ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=laV2u_oXjtg
Monthly Archives: September 2018
อร่อยชั้นต่อชั้น สูตร ขนมชั้น ของหวานไทยกินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
ขนมชั้น เป็นขนมหวานที่กินมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความเป็นเด็กก็ชอบจะกินทีละชั้น เคี้ยวหนุบหนับอร่อยไม่รู้ลืม ขนมชั้นที่คลาสสิคที่สุดก็คือขนมชั้นใบเตย ชั้นสีเขียวสลับกับชั้นสีขาว ทำมาจากสีธรรมชาติ ขนมไทยทำแล้วเพลินๆ แต่ต้องใช้ความอดทนรอความสุกของแต่ละชั้น อยากกินร้อนๆ ต้องลองทำเองดูค่ะ
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้า 40 กรัม
- แป้งท้าวยายม่อม 40 กรัม
- แป้งมัน 300 กรัม
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 500 กรัม
- ใบเตย 3-4 ใบ
- กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
- น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
- ผสมน้ำตาลทรายกับกะทิ แล้วนำไปตั้งไฟอ่อนๆ พอให้อุ่นจนน้ำตาลทรายเริ่มละลาย ไม่ต้องต้มให้เดือด เสร็จแล้ววางพักไว้
- ผสมแป้งทั้งสามอย่างเข้าด้วยกัน แล้วค่อยๆ เติมน้ำกะทิลงไป คนจนแป้งละลาย หากไม่แน่ใจว่าแป้งละลายหมด ให้นำไปกรองกับกระชอนตาถี่
- แบ้งน้ำกะทิไว้สองชาม ชามแรกผสมกลิ่นมะลิลงไป คนให้เข้ากัน อีกหนึ่งชามใส่น้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากัน
- เตรียมพิมพ์สำหรับขนมชั้น ใส่น้ำในลังถึง ต้มน้ำจนเดือด แล้วนำแม่พิมพ์ลงไปนึ่งวอร์มก่อน 15 นาที
- เสร็จแล้วก็เทขนมลงไปทีละชั้น ชั้นละเท่าๆ กัน ระหว่างสลับสีกันให้นึ่งชั้นละ 5 นาที จนเต็มแม่พิมพ์
- นึ่งเสร็จแล้ว นำขนมออกมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม จัดเรียงใส่จานเสิร์ฟ หรือใส่กล่องสวยๆ ก็ได้ค่ะ
เรียบเรียงโดย Food MThai
สวยตะลึง! ภาพจำลอง 7 โบราณสถาน หากได้รับการฟื้นฟู
วันนี้ Travel mthai จะพาไปเยือน โบราณสถาน และซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณ ไม่ว่าจะเป็นวิหารพาร์เธนอน โรมันบาธ ป้อมปราการมาซาด้า นครวัด และร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันมีค่าอีกมากมาย
สวยตะลึง! ภาพจำลอง 7 โบราณสถาน
หากได้รับการฟื้นฟู
หลายคนคงเกิดจินตนาการตามว่าสถานที่เหล่านั้นในอดีตเคยสวยงามเพียงใด และหากได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ จะมีสภาพเป็นอย่างไร ทางเว็บไซต์ My Voucher Codes จึงได้ลองชุบชีวิตสิ่งปลูกสร้างโบราณทั้ง 7 แห่งขึ้นมาอีกครั้ง โดยทำการบูรณะผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะสวยขนาดไหนนั้น ดูกันเลย
1. Domus Aurea (Octagonal room)
กรุงโรม ประเทศอิตาลี
สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศักราชที่ 65-68 โดยจักรพรรดิแนโร่ ผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดคนหนึ่งของกรุงโรม ถึงวีรกรรมความโหดเหี้ยม พระราชวังแห่งนี้ นอกจากใช้เป็นที่ประทับแล้ว ยังไว้เลี้ยงต้อนรับแขกคนสำคัญด้วย ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ฟู่ฟ่า ประดับตกแต่งด้วยวัสดุล้ำค่ามากมาย ทั้งอัญมณี งาช้าง และไข่มุก ราวกับดินแดนแห่งสรวงสวรรค์เลยทีเดียว น่าเสียดายที่ปัจจุบันไม่เหลือสภาพเดิมให้เห็น
*********************************************************
2. วิหาร Parthenon
กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
วิหารพาร์เธนอน ในกรุงเอเธนส์ สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช ชื่อของวิหารอาจมาจากชื่อของงานประติมากรรมที่เคยตั้งอยู่ภายใน คือ Athena Parthenos ซึ่งหมายความว่าเทพีอันบริสุทธิ์ โดยรูปปั้นเทพีทำจากงาช้างและทองคำ มีความสูงถึง 12 เมตร ปัจจุบันวิหารพาร์เธนอนเหลือเพียงซากปรักหักพังที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2530
*********************************************************
3. Basilica Of Maxentius
กรุงโรม ประเทศอิตาลี
มหาวิหาร Maxentius โบราณสถานเก่าแก่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในบริเวณ Forum Romanum ในกรุงโรม มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 6,500 ตารางเมตร สำหรับเป็นที่ประชุม พื้นที่เชิงพาณิชย์ และอาคารบริหารงานในเวลาเดียวกัน ได้รับการออกแบบอย่างประณีต สวยงาม พื้นปูด้วยหินอ่อนหลากสี ผนังปูด้วยกระเบื้องสีทองแดง แต่มีความแปลกอย่างหนึ่งคือ แทนที่จะมีเสารองรับน้ำหนักของเพดานเหมือนมหาวิหารอื่นๆ กลับใช้ซุ้มประตูเป็นฐาน ซึ่งมักปรากฏให้เห็นในโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) มากกว่า
*********************************************************
4. Masada
ประเทศอิสราเอล
ป้อมปราการมาซาด้า ตั้งอยู่บนยอดเขาหินสูง กลางทะเลทรายยูเดีย (Judean Dessert) หันหน้าสู่ทะเลเดดซี โดยใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 7 ปี แต่เดิมเป็นพระราชวังฤดูหนาวของกษัตริย์เฮโรด มีทั้งโรงอาบน้ำ ซาวน่า บ่อน้ำร้อน–น้ำเย็น ต่อมาได้เป็นป้อมหลบภัยของชาวยิว ที่หนีการรุกรานของทหารโรมัน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของทางการอิสราเอล เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความกล้าหาญ
*********************************************************
5. Angkor Wat (นครวัด)
ประเทศกัมพูชา
นครวัด เป็น โบราณสถาน และ ศาสนสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งต่อมาได้หลอมมาเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาพุทธ ถือเป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นเทวสถานถวายแด่พระวิษณุและเพื่อใช้เป็นสุสานของพระองค์เอง มีงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบขอมโบราณที่ยังสมบูรณ์ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และติด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์
*********************************************************
6. Roman Baths
เมืองบาธ ประเทศอังกฤษ
โรมันบาธ เป็นโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ของชาวโรมันยุคโบราณ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 70 ไว้แช่ตัวเพื่อความสะอาดบริสุทธิ์ และดื่มน้ำแร่เพื่อรักษาโรค ปัจจุบันที่นี่ยังคงทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชื่นชม ทั้งโรงอาบน้ำ (ไม่อนุญาติให้ดื่มและอาบ) วัตถุโบราณมากมาย โครงกระดูก รูปปั้นโบราณต่างๆ ซึ่งในอดีตเคยมีหลังคายกสูงคร่อมบ่อน้ำแร่ แต่ภายหลังก็ทรุดโทรมหักพังไปตามกาลเวลา
*********************************************************
7. Aztec Ruins National Monument
รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา
ซากปรักหักพังเหล่านี้ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1859 เคยเป็นถิ่นอาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองแอซเตกส์ (Aztecs) ซึ่งเป็นชนเผ่าอินเดียนที่ไม่ถูกยอมรับจากชนเผ่าอื่นๆ พวกเขาสร้างบ้านขนาดใหญ่มหึมา สูงสามชั้น กว้างกว่าสนามฟุตบอลเสียอีก ด้านในมีห้องรวมกันมากถึง 450 ห้อง และมีบางห้องอยู่ชั้นใต้ดินด้วย
Source : myvouchercodes, boredpanda










