หาชมยาก! ภาพชีวิตคนบนเกาะฮาชิมะ เมื่อ 50 ปีก่อน

หาชมยาก! ภาพชีวิตคนบนเกาะฮาชิมะ เมื่อ 50 ปีก่อน

หลายคนคงได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเกาะชื่อดังในญี่ปุ่น เกาะฮาชิมะ โดยเฉพาะเรื่องอาถรรพ์ลึกลับต่างๆ เนื่องจากถูกปล่อยทิ้งร้างมานานกับสิบๆ ปี ซึ่งเมื่อก่อนนั้นเคยเป็นสถานที่ที่มีความรุ่งเรือง คับคั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ผู้คนประกอบอาชีพอุตสาหกรรมถ่านหิน วันนี้ Travel.mthai มี หาชมยาก! ภาพชีวิตคนบนเกาะฮาชิมะ เมื่อ 50 ปีก่อน มาฝากกัน มีคลิปใช้ชมกันด้วย!01

เราจะพาเพือนๆ ไปย้อนชมภาพหาดูยาก ภาพชีวิตคนบนเกาะฮาชิมะ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นภาพฟิลม์ ที่ถูกบันทึกเมื่อเดือนกรกฏาคม ปี 1965 แสดงให้เห็นวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของผู้คนและครอบครัว ซึ่งในช่วงนั้นเกาะนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมากๆ ผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพรียบพร้อม อีกทั้งผู้คนบนเกาะนี้ส่วนใหญ่ทำงาน อุตสาหกรรมถ่านหิน ขุดเหมือง

ดูคลิปเกาะฮาชิมะ: https://www.youtube.com/watch?v=leY1srFr9_s

เกาะฮาชิมะ (Hashima Island) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งห่างจากเมืองนางาซากิ ประมาณ 15 กิโลเมตร ในอดีตเคยรุ่งเรื่องมาก่อน และได้รับชื่อว่า Battleship Island หรือ เกาะเรือรบ มีความโดดเด่นเรื่องทรัพยากรถ่านหิน โดยมีบริษัทมิตซูบิชิเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์

ในช่วงปี ค.ศ. 1887-1974 เกาะนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่น ถือว่าเป็นความหนาแน่นอันดับต้นๆ ของการใช้ชีวิตเมืองบนโลกนี้เลยทีเดียว อีกทั้งทางบริษัทสร้างที่พักอย่างมีมาตรฐานให้กับพนักงาน บนเกาะมีครบทุกอย่างที่เมืองใหญ่พึงมี ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล โรงเรียน ร้านอาหาร ผับ บาร์ พร้อมบริการประชาชนบนเกาะทุกรูปแบบ

02

03

04

ความนิยมในการใช้ถ่านหินจะน้อยลง เนื่องจากมีการใช้น้ำมันเข้ามาทดแทน ไม่มีกำไร มิตซูบิชิก็จำต้องเลิกกิจการ เมื่อบนเกาะไม่มีงาน ประชาชนก็ต่างเริ่มทยอยออกไปทีละกลุ่มจนหมดเกาะ ทิ้งไว้เพียงอาคาร รกร้าง ว่างเปล่า นานวันผ่านไปต้นไม้ ต้นหญ้าก็รกครึ้ม เสียงที่ทำให้เกาะนี้ไม่เงียบจนเกินไปก็มีเพียงเสียงคลื่นซัดฝั่ง เสียงลมหวีดหวิว เสียงนกกาและสัตว์เล็กๆ น้อยๆ บนเกาะ ความเงียบวังเวงเปลี่ยนชื่อเกาะนี้ให้กลายเป็น เกาะผี

ปัจจุบัน ยูเนสโกได้ประกาศให้เกาะฮาชิมะ เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของญี่ปุ่น ถูกจัดเป็นมรดกโลกในกลุ่มของอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน

อ่านเพิ่มเติม: เกาะฮาชิมะ Hashima Island เกาะร้างสุดหลอน ญี่ปุ่น

05

06

07

08

09

10

ขอบคุณข้อมูล: http://travel.mthai.com/world-travel/142782.html

 

 

 

 

 

Blu Monkey Bed & Breakfast โฮสเทลสุดชิค จ.ภูเก็ต

Blu Monkey Bed & Breakfast โฮสเทลสุดชิค จ.ภูเก็ต

Blu Monkey Bed & Breakfast (บลู มังกี้ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์) เป็นโฮสเทลน่ารัก ชิคๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ย่านเมืองเก่า และร้านอาหารขึ้นชื่ออร่อยๆ อีกมากมาย

01

Blu Monkey Bed & Breakfast (บลู มังกี้ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์) ตั้งอยู่ที่ ถ.เยาวราช ย่านสามกอง ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองของภูเก็ต อยู่ห่างจากสนามบินไม่มากนัก อีกทั้งยังใกล้แหล่งท่องเที่ยว และร้านอาหารที่ขึ้นชื่อในเมืองอีกด้วย

02

ที่ บลู มังกี้ เบด แอนด์ เบรคฟาสต์ นี้เป็นโฮสเทลน่ารัก มีห้องพัก 49 ห้อง คือ Standard double bed (นอน 2 คน), Standard twin bed (นอน 2 คน), Triple bed (นอน 3 คน) และ Quad bunk bed (นอน 4 คน เตียง 2 ชั้นแบบหอพัก) ซึ่งห้องพักทุกห้องมีห้องน้ำในตัว อีกทั้งยังรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักคนเดียวด้วย ห้อง Dorme ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ >,<

03

Standard double bed

04

Triple bed (นอน 3 คน)

05

Quad bunk bed (นอน 4 คน เตียง 2 ชั้นแบบหอพัก)

Blu Monkey Bed & Breakfast ออกแบบเรียบง่ายแต่ยังคงความชิคๆ เก๋ไก๋ เน้นสีขาว-ดำ ดูสะอาดตา อาคารและการตกแต่งเน้นแบบโปร่งสบาย สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น เนื่องจากเปิดรับแสงแดดทั่วอาคาร ซึ่งที่นี่อยู่ในเครือเดียวกับโรงแรม โฟโต้ โฮเทล ภูเก็ต ^^

06

เหตุที่ Blu Monkey Bed & Breakfast เรียกตัวเองว่าโฮสเทลก็เพราะว่า ที่นี่ไม่มีห้องประชุม ห้องอาหาร หรือสระว่ายน้ำ แต่ถ้าใครอยากว่ายน้ำ หรืออยากได้สิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า ก็สามารถไปพักที่  Blu Monkey hub and hotel ก็ได้ ที่นี่ก็จะมีความชิค เก๋ไก๋ เพิ่มขึ้นมาอีกระดับ!

 Blu Monkey Bed & Breakfast มีจักรยานให้เช่าด้วยนะฮ้าบ!

07

08

09

10

11

12

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/blumonkeyhotels/, http://www.blumonkeyhotels.com/ และ http://travel.mthai.com/hotel-review/141538.html

 

 

เปิดประตูสู่อีกมุมมองของ การท่องเที่ยวศรีลังกา

เปิดประตูสู่อีกมุมมองของ การท่องเที่ยวศรีลังกา

ประเทศศรีลังกา คือประเทศที่เป็นเกาะซึ่งตั้งอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ในมหาสมุทรอินเดียทางตอนเหนือ โดยมีพรมแดนทางทะเลติดต่อกับประเทศอินเดียทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมัลดีฟส์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทั้งยังมีฐานะที่เป็นประเทศอันมีความสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าเดินทางมาค้นหา ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม

01

อย่างที่เกริ่นว่า ศรีลังกาเป็นประเทศอันมีความสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนาอย่าง ไม่ว่าจะ สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งซึ่งเป็นสถานที่ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และเสด็จปรินิพพาน นั่นก็คือสวนลุมพินีวัน พุทธคยา สารนาถ และกุสินารา นอกจากนั้นยังเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว (พระทนต์) ที่มีอยู่เพียง 2 แห่งในโลก นั่นจึงทำให้ผู้คนมากมายโดยเฉพาะชาวพุทธต่างเดินทางมาแสวงบุญ ณ ประเทศแห่งนี้อยู่เนืองๆ

02

และสำหรับการเดินทางของเราในครั้งนี้ เราจะพาท่านเดินทางสู่ประเทศแห่งจุดกำเนิดของศาสนาพุทธแห่งนี้กัน แต่จุดมุ่งหมายของเรามิได้จะพาทุกท่านไปแสวงบุญแต่อย่างใด เพราะศรีลังกายังมีความน่าสนใจอื่นๆ อีกที่รอให้นักเดินทางจากทั่วโลกได้เปิดประตูเข้าไปค้นหา ซึ่งจุดแข็งของการท่องเที่ยวศรีลังกาที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ

การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและระบบนิเวศที่ยังคงบริสุทธิ์จนอาจเรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติในแบบดิบๆ แต่สวยงามที่หาไม่ได้ง่ายๆ จากที่ใดในโลก อย่างเขตป่าสงวนที่เต็มไปด้วยสารพัดสัตว์ป่าหายาก โดยเฉพาะช้างป่าที่อยู่มากมาย รวมทั้งชายฝั่งทะเลซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังและฝูงปลาหลากสีสัน นอกจากนั้นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างของศรีลังกายังเก่าแก่และโดดเด่นไม่แพ้ชาติไหน อันเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากอารยธรรมสิงหลในอดีตกว่าหลายพันปีมาแล้ว

03

โดยสถานที่แรกที่ควรไปเยือนหากใครมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศศรีลังกา ก็คือ เมืองโคลัมโบ ซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้เมืองแห่งนี้คือแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของศรีลังกาที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

จากนั้นจึงค่อยมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางภาคตะวันตกเพื่อพักผ่อนริมชายหาดอันเงียบสงบและสวยงาม ทั้งนี้ศรีลังกายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย อย่างเช่นเมืองเก่า อุทยานแห่งชาติอันเต็มไปด้วยสัตว์ป่า เมืองน่ารักแห่งชายฝั่งทางทิศใต้ ไร่ชาบนภูเขาสูงชัน หมู่บ้านวัฒนธรรมของชาวสิงหล เป็นต้น

04

โดยศรีลังกาได้แบ่งหมวดหมู่ของกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามความชอบของนักท่องเที่ยวแต่ละคนเอาไว้ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่คงความงามบริสุทธิ์แบบธรรมชาติแท้ๆ แหล่งมรดกโลก กิจกรรมโลดโผนผจญภัย เขตป่าไม้ ความสุขและการผ่อนคลาย จุดชมวิว แหล่งพืชผลทางการเกษตร และงานเทศกาลสำคัญต่างๆ

05

เมื่อไหร่ที่ควรไปศรีลังกา ..?  เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของศรีลังกานั้น ค่อนข้างมีความสลับซับซ้อนมากกว่าประเทศอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงประเทศซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ก็ตาม แต่ก็ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากนัก คืออยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรประมาณ 500 ไมล์ จึงทำให้ที่นี่มีสภาพอากาศอุ่นชื้นและค่อนข้างร้อนเกือบตลอดทั้งปี

โดยเฉพาะในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ส่วนบริเวณที่ราบสูงตอนกลางนั้นอากาศจะค่อนข้างเย็นกว่า และมีฝนตกชุกในช่วงฤดูมรสุม อย่างไรก็ตาม จากผลของสภาวะโลกร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้สภาพอากาศของที่นี่แปรปรวนและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

06

สำหรับสภาพอากาศในบริเวณพื้นที่ทางทิศตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ รวมถึงบริเวณชายฝั่ง และบริเวณพื้นที่ที่เป็นเทือกเขาสูง ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนกันยายนของทุกปีคือช่วงฤดูมรสุม และมีฝนตกชุกที่สุดในเดือนเมษายน – มิถุนายน ในขณะเดียวกัน ทางด้านชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกนั้น ฤดูมรสุมของที่นี่จะค่อนข้างมีความรุนแรงน้อยกว่าอีกฝั่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี และมีฝนตกชุกมากที่สุดในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเยือนศรีลังกาคือ ในเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมทางภาคตะวันตกและภาคใต้ รวมถึงบริเวณชายฝั่งและภูเขา ส่วนชายฝั่งทางด้านตะวันออกนั้นสภาพอากาศจะดีที่สุดในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนนั่นเอง

ข้อมูลจาก: มัชรูมทราเวล

07

08

SONY DSC

เปิดประตูสู่อีกมุมมองของ การท่องเที่ยวศรีลังกา

10

11

ขอบคุณข้อมูล: http://travel.mthai.com/world-travel/82389.html