Candido ประเทศอิตาลี ในอดีตเป็นโรงแรมที่พ่อค้าและขุนนางมักเข้ามาพักอาศัย แต่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมที่มีทั้งร้านอาหารรสเลิศ และลานสกีสุดเจ๋ง
*************************************************************************
โรงแรม Interlaken ก่อตั้งในปีค.ศ. 1323 หรือมีอายุเกือบ 700 ปีเข้าให้แล้ว ตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่สวยงามดุจเทพนิยาย ซึ่งก็คือประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง เดิมทีที่แห่งนี้เคยเป็นโรงยาบาลมาก่อน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นวิหาร ก่อนจะมาเป็นโรงแรมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
*************************************************************************
ขอบคุณรูปภาพจาก: skyscanner
โรงแรม Arthotel Blaue Gans ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1350 เป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรีย มีอายุมากกว่า 600 ปี ความน่าสนใจคือ เป็นโรงแรมศิลปะแห่งแรกของซาลซ์บูร์กที่มีงานศิลปะเกือบ 100 ชิ้นอยู่ทั่วล็อบบี้และบริเวณทางเดิน
ถึงแม้ทั้ง 10 โรงแรมนี้ จะมีอายุ 100 อัพ และเฉียดพันปีแล้วทั้งนั้น แต่ก็ได้รับการปรับปรุงและดูแลอย่างดีมาตลอด จนยังดูใหม่ สวย น่าไปพักซักครั้งหนึ่งในชีวิต
Source: thisisinsider
