ร้านอาหาร 17 แห่งคว้ารางวัลดาวมิชลิน ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ฉบับปฐมฤกษ์

ร้านอาหาร 17 แห่งคว้ารางวัลดาวมิชลิน
ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ฉบับปฐมฤกษ์
โดยในจำนวนนี้มีร้านอาหารริมทาง 1 แห่งรวมอยู่ด้วย

มิชลิน เปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ หรือ MICHELIN Guide Bangkok เล่มแรก โดยมีร้านอาหารผ่านการคัดเลือกรวมทั้งสิ้น 98 ร้าน คู่มือเล่มนี้สะท้อนให้เห็นภาพของกรุงเทพฯ ในแง่มุมของความเป็นเมืองแห่งอาหารนานาชาติที่ยังคงรักษารากเหง้าและอัตลักษณ์ของอาหารไทยเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนจากทั่วโลก

ไมเคิล เอลลิส (Michael Ellis) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “การจัดทำคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ ฉบับปฐมฤกษ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของมหานครแห่งนี้ เป็นความภาคภูมิใจของเรา ทีมผู้ตรวจสอบมิชลินต่างประทับใจในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของแวดวงอาหารในกรุงเทพฯ โดยไม่เพียงมีร้านอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายและมีร้านอาหารริมทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยังมีความหลากหลายในการนำเสนออาหารไทยมาในรูปแบบต่างๆ

ร้าน Gaggan (กากั้น)

ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นฉบับปฐมฤกษ์นี้ มีร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรให้ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน จำนวน 3 ร้าน ได้แก่ ร้าน Gaggan (กากั้น) ซึ่ง ‘กากั้น อนันต์’ (Gaggan Anand) เชฟเจ้าของร้านเป็นผู้เนรมิตและนำเสนออาหารอินเดียในมิติที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็น แต่ละเมนูล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่นและแปลกใหม่สร้างสรรค์ ทว่าลงตัว
ทั้งเนื้อสัมผัส รสชาติ และระดับของเครื่องเทศที่พอดี, Le Normandie (เลอ นอร์มังดี) ร้านอาหารซึ่งเปิดให้บริการในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล มาตั้งแต่ปี 2501 โดยนำเสนออาหารฝรั่งเศสชั้นสูงที่ปรุงขึ้นอย่างลงตัวด้วยวัตถุดิบชั้นยอด เทคนิคขั้นสูง ตลอดจนความกลมกลืนของรสชาติและรสสัมผัส และร้าน Mezzaluna (เมซซาลูน่า) ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 65 ของโรงแรมเลอบัว โดยทีมเชฟยอดฝีมือรังสรรค์อาหารสไตล์ยุโรปที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น โดยนำเสนอเป็นเซตเมนูให้เลือกทั้งแบบ 5 และ 7 คอร์ส

ร้าน Le Normandie (เลอ นอร์มังดี)

ร้าน Mezzaluna (เมซซาลูน่า)

นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร 14 ร้านได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน โดย 7 ร้านในจำนวนนี้เป็นร้านอาหารไทยจากฝีมือการปรุงของเชฟชาวไทย สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของอาหารในท้องถิ่นได้อย่างดี อาทิ ร้าน ชิม บาย สยาม วิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ซึ่งนำเสนอสำรับไทยที่ผสานความโบราณและความทันสมัย ตลอดจนความเป็นไทยและเทศ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว, ร้าน โบ.ลาน, ร้าน เสน่ห์จันทร์ ที่นำเสนออาหารไทยต้นตำรับและเมนูที่หาทานยาก อาทิ แกงรัญจวน และร้าน สระบัว บาย กิน กิน (Sra Bua by Kiin Kiin) ซึ่งเชฟปรุงอาหารโดยยังคงรักษาความเป็นไทยในรสชาติและวัตถุดิบ แต่มีการตีความใหม่และรังสรรค์ให้กลายเป็นอาหารสุดครีเอทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารริมทางได้รางวัล 1 ดาวมิชลินอยู่ 1 ร้านด้วย นั่นคือ ร้าน เจ๊ไฝ ที่เชฟเจ้าของร้านปรุงอาหารด้วยเตาถ่านในครัวเปิดขนาดเล็ก โดยสืบทอดกิจการที่รุ่นพ่อได้ริเริ่มขึ้นเมื่อ 70 ปีก่อนและโชว์ฝีมือระดับตำนานด้วยการปรุงเมนูเด็ดอย่างไข่เจียวปู ปูผัดผงกะหรี่ และโจ๊กแห้ง
สำหรับร้านอาหารนานาชาติที่ผ่านการคัดสรรจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ให้ได้รับรางวัล 1 ดาว
มิชลิน ได้แก่ Ginza Sushi Ichi (กินซ่า ซูชิ อิชิ) ร้านซูชิระดับพรีเมียมที่ใช้วัตถุดิบสั่งตรงมาจากตลาดในกรุงโตเกียวทุกวัน, Sühring (เซือริ่ง) ร้านอาหารที่เชฟสองพี่น้อง ‘มาธิอัส’ (Mathias) และ ‘โธมัส
เซือริ่ง’ (Thomas Sühring) พิถีพิถันรังสรรค์เมนูอาหารเยอรมันสไตล์โมเดิร์นในแบบฉบับของตนเองที่โชว์ทั้งลูกเล่น ความคลาสสิก และความใส่ใจในการปรุง รวมถึงร้าน L’Atelier de Joël Robuchon (ลัตเตอลิเยร์ เดอ โจเอล โรบูชง), J’AIME by Jean-Michel Lorain (แฌม บาย ฌอง-มิเชล โลรองต์), Elements (เอเลเมนท์) และ Savelberg (ซาเวลเบิร์ก) ซึ่งล้วนเป็นร้านที่นำเสนออาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย

ในส่วนของรางวัลยอดนิยมในหมู่เชฟและร้านอาหารอย่างรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ซึ่งมอบให้กับร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพในราคาคุ้มค่าไม่เกิน 1,000 บาท มีร้านอาหารได้รับรางวัลประเภทนี้จำนวนทั้งสิ้น 35 ร้าน โดยทีมผู้ตรวจสอบมิชลินได้ออกตระเวนค้นหาอาหารอร่อยหลากหลายประเภทเพื่อมอบรางวัลนี้ให้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารริมทางอย่างร้าน บ้านใหญ่ผัดไทย หนึ่งในร้านผัดไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ หรือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เสิร์ฟความอร่อยให้ลูกค้าติดใจมายาวนาน ไปจนถึงร้านอาหารเก่าแก่ที่นำเสนออาหารไทยรสอร่อย อาทิ ร้าน เจ๊โอว ที่นำเสนออาหารไทยและอาหารทะเลสไตล์พื้นบ้านในบรรยากาศสบายๆ เรียบง่าย โดยมักจะมีลูกค้าต่อคิวรอหน้าร้านเป็นแถวยาวเหยียดแทบทุกวัน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารประเภทอื่นที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ ด้วย อาทิ บ้านใน ร้านอาหารในบรรยากาศบ้านไม้ทรงไทยโบราณที่งดงามล้อมรอบด้วยสวนสวยร่มรื่น ซึ่งให้บริการอาหารไทยต้นตำรับรสชาติกลมกล่อม และร้าน Soul Food Mahanakorn (โซล ฟู้ด มหานคร) ที่นำเสนออาหารไทยสไตล์โมเดิร์น

ที่น่าสนใจก็คือคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ฉบับปฐมฤกษ์นี้ได้คัดเลือกร้านอาหารริมทางจำนวนถึง 28 ร้านลงตีพิมพ์ในเล่ม สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายที่น่าประทับใจของร้านอาหารริมทางในกรุงเทพฯ …มหานครซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของนักเดินทางจากทั่วโลก

ผู้สนใจสามารถคลิกดูข้อมูลรายชื่อร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ในคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ประจำปี 2561 ได้ทางเว็บไซต์ www.guide.michelin.com โดยสามารถเลือกให้แสดงผลได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

จำนวนร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกและจัดอันดับในคู่มือ มิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ’ ประจำปี 2561 ประกอบด้วย

  • ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 3 ร้าน
  • ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 14 ร้าน
  • ร้านอาหารรางวัล บิบ กูร์มองด์ จำนวน 35 ร้าน

 

ร้าน PAUL เอาใจนักชิมมอบส่วนลดสุดพิเศษ

ร้าน PAUL เอาใจนักชิมมอบส่วนลดสุดพิเศษ

01

บัตรเครดิตยูโอบี จับมือร้าน PAUL เอาใจนักชิมมอบส่วนลดสุดพิเศษ

เปิดตัวด้วยมื้อเย็นเอ็กคลูชีฟกระทบไหล่ UOB Dining Ambassador คนดัง ชาคริต แย้มนาม

02

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำแคมเปญ บัตรเครดิตยูโอบี มื้อนี้…ใช่เลย เอาใจนักชิมโดยเฉพาะ ให้เครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 15 % เมื่อใช้คะแนนสะสมเท่ายอดใช้จ่าย ในหมวดร้านอาหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดทางบัตรเครดิตยูโอบีได้ร่วมกับร้าน PAUL ร้านอาหารและเบเกอรี่ชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส เปิดตัวเมนูยอดนิยมทั้ง 6 เมนู ทั้งอาหารคาวและหวาน ที่บรรดานักชิมไม่ควรพลาด โดยมี UOB Dining Ambassador ชาคริต แย้มนาม เป็นตัวแทนในการบอกต่อความอร่อย พร้อมพาชิมเมนูยอดฮิตในร้านอาหารชื่อดังที่ร่วมรายการ

03

04

คุณจิรัฐติกาล ศิริพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่า ผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยูโอบี ส่วนใหญ่จะเป็นในหมวดร้านอาหารเป็นหลัก ทางบัตรเครดิตยูโอบีจึงอยากมัดใจนักชิมโดยเฉพาะ ด้วยการมอบส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมร้านอาหารให้มากยิ่งขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา

ทางบัตรเครดิตยูโอบี ได้ร่วมกับร้าน PAUL ร้านอาหารและเบเกอรี่ชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส เปิดตัวเมนูยอดนิยมทั้ง 6 เมนู โดยมี UOB Dining Ambassador ชาคริต แย้มนาม เป็นตัวแทนในการบอกต่อความอร่อย พร้อมพาชิมเมนูยอดฮิตในร้านอาหาร เริ่มต้นจากเมนู Soupe de jour (ซุป-เดอ-จู) ซุปประจำวันของทางร้านซึ่งในวันนี้เป็นซุปฟักทอง ความนุ่มละมุนลงตัวของฟักทองและครีมนั้นเข้ากันได้ดีจนเป็นเมนูยอดนิยมของทางร้าน ต่อด้วย Salade de la mer (ซาลาด-เดอ-ลา-แมร์) สลัดผัดออแกนิคนำเข้าเสิร์ฟพร้อมกับกุ้งย่าง หอยแมลงภู่ และปลาหมึกยักษ์ ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้าน ตามด้วยเมนูจานหลักอย่าง Loup à la poêle (ลูป-อะ-ลา-ปัวเลอ) ปลากระพงทะเลย่างสุกกำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับผัดโขมและเห็ดผัด ราดซอสครีมเลมอน และโรยหน้าด้วยต้นหอมทอด

05

จากนั้นต่อด้วยเมนูของหวานยอดนิยมของทางร้านโดยเริ่มจาก Millefeuille fraises (มิลเฟย-เฟรส) เมนูที่มีความลงตัวของแป้งพายสูตรเฉพาะ สตรอเบอร์รี่และครีมวนิลาอันเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน, Pure Jee (เพียว-จี) เค้กมูสช็อคโกแลตรสชาติเข้มข้นแต่นุ่มนวลที่สรรค์สร้างขึ้นเพื่อเอาใจคนรักช็อคโกแลตโดยเฉพาะ และ มาถึงของหวานตัวสุดท้าย Religieuse vanilla (เคอลิจิเยอส์-วานิล) นอกจากเอกลักษณ์ของหน้าตาขนมแล้วนั้น ความหอมของเปลือกชูที่ทำจากเนยสดแท้สอดไส้ครีมวนิลานั้น สร้างรสชาติเข้ากันได้ลงตัวเป็นอย่างดี

06

โดย ชาคริต แย้มนาม UOB Dining Ambassador ของยูโอบีและกูรูด้านอาหาร กล่าวว่า “ปกติแล้ว ผมเป็นคนที่ชื่นชอบทั้งการทำอาหารอยู่ที่บ้าน และชอบพาเพื่อนๆ ไปเสาะแสวงหาร้านอาหารอร่อยๆ อยู่เสมอ ซึ่งหากมีตัวช่วยที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชอบทานเป็นชีวิตจิตใจแบบผม ทั้งเรื่องส่วนลดและสิทธิประโยชน์ในร้านอาหารยอดนิยม ซึ่งแน่นอนว่า บัตรเครดิตยูโอบี เป็นบัตรที่เข้าใจการใช้ชีวิตแบบเราได้ดีที่สุด”

และที่สำคัญคือเรื่องสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี เมื่อใช้จ่ายที่ร้าน PAUL ทุกสาขาในประเทศ รับส่วนลด 10% สำหรับเมนู อาหาร เครื่องดื่มและเบเกอร์รี่ ตลอดปี 2560 พร้อมรับ ฟรี Herbal Drink มูลค่า 95 บาท 6 รสชาติ ในช่วงซัมเมอร์ ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 เม.ย. 60 นอกจากส่วนลดและสิทธิพิเศษที่ได้รับจากร้านค้าที่ร่วมรายการ ทางธนาคารยังจัดโปรโมชั่นรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เพียงใช้คะแนนเท่ายอดใช้จ่ายในหมวดร้านอาหารทุกร้านอาหาร ทุกยอดใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศ จำกัดการแลกคะแนนสูงสุดถึง 3,000 คะแนน/เดือน หรือรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 450 บาท/เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. 60 นี้

สำหรับผู้ที่สนใจอยากถือบัตรเครดิตยูโอบี สามารถเข้ามาดูข้อมูลและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่ www.uob.co.th

07

ขอบคุณข้อมูลจาก: Food MThai

 

 

 

 

 

 

Tales of Gold Mine ความอร่อยอยู่ในเหมืองทองคำที่ Groove @CentralWorld

Tales of Gold Mine ความอร่อยอยู่ในเหมืองทองคำที่ Groove @CentralWorld

01

พามากินของอร่อยกันที่ Central World กันอีกแล้ว เรามากันบ่อยมากเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองก็ว่าได้ แต่ถึงแม้มาบ่อยแค่ไหน ร้านใน Central World ก็ยังทานไม่ครบทุกร้าน ยังมีร้านน่าสนใจมากมายหลายอย่าง หนึ่งในนั้นที่เรายังไม่เคยสัมผัส ได้แค่เดินผ่านนั่นก็คือร้าน Tales of Gold Mine บรรยากาศดูลึกลับและน่าดึงดูดให้เดินเข้าไปมากๆ เราเข้าไปดูกันเลยดีกว่าว่าบรรยากาศในร้านจะเป็นอย่างไร และหน้าตาของอาหารจะน่ากินแค่ไหน

Tales of Gold Mine อยู่ในโซน Groove ของCentral World อยู่บริเวณชั้น 1 ตรงทางออกของ Groove ธีมของร้านรับรองว่าไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน ธีมเป็นเหมืองแร่ คอนเซปต์อยู่ที่ชื่อร้านเลยเป็นเหมืองทอง เสมือนที่แห่งนี้เคยมีทองอยู่เต็มไปหมด ในถ้ำหินมีเครื่องมือขุดเจาะ ชุดทำงานของคนเหมือง

02

03

แสงไฟน้อยๆ บวกกับแสงอาทิตย์ที่เล็ดลอดเข้ามาที่กระจกหน้าต่าง แสงกระทบกับเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งในร้านที่เป็นทั้งไม้และเหล็กเก่าๆ ที่จำลองให้เหมือนเป็นสีสนิม กำแพงที่ทิ้งร่องรอยระเบิดและร่องของการขุดเจาะ เป็นการรับประทานอาหารที่มีบรรยากาศแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

04

05

ส่วนเมนูอาหารของที่นี่ เขาบอกมาว่าเป็นอาหารจีน แต่อาหารจีนในที่นี้คืออาหารจีนแบบอินเตอร์ ทุกเมนูมีกลิ่นอายความเป็นจีนแต่รูปลักษณะจะออกเป็นอินเตอร์ ส่วนรสชาติก็ถึงถึงรสถึงเครื่องไม่แพ้หน้าตาสวยๆ ของอาหาร พร้อมเปิดรับความแปลกใหม่ทางด้านอาหารได้เลยค่ะ

06

หมั่นโถวจี่ไส้ หมูสามชั้น 350 บาท

หมั่นโถวจี่ไส้หมูสามชั้น หมั่นโถวที่จี่ร้อนๆ ส่วนไส้เราเลือกได้ มีสามไส้ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น อกเป็ดและเนื้อปลา หากชอบแบบดั้งเดิมก็เลือกสั่งเป็นหมูสามชั้น (หากไม่กลัวความอ้วน)

07

ซี่โครงหมูบาร์บีคิว 450 บาท

08

คีนัวยำปลาแซลมอนมะนาว 450 บาท

09

นาโชเกี๊ยวเนื้อ 220 บาท

10

ปอเปี๊ยะชีสเบอร์เกอร์ 250 บาท

11

ปอเปี๊ยะชีสเบอร์เกอร์ 250 บาท

12

Mix Berries Sour 160 บาท

13

14

15

16

ขอบคุณข้อมูลจาก: Food MThai