7 เส้นทางเที่ยวชม ดอกไม้ หน้าฝน ถูกใจคนรักธรรมชาติ

แม้หน้าฝนจะเป็นช่วงมรสุม ซึ่งหลายคนคิดว่าไปเที่ยวไหนไม่น่าสนุก แต่หารู้ไม่ว่าเสน่ห์ของฤดูกาลนี้ นอกจากจะเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด หมอกก็เยอะเป็นพิเศษแล้วนั้น ต้นไม้ใบหญ้าก็ดูจะสดชื่นแจ่มใส ดอกไม้หลากสีสัน ก็พากันออกดอกผลิใบให้เราชมกันละลานตา ชวนให้คนชอบเที่ยวธรรมชาติ ต้องออกไปสัมผัส เราขอแนะนำ 7 เส้นทางเที่ยวชม ดอกไม้ หน้าฝน จะงดงามขนาดไหน ไปดูกัน แม้ฝนจะตก เราก็ต้องไปเก็บภาพให้ได้

7 เส้นทางเที่ยวชม ดอกไม้ หน้าฝน
ถูกใจคนรักธรรมชาติ

1. ทุ่งดอกกระเจียว
อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ

ฝนตกโปรยปรายมาพร้อมกับความเขียวสดของดอกไม้ใบหญ้า และธรรมชาติสุดสดชื่น อย่างที่ทุ่งดอกกระเจียว ในอุทยานแห่งชาติไกรทอง ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ดอกกระเจียวมี 2 สี คือ สีม่วงอมชมพู (ดอกบัวสวรรค์) และ ดอกกระเจียวสีขาว (ดอกบัวเทพอัปสร) 

******************************************************************

2. ทุ่งดอกกระเจียว
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ

ต่อจากอุทยานแห่งชาติไกรทอง เราสามารถเที่ยวต่อที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม  ดอกกรเจียวบานสะพรั่งรับหยาดฝนกระจายทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามจนถึงจุดชมวิว ออกดอกเป็นสีชมพูอมม่วงในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณมิถุนายน ถึง สิงหาคมของทุกปี

******************************************************************

3. ดอกเปราะภูขาว
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ขอบคุณภาพจาก : tatcontactcenter

ดอกเปราะภูสีขาว” ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะผลิบานต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้นฤดูฝน แต่ว่าช่วงที่ดอกเปราะภูสีขาวสวยที่สุด คือปลายเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งพร้อมใจกันเบ่งบานไปทั่วลานหินปุ่ม นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังจะได้ชมดอกไม้อีกสารพัน ทั้งดอกเปราะหิน  เอื้องตาเหินไหว ลิ้นมังกร บีโกเนีย และอีกมามายละลานตา

******************************************************************

4. ทุ่งดอกหงอนนาค
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

ขอบคุณภาพจาก TAT Sukhothai fanpage

ทุ่งดอกหงอนนาค นางเอกแห่ง ภูสอยดาว  จะเบ่งบานรอรับนักท่องเที่ยว ประมาณเดือน ส..- .. ของทุกปี โดยมีลักษณะเป็นช่อสีม่วงอ่อน หรือม่วงน้ำเงิน  สีขาว และสีชมพู ซึ่งค่อนข้างหายาก ยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอก และจะบานสะพรั่งเมื่อมีแสงแดด ท่ามกลางป่าสนที่ปกคลุมไปด้วยสายหมอกจางๆ จนได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดของความโรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

******************************************************************

5. ทุ่งดอกเทียนปีกผีเสื้อ
ดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก

ขอบคุณภาพจาก TAT TAK

ว่ากันว่า ดอยหัวหมด คือ จุดชมวิวอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภออุ้มผาง แต่นักเดินทางตัวจริงจะรู้กันดีว่าเมื่อถึงฤดูกาลที่ฝนโปรยปราย ราวเดือนกรกฎาคมกันยายน จะเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นเต็มลานบนยอดดอย เมื่อดอกไม้เล็กๆ นามว่า เทียนปีกผีเสื้อ แตกดอกออกช่อโผล่ขึ้นมาเหนือทุ่งหญ้า เปลี่ยนดอยหัวหมดให้กลายเป็นแดนสวรรค์สีชมพูภายในพริบตา ยิ่งสายลมพัดพาดอกไม้สะบัดไหวไปตามแรงลม ยิ่งทำให้ดูคล้ายผีเสื้อตัวเล็กตัวน้อยกำลังเริงระบำกลางม่านฝน กลายเป็นภาพที่สวยงามน่าดูชม

******************************************************************

6. ทุ่งเปราะภูชมพู
เขตรักษาพันธุ์ป่าภูหลวง จ.เลย

ช่วงต้นฤดูฝน ราวเดือนมิถุนายน บนภูหลวง จังหวัดเลย นั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของดอกไม้ต้นฤดูฝน ซึ่งพากันผลิดอกสวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน เช่น โคกนกกระบาและลานสุริยัน แต่ไกลออกไปในป่าสนบริเวณที่เรียกว่า “แปกดำ” เดินเท้าถึงได้ในเวลาชั่วโมงเศษๆ ที่นั่นดอก เปราะภูสีชมพู (Caulokaempferia violacea) สวยสดกำลังพากันออกดอกสะพรั่งทั้งผืนป่า มีเวลาสวยที่สุดอยู่แค่เดือนเดียว พลาดแล้วต้องรอใหม่ปีหน้าถึงจะมีโอกาสชมอีกครั้ง

******************************************************************

7. ทุ่งดอกปอเทือง บ้านรำแดง จ.สงขลา

ทุ่งดอกปอเทือง สีเหลืองสวยสด บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งนากว่า 300 ไร่ ที่ ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งความจริงแล้วดอกปอเทืองนี้ เป็นพืชปรับปรุงบำรุงดินที่ถูกนำมาปลูกในแปลงนา เพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดช่วยบำรุงดิน เมื่อว่างเว้นจากฤดูทำนา ก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสความสวยงาม และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้

10 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม ออกไปชาร์จพลังกลางปี ฟินแบบไม่กลัวฝน

ถ้าเพื่อนๆ กางปฏิทินดู คงจะเห็นแล้วว่า เดือนกรกฎาคมของปีนี้ มีวันหยุดยาวต่อเนื่องถึง 5 วันด้วยกัน คือวันที่ 27 – 30 กค. 61 เพราะตรงกับ วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 อีกทั้งรัฐบาลยังประกาศให้วันจันทร์ที่ 31 เป็นวันหยุดชดเชยด้วย Travel.mthai เลยขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม สำหรับใครที่อยากวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนกลางปีค่ะ จะมีที่ไหนน่าสนนั้น ดูเลยดีกว่า

10 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม
ออกไปชาร์จพลังกลางปี ฟินแบบไม่กลัวฝน

  1. นาขั้นบันได บ้านป่าปงเปียง จ.เชียงใหม่

นาขั้นบันได บ้านป่าปงเปียง ในช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงดำนา หากไปในยามที่แสงอาทิตย์ตกกระทบกับพื้นนา คุณจะได้ภาพที่สวยงามมากๆ ด้วยวิวท้องทุ่งนาบนเนินเขาสูงบวกกับวิวเทือกเขาสลับซับซ้อน เกิดเป็นจุดชมวิวที่สวยงามน่าชมอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงฤดูฝน และปลายฝนต้นหนาว เป็นช่วงที่เหมาะสมมากกับการมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ และความสวยงามของท้องทุ่งนาเขียวและเหลือง

**************************************************************

  1. น้ำตกคลองลาน จ. กำแพงเพชร

น้ำตกคลองลาน ถือเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของ จ. กำแพงเพชร สายน้ำตกเกิดจากต้นน้ำบนยอดเขาคลองลาน ไหลจากลำห้วยต่างๆ ประมาณ 5 สาย ลงสู่แอ่งน้ำกลางหุบเขา เกิดเป็นวังน้ำลึกและลำน้ำยาวประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วไหลผ่านโตรกผาสูงราว 100 ม. ก่อนตกลงแอ่งด้านล่าง ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ หรือนั่งปิกนิกอยู่รอบน้ำตกก็สดชื่นเหมือนกัน

เหนือหน้าผาน้ำตกเป็นที่ราบกว้าง ในฤดูฝนสายน้ำจะไหลจากลำห้วยต่างๆ ประมาณ 5 สาย ลงสู่แอ่งน้ำกลางหุบเขา เกิดเป็นวังน้ำลึกและลำน้ำยาวประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วไหลผ่านหน้าผาลงมาเป็นน้ำตกคลองลาน สูง 100 เมตร บริเวณใต้น้ำตกเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ซึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้

**************************************************************

  1. เนินช้างศึก จ.กาญจนบุรี

เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินเหนือทะเลอันดามันที่งดงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของสันเขาช้างเผือก ที่เรียงรายสลับซับซ้อนเป็นแนวยาว อากาศเย็นสบายตลอดปี ยิ่งมาช่วงหน้าฝน อากาศยิ่งดี และอาจเจอทะเลหมอกสวย ๆ ด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพมากๆ

**************************************************************

  1. ทุ่งดอกเทียนปีกผีเสื้อ
    ดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก

ราวเดือนกรกฎาคม-กันยายน จะเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นเต็มลานบนยอดดอย เมื่อดอกไม้เล็กๆ นามว่า เทียนปีกผีเสื้อ แตกดอกออกช่อโผล่ขึ้นมาเหนือทุ่งหญ้า เปลี่ยนดอยหัวหมดให้กลายเป็นแดนสวรรค์สีชมพูภายในพริบตา นอกจากดอกไม้ที่ดูคล้ายผีเสื้อตัวเล็กตัวน้อยกำลังเริงระบำกลางม่านฝน ดอยหัวหมด ยังเป็นจุดชมวิวอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภออุ้มผางอีกด้วย

**************************************************************

  1. ดอกเปราะภูขาว
    อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

“ดอกเปราะภูสีขาว” ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะผลิบานต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้นฤดูฝน แต่ว่าช่วงที่ดอกเปราะภูสีขาวสวยที่สุด คือปลายเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งพร้อมใจกันเบ่งบานไปทั่วลานหินปุ่ม นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังจะได้ชมดอกไม้อีกสารพัน ทั้งดอกเปราะหิน  เอื้องตาเหินไหว ลิ้นมังกร บีโกเนีย และอีกมามายละลานตา

**************************************************************

  1. หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช

ออกไปสูดอากาศสดชื่นที่หมู่บ้านคีรีวง ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ตั้งอยู่ในวงล้อมของภูเขา เอกลักษณ์โดดเด่นของที่นี่ก็คือสายน้ำเย็น มีต้นไม้เขียวๆ โอบล้อมรอบตัว  วิถีชีวิตเรียบง่ายแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติ รวมถึงถนนโล่งๆ ที่นานๆ ทีถึงจะมีรถใหญ่ขับผ่าน  เพียงเท่านี้ก็เป็นหมายเชิญชั้นดีที่ทำให้อยากมาคีรีวงแล้ว

**************************************************************

  1. ประเพณีตักบาตรดอกไม้ จ.สระบุรี

ขอบคุณภาพจาก : amazingthaitour

อีกหนึ่งงานบุญที่สืบทอดกันมายาวนาน คือการตักบาตรด้วยดอกไม้หนึ่งเดียวในประเทศไทยและไม่เหมือนใครในโลก เพื่อนำดอกไม้ขึ้นไปบูชารอยพระพุทธบาท กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 25 – 29 กรกฎาคม 2561 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

ขอบคุณภาพจาก : เราฮักสระบุรี

นอกจากพุทธศาสนิกชนจะได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่กับการถวายดอกเข้าพรรษาแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว ยังได้ตื่นตาตื่นใจกับขบวนแห่รถบุปผชาติ พิธีกวนข้าวทิพย์ที่หาชมได้ยาก การแสดงศิลปพื้นบ้าน และการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของคนในชุมชน

**************************************************************

  1. งานประเพณีแห่เทียนพรรษา
    และงานประติมากรรม เทียนนานาชาติ

งานประเพณีแห่เทียนพรรษาและงานประติมากรรมเทียนนานาชาติ จ.อุบลราชธานี จะมีขึ้นในวันที่ 27-28 กรกฏาคม 2561  ความงดงามอลังการของประติมากรรมเทียนพรรษานั้น ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก ต่างพากันมาชมขบวนแห่เทียน และฝีมือแกะสลักอันวิจิตรบรรจงที่ไม่ได้มีแค่ช่างในท้องถิ่นเท่านั้น ไฮไลท์นอกจากนั้นยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม และการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอปของของชาวบ้าน ให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อในราคาย่อมเยา

ขอบคุณภาพจาก thainews.prd

**************************************************************

  1. โครงการหลวงแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน

โครงการหลวงแม่ลาน้อย ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติที่สมบูรณ์ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นหนึ่งในโครงการของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นก็คือ นาข้าวขั้นบันได แล้วยังมีน้ำตกทีราชันย์, น้ำตกทีลอเล, ชมแปลงกาแฟอาราบิก้า พร้อมชิมกาแฟสดรสดีผลิตภัณฑ์คุณภาพจากบ้านห้วยห้อม, ชมการทอผ้าขนแกะ เหมาะสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวายในเมืองกรุง มาใช้ชีวิตเรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าเขา เรียกว่าพักใจสักแป๊ป ก่อนกลับไปเผชิญโลกความจริง

**************************************************************

  1. ล่องแก่งลำภาชีจ.ราชบุรี

สนุกไปกับการพายเรือคายัค ล่องแก่งไปในลำน้ำภาชี แห่งอำเภอสวนผึ้ง ที่ทัศนาคายัค (ก่อนถึงแก่งส้มแมว 5 กม.) ชื่นชมกับบรรยากาศสวย ๆ ของสองฟากฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และนกนานาชนิด ที่ผลัดกันร้องสลับไปมาอย่างไพเราะ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เพลิดเพลินและสนุกมาก เหมาะกับการมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่สุด

เดินชิลล์ ถ่ายรูป ทุ่งดอกเวอร์บีนา สีม่วงสดใส สะพรั่งกลางทะเลหมอก ที่ม่อนแจ่ม

ใครว่าหน้าฝนเที่ยวไหนไม่ได้ ใครว่าหน้าฝนเฉะแฉะอยู่บ้านดีกว่า ถ้าคิดอย่างนั้นอาจพลาสโอกาสชมสิ่งสวยงามๆ อย่าง ทุ่งดอกเวอร์บีนา สีม่วงสดใส ไฮไลท์ยามฝนฟรำที่ม่อนแจ่ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ทุ่งดอกเวอร์บีนา สีม่วงสดใส
สะพรั่งกลางทะเลหมอก ที่ม่อนแจ่ม

เที่ยวเชียงใหม่ ไปได้ทุกฤดูกาลจริงๆ นะ โดยเฉพาะหน้าฝนที่มอบความชุ่มชื้นให้ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ที่นอกจากป่าเขาเขียวขจีแล้ว ดอกไม้ยังพร้อมใจกันเบ่งบาน อวดสีสันสดสวย รวมถึง ทุ่งเวอร์บีนา บนยอดดอยม่อนแจ่มนี้ก็ด้วย ช่วงนี้กำลังม่วงสะพรั่งเต็มภูเขา หวานละมุนราวกับทุ่งลาเวนเดอร์เลยทีเดียว

ท่ามกลางทิวทัศน์ของหุบเขา หมอกขาวที่ลอยฟุ้งปกคลุมทั่วบริเวณ ตัดกับสีม่วงของมวลหมู่ดอกไม้ที่พริ้วไหวตามแรงลม กลิ่นอายของหยาดฝน กับอากาศที่เย็นสบายตลอดวัน บรรยากาศนี่ฟินมากบอกเลย แถมถ่ายภาพออกมาก็แหล่มสุด ><

นอกจากทุ่งเวอร์บีนา นางเอกแห่งม่อนแจ่ม นักท่องเที่ยวยังได้ชมทุ่งดอกบัวดิน ไร่สตอร์เบอร์รี่ แปลงกะหล่ำ และแปลงผักอินทรีย์ ของชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งปลูกเป็นขั้นบันไดลดหลั่นเป็นแถวยาวจนสุดสายตา แล้วยังมีรถฟอร์มูลาร์ม้งให้ขี่ลงเนินกันแบบเสียวๆ อีกด้วย

ถ้าใครเมื่อยก็ไปนั่งพักจิบชา กาแฟ บริเวณซุ้มไม้ไผ่ ที่สร้างเรียงชิดติดกันหลายๆ หลัง พร้อมทอดสายตามองวิวแจ่มๆ ตรงหน้า เห็นขุนเขาสลับซ้อนและธรรมชาติกว้างไกลสุดสายตา

ขอบคุณภาพจาก : เช็คอินเชียงใหม่ Checkin Chiangmai