เที่ยวกินเล่นแบบไทยๆ ที่
“สวนไทย พัทยา” จังหวัดชลบุรี

ชวนออเจ้านุ่งสไบ ล่องเรือ ขี่ช้าง นั่งรถม้า เที่ยวชมวิถีชีวิตคนไทยสมัยก่อนที่ สวนไทย พัทยา จังหวัดชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ ที่รวมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีของไทยเราทั้ง 6 ภูมิภาค 

สวนไทย พัทยา อาณาจักรแห่งความเป็นไทย บนเนื้อที่ 250 ไร่ จะพาเราย้อนไปใช้ชีวิตกินอยู่แบบไทยดั้งเดิม เรียนรู้วิถีชีวิตคนไทยใน 6 ภูมิภาค คือ เหนือ กลาง ใต้ อีสาน ตะวันตก ตะวันออก  และเพลิดเพลินไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมหลายแขนง ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ไม่ให้จางหายไปตามกาลเวลา

กิจกรรมที่น่าสนใจมีอยู่มากมายหลายโซนเลยทีเดียว เริ่มจาก โซนศาสตร์พระราชา..ตำราของพ่อที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ได้แก่ นาข้าว 30% แหล่งน้ำ 30% สวนผลไม้ 30% และที่พักอาศัยอีก 10%

โซนปางช้างสวนไทย ชมโชว์ศิลปะการต่อสู้ และนั่งช้างชมสวนสวยรอบบริเวณ / โซนสวนไทย การ์เด้น ลอดอุโมงค์พรรณไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยกว่า 99 เมตร  / กราบไหว้พระพุทธรูปจาก 9 วัดทั่วประเทศ ด้านใน โซนหอพระ มีหลวงพ่อโสธรเป็นองค์ประธาน / ประติมากรรมแผนที่ประเทศไทยประดับกระจก มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความสูงกว่า 20 เมตร เทียบเท่าตึก 7 ชั้น

ข้าจักเข้าครัว เกียมสำรับอาหารให้คุณพี่

สวมบทบาทเป็นท่านขุนกับแม่หญิง ใช้ชีวิตแบบชาวสยามยุคอดีต ณ เรือนสวนไทย ที่จำลองบ้านเรือนไทยสมัยโบราณให้นักท่องเที่ยวย้อนวันวานถ่ายรูปกัน

โซนชุมชนวิถีไทย ตั้งอยู่ริมบึงน้ำกว้างไกลกว่า 20 ไร่ ที่เราจะได้เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย อย่างการทำร่มบ่อสร้าง หัตถกรรมอันโดดเด่นของภาคเหนือ และในจุดนี้ยังมีเรือไม้โบราณบริการนักท่องเที่ยว ได้ล่องเรือชมบึงบัวและความงามของทุกอาณาเขตในสวนไทย

โซนตลาดน้ำวิถีไทย 6 ภาค เลือกอิ่มอร่อยไปกับอาหาร ขนม และผลไม้ไทย นานาชนิด ซึ่งในนี้มีชิงช้าสวรรค์จิ๋ว กับเครื่องเล่นคล้ายม้าหมุนให้น้องๆ หนูๆ สนุกกันด้วย

นอกจากนี้ยังมีโซนถ้ำและน้ำตกพญานาคสุดอลังการ / นั่งรถม้าลำปางเที่ยวชมรอบๆ สวนไทย / ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค พร้อมอิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์นานาชาติ

ทั้งนี้ จะเก็บค่าเข้าชมคิดเป็น ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท และชาวต่างชาติ 300 บาท สำหรับกิจกรรมบางอย่าง + ค่าเข้า จะอยู่ที่ 200 บาท

ผังกิจกรรม

ที่ตั้ง : ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

วันและเวลา เปิดให้บริการ : เปิดให้เที่ยวทุกวัน 09.00-17.00 น.

ขอบคุณรุปภาพจาก : สวนไทย พัทยา, ชลบุรี วันนี้, suanthaipattaya

เที่ยวกินตามราง
5 สถานี รถไฟฟ้าสายสีม่วง

รถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน–คลองบางไผ่ ผ่านที่เที่ยวย่านชานเมืองอย่าง จังหวัดนนทุรี มากมาย แถมสะดวกสบายเพราะปัจจุบันเชื่อมต่อกับ MRT สายสีน้ำเงินเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องต่อรถ shuttle bus ให้ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน เราไปดูกันเลย ว่ามีที่เที่ยวไหนอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงกันบ้าง

1. สถานีคลองบางไผ่

• วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือ เล่งเน่ยยี่ 2  

โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยจีนที่สวยงามอลังการ คล้ายคลึงกับพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่ง ผู้คนนิยมมากราบไหว้ ขอพร ต่อองค์ทวยเทพ เจ้าแม่กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด รวมถึงเสริมดวงชะตา และแก้ปีชงด้วย

• ร้าน Cafe’ De Fin

คาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสวนต้นไม้ บรรยากาศร่มรื่นน่านั่ง มีทั้งเมนูกาแฟรสชาติเข้มข้น และเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจ ทานคู่กับเค้กแสนอร่อย รับรองฟินสมชื่อร้าน  เปิดทุกวัน 9.00 – 19.00 น. อยู่ห่างจากสถานีคลองบางไผ่ 400 เมตร

******************************************************

2. สถานีตลาดบางใหญ่

• เซ็นทรัลเวสต์เกต 

ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางใหญ่ และเป็น Super Regionalmall ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครบครันเรื่องช้อป ชิม และศูนย์รวมความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่ม, ซูปเปอร์มาร์เกต, โรงภาพยนตร์, ร้านความสวยความงาม, ร้านค้าแบรนด์ไทยและอินเตอร์ ไฮไลท์อยู่ที่น้ำพุ Tree of Life ที่ผสมผสานความอัศจรรย์ของสายน้ำและแสงสีจากไฟ LED สูงเท่าตึก 7 ชั้น และ “โดราเอมอน คอมมิคเวิลด์” ส่งตรงจากญี่ปุ่น ให้แฟนๆ โดราเอมอนเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ในหนังสือการ์ตูนที่พวกเขาชื่นชอบ

******************************************************

3. สถานีบางซ่อน

• ชุมทางสยามยิปซี 

ตลาดนัดกลางคืน ข้างทางรถไฟสถานีบางซ่อน สินค้าที่วางขายจะเป็นแนวคลาสสิค วินเทจ ของสะสมหายาก ของเก่ามือสอง ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมถึงร้านค้ากฺ็ถูกเนรมิตให้เป็นห้องแถวไม้ เหมือนย้อนไปในยุค 70-90 สมัยคุณพ่อยังเฟี้ยวฟ้าว และยังมีร้านอร่อยหลากหลายร้านให้แวะกินคลายความหิว ร้านนั่งดริ๊งก์ชิลๆ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง แถมมีวงดนตรีเล่นเพลงให้ฟังกันสดๆ ขับกล่อมตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนถึงดึก

เปิดบริการ : วันพุธ – อาทิตย์ 17.00 – 1.00 น.

******************************************************

4. สถานีแยกติวานนท์

• ท่าน้ำนนท์ 

ใครหิวๆ ต้องไม่พลาดมาฝากท้องแถว ท่าน้ำนนท์ แหล่งรวมของกินแนวสตรีทฟู๊ดสุดอร่อย จัดหนักจัดเต็มได้ตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็นร้านนนท์เบเกอร์รี่, เกาเหลาเมืองนนท์, ก๋วยจั๊บคุณน้อย, เป็ดพะโล้ข้างโรงจำนำ, โอ้โหปังปัง 85 องศา, ขนมหวานเพชรเมืองนนท์ อู้หูวว เรียกว่าครบถ้วนทั้งของคาวของหวาน กินจนกลิ้งกลับบ้านแน่นอน

นอกจากนี้ท่าน้ำนนท์ยังมีความสำคัญคือเป็นท่าเรือต้นทางของเรือด่วนเจ้าพระยา และเป็นจุดจอดเรือทุกสายในฝั่งนนทบุรี โดดเด่นด้วยหอนาฬิกาเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านบอกเวลามาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2500

การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ลงสถานีแยกติวานนท์ แล้วเดินย้อนลงไปทางถนนติวานนท์ ฝั่งตรงข้ามของบิ๊กซี ติวานนท์ แล้วนั่งรถโดยสารประจำทางต่อไปยังท่าน้ำนนท์

• เกาเหลาเมืองนนท์

ร้านเกาเหลาเมืองนนท์ เด่นเรื่องน้ำซุปที่กลมกล่อม หอมกลิ่นพริกไทย ส่วนเนื้อที่นำมาทำก็สดสะอาดไม่มีกลิ่นคาว แถมเนื้อยังนุ่ม เคี้ยวง่าย สำหรับใครไม่ทานเนื้อ ทางร้านก็มีหมูเช่นกัน สั่งตามใจชอบเลย

******************************************************

5. สถานีสะพานพระนั่งเกล้า

• เกาะเกร็ด  

สัมผัสวิถีชีวิตชาวมอญบนเกาะเกร็ด ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยึดอาชีพหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผามายาวนาน จึงไม่ต้องแปลกใจเมื่อหันมองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านเครื่องปั้นดินเผาเล็กๆ น่ารัก ราคาถูก ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้เรายังสามารถเช่าจักรยานปั่นรอบเกาะ แวะชิมขนมไทย ทอดมันหน่อกะลา ข้าวแช่ กะละแม และคะนอนจิม อาหารชาวมอญโบราญ แล้วไปปิดท้ายด้วยการนั่งเรือกินลมชมทัศนียภาพ

• เจดีย์มุตา วัดปรมัยยิกาวาส (วัดเจดีย์เอียง)

เมื่อข้ามมาถึงเกาะเกร็ด  ห้ามพลาดแวะชมแลนด์มาร์คของที่นี่ นั่นก็คือ พระเจดีย์มุเตา วัดปรมัยยิกาวาส  เป็นเจดีย์สีขาว ทรงรามัญ มีผ้าแดงผูกบนยอดเจดีย์ เดิมเป็นเจดีย์ที่สร้างตั้งตรง ต่อมาน้ำเซาะตลิ่งพัง จึงทำให้เจดีย์ทรุดตัวและเอียงลง กลายเป็นความงดงามที่เกิดจากความบังเอิญทางธรรมชาติ

การเดินทาง : จากสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ให้ใช้บริการเช่าเรือหางยาวเหมาลำ หรือนั่งแท็กซี่ต่อไปยังวัดสนามเหนือ

******************************************************

6. สถานีแยกนนทบุรี 1

• ตลาดนกฮูก

ตลาดนัดเลี่ยงเมืองนนท์ หรือ ตลาดนกฮูก  ตั้งอยู่หลังเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ แหล่งชิมและช้อปที่เปิดข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว แบ่งออกเป็น 2 โซน ด้วยกัน โซนแรกคือโซนคลองถม แหล่งรวมของเก่า ของมือ 2 เปิดขายทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 (เย็น) – 10.00 น. (เช้า) อีกหนึ่งโซนคือ โซนโต้รุ่งและเทคโฮม แหล่งรวมเสื้อผ้า ของใช้ และร้านอาหารแนวฟู้ดทรัคละลานตา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15.00 – 24.00 น.

การเดินทาง :  สถานีแยกนนทบุรี 1 ทางออก 3 ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

• ศิริวรรณ หอยทอด–ผัดไทย 

เดิมมีแค่หอยทอด และผัดไทยที่เป็นเมนูเด็ด จนปัจจุบันก็มีเมนูเพิ่มเติมขึ้นมาอีกหลายเมนูให้เลือกทานกัน ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมแป้งออส่วน  ปลากระพงทอดน้ำปลา กระเพาะปลา ปลาลวกจิ้ม ขนมผักกาด ปอเปี๊ยะสด และอื่นๆ มากมาย  หัวใจสำคัญของที่นี่คือเลือกสรรแต่วัตถุดิบสดใหม่ตลอด ดีเรื่องรสชาติอาหารแล้วเรื่องบริการยังดีอีกด้วย

การเดินทาง : อยู่ห่างจากสถานีแยกนนทบุรี 1 ประมาณ 650 เมตร

5 โรงแรมวิวสวยติดทะเล 
ชลบุรี–พัทยา เที่ยวใกล้ๆ ก็ฟีลกู๊ดได้!

บางคนอยากหาที่พักสวยๆ บรรยากาศดีๆ แต่ไม่อยากเดินทางไกลๆ Travel.mthai มี 5 โรงแรมวิวสวยติดทะเล ชลบุรี–พัทยา มาแนะนำกัน! ไม่ต้องไปไกลถึงภาคใต้ ก็ฟีลกู๊ดได้นะจ๊ะ ^^

1. Balcony Seaside Sriracha Hotel & Serviced Apartments 
(บัลโคนี ซีไซด์ ศรีราชา โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์)

โรงแรมสุดหรูติดทะเลของศรีราชา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Balcony คือเน้นความเรียบหรู แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดในเรื่องของการออกแบบและความสวยงามของวัสดุ เป็นสไตล์มินิมอลผสมกับแนวญี่ปุ่นหน่อยๆ อีกทั้งวิวของที่พักยังสวยและโรแมนติกอีกด้วย

ศรีราชาเป็นทะเลไม่มีหาดและเป็นทะเลสำหรับทำประมงพื้นบ้าน จึงไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ แต่ทางโรงแรมมีสระว่ายน้ำเกลือธรรมชาติติดริมทะเล เอาไว้ให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลทีี่วิถีชีวิตยังเป็นธรรมชาติ และบรรยากาศในช่วงพระอาทิตย์ตกที่แสนโรแมนติก

ห้องพักของที่นี่มีกว่า 234 ห้อง แบ่งเป็น 2 แบบหลัก คือ ห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน อาหารที่บริการก็มีทั้ง ไทย ญี่ปุ่น และนานาชาติ อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บ่อแช่น้ำร้อนแยกชายหญิง (Ofuro), ห้องประชุม, fitness, Family Club, สนามเด็กเล่น

2. U Pattaya Hotel (ยู พัทยา)

ยู พัทยา ตั้งอยู่ที่หาดจอมเทียน – บางเสร่  ซึ่งเป็นทะเลที่เรียกว่าสวย น้ำทะเลใส และสงบที่สุด คอนเซปท์การตกแต่งที่พักแห่งนี้นั้นเป็นแนว “หมู่บ้านชาวประมง” โดยใช้วัสดุที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างไม้ และไม้ไผ่ ทำให้ดูโปร่งโล่งสบายตากับผู้มาเข้าพัก บรรยากาศโดยรอบนั้นล้อมด้วยสวนและต้นไม้สวยร่มรื่น มีสระว่ายน้ำส่วนตัวติดริมทะเล  นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหารอาหารฝรั่งเศสสไตล์บิสโทร ริมทะเลและบาร์บนชั้นดาดฟ้าชมวิวทะเล บรรยากาศสุดโรแมนติก

3. Cape Dara Resort (เคป ดารา รีสอร์ท)

เคป ดารา รีสอร์ท สร้างขึ้นในปี 2012  นับว่าเป็นตัวเลือกชั้นยอดสำหรับนักท่องเที่ยว โรงแรม 5 ดาว  โดยตั้งอยู่บนทำเลที่ดีเยี่ยมห่างจากตัวเมืองเพียง 0.5 km ทำให้คุณเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมที่สุดของเมืองได้ง่ายขึ้น ที่พักให้บรรยากาศที่ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ที่เคป ดารา รีสอร์ท ยังมีบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นยอด ที่ถูกการันตีด้วย มาตรฐานของโรงแรมระดับ 5 ดาว ทำให้ท่านสามารถวางใจได้ว่าการพักผ่อนของท่านที่ครั้งนี้จะพิเศษกว่าครั้งใดๆ

4. Veranda Resort Pattaya (วีรันดา รีสอร์ท พัทยา)

วีรันดา รีสอร์ท พัทยา เป็นโรงแรมแบบ Boutique ที่เน้นบรรยากาศพักผ่อนจริงๆ โรงแรมมีขนาดไม่ใหญ่มาก  มีความเป็นส่วนตัว ติดชายทะเล บริการและการตกแต่งอยู่ในระดับ 5 ดาวสมกับแบรนด์วีรันดา อีกหนึ่งที่พัก ที่เรียกได้ว่าต้องยกให้ในเรื่องของดีไซน์สระว่ายน้ำที่เก๋เก๋ และสวยงาม มีมุมให้เลือกถ่ายภาพอยู่หลากหลาย ไฮไลท์ของโรงแรมนี้นอกจากจะมีสระว่ายน้ำติดทะเลที่แล้ว ยังมีสะพานเชื่อมที่ตั้งอยู่ด้านบนของตัวโรงแรม คนเข้าพักนิยมถ่ายมุมนั้นกันเยอะสุดๆ  ไม่ว่าจะช่วงเช้า หรือเย็นตอนพระอาทิตย์ตก

5. เดอะ มนต์ตรา พัทยา (The Monttra Pattaya)

เดอะ มนต์ตรา พัทยา ตั้งอยู่ที่เขาพระตำหนัก บนชายหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ ตัวโรงแรมออกแบบผสมผสานความเป็นไทยและร่วมสมัย หรูหราแต่เรียบง่าย นอกจากห้องพักจะสวยงามน่านอนแล้ว วิวธรรมชาติของที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่ใด มองเห็นวิวทะเลสีฟ้าคราม เรือใบสีขาวลอยอยู่เหนือน้ำ บางครั้งทำให้เรานึกว่า นี่ใช่พัทยาจริงๆ หรือเนี่ย ..

จะขับรถไปชลบุรีเอง ก็ใกล้มากๆ เพียง 2 ชม. ร่างกายจะได้สัมผัสกับเตียงนอนนุ่มๆ และวิวสวยอยู่ตรงหน้า หรือเลือกใช้บริการรถสาธารณะ อย่าง รถไฟปรับอากาศ เส้นทาง กรุงเทพ – พัทยา – บ้านพลูตาหลวง ที่เพิ่งเปิดให้บริการกันไป ก็สะดวกสบายสุดๆ เหมือนนั่งรถตัวเองแต่มีสารถีขับให้