สูตร เลมอนทาร์ต ขนมหวานที่ค่อนไปทางเปรี้ยว กินแล้วจี๊ดจ๊าดถึงใจ

กินของว่างอย่างไรให้ดูชีวิตดี๊ดี ต้องหาเค้กสำหรับไว้จิบชาร้อนๆ ยามบ่าย ไม่มีอะไรเหมาะกว่า เลมอนทาร์ต หวานๆ อมเปรี้ยว กินเสร็จแล้วกลั้วปากด้วยชาร้อน นั่งดูวิวข้างๆ หน้าต่าง สำหรับคนที่อยากลาพักร้อนไปจิบชาในคาเฟ่สวยๆ ตามต่างจังหวัด แต่ไม่มีวันลาว่างเหลืออยู่เลย วันหยุดสั้นๆ นี้ แนะนำให้ทำทาร์ตกินเอง รับรองว่าไม่ยาก หากทำอร่อยก็สามารถนำไปทำเป้นอาชีพเสริมได้

สูตร เลมอนทาร์ต

ส่วนผสม ส่วนที่ 1 แป้งทาร์ต

  • แป้งสาลีอเนกประสง์ 1 ถ้วย
  • ผงอัลมอนด์ 1/4 ถ้วย
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ชอร์ตเทนนิ่งน้ำมันรำข้าว 40 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร (*ทยอยใส่ทีละนิด)
  • ถั่วแดง สำหรับรองอบแป้งทาร์ต

ส่วนผสม ส่วนที่ 2 เลมอนทาร์ต

  • น้ำเลมอน 200 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ผิวเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  • เจลาติน (ละลายน้ำ) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผิวมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ เลมอนทาร์ต

1. ผสมของแห้งให้เข้ากันก่อน โดยผสม แป้งสาลี ผงอัลมอนด์ และเกลือ คนให้เข้ากัน

2. ใส่ชอร์ตเทนนิ่งน้ำมันรำข้าวลงไป จากนั้นก็ใช้มือสะอาดๆ ขยำให้เข้ากัน จากนั้นก็เทไข่ไก่แล้วนวดจนแป้งเริ่มเกาะตัวกันเป็นก้อน

3. เติมน้ำลงไปทีละน้อย เพื่อให้แป้งนวดง่ายขึ้น

4. นวดเสร็จแล้วก็ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ จากนั้นก็นำไปคลึงให้แบน โดยโรยแป้งนวลลงไปบนถาดก่อน คลึงให้แป้งบางเท่าๆ กัน

5. ใช้ไม้คลึงแป้ง ม้วนแป้งขึ้นไปวางบนแม่พิมพ์ แล้วใช้มือกดๆ ให้แป้งติดกับแม่พิมพ์ จากนั้นก็ใช้นิ้วกดที่ขอบเพื่อให้แป้งส่วนเกินขาดออก จนแป้งพอดีกับแม่พิมพ์

6. ใช้ช้อนส้อมจิ้มไปทั่วๆ แป้งทาร์ต จากนั้นก็นำฟอยล์คุลมและวางทับด้วยถั่วแดง เพื่อให้แป้งเรียบเสมอกันตอนที่อบ ใช้ความร้อนอยู่ที่ 20 องศา ใช้เวลา 30 นาที

7. ตั้งหม้อกวนน้ำเลมอนกับน้ำตาล ใส่เกลือเพื่อตัดความเปรี้ยว ขูดผิวเปลือกเลมอนลงไปเพื่อความหอม จากนั้นก็เคี่ยวจนเข้ากัน

8. ใส่ไข่แดง แป้งมัน และเจาติน คนจนเจลาตินละลาย จากนั้นก็ใส่เปลือกมะนาวลงไปอีกครั้งเพื่อเสริมความหอมให้กับเลมอนที่ขั้นหนึ่ง

9. นำส่วนผสมของเลมอนเมใส่แป้งทาร์ต เคาะเอาฟองอากาศออกเล็กน้อย จากนั้นก็นำไปแช่ตู้เย็น 4 ชั่วโมง

มารู้จักกับเม็ดสาคูแท้ๆ ที่เรากินมันเป็นแค่แป้งมันสำปะหลัง

สาคูเม็ดใสๆ ด้านในเป็นไต และเหนียวเป็นก้อน ที่เรากินไม่ว่าจะเป็น สาคูเปียกน้ำกะทิสาคูไส้หมู ล้วนแล้วเป็นเม็ดสาคูที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง ที่วางขายตามตลาดทั่วไป ให้แม่ขายแม่ขายเอามาต้มเพื่อทำขนม จนเราคิดไปเองว่า เม็ดสาคูก็คือเม็ดสาคู มันจะมีเม็ดสาคูอื่นได้อีกได้อย่างไร

มารู้จักกับเม็ดสาคูแท้ๆ ที่เรากินมันเป็นแค่แป้งมันสำปะหลัง

เม็ดสาคูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่แม่ค้าจะหาซื้อเพื่อทำขนม เพราะสาคูที่มาจากต้นสาคูแท้นั้น หายากมาก มีเฉพาะทางภาคใต้เท่านั้น มันคือสาคูที่ได้จาก“ต้นปาล์มสาคู” ที่มีอายุ 8-10 ปี ด้วยความที่ต้นนี้หาได้แค่ภาคใต้และยังต้องรออีกหลายปีถึงจะโคนต้นเพื่อขูดเนื้อเอามาทำเม็ดสาคู จึงเป็นเรื่องที่ยาก ในยุคหลังๆ จึงต้องใช้มันสำปะหลังทดแทนกัน ถือว่าทำจากธรรมชาติเหมือนกัน สาคูที่เรากินอยู่ สามารถกินได้ ไม่อันตรายค่ะ

ต้นปาล์มสาคู

วิธีแปรรูปจากต้นปาล์มสาคูมาเป็นเม็ดสาคู

การแปรรูปต้นสาคูเป็นแป้งสาคู โดยภูมิปัญญาของเกษตรกรบ้านสากเหล็ก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะทำการนำต้นสาคูมาตัดเป็นท่อนๆ ท่อนละ 1/2 เมตร แล้วนำต้นสาคูตั้งตรงเป็นครกไม่ต้องปอกเปลือก ใช้สากตำให้ละเอียด จากนั้นจะได้สาคูออกมาเป็นผงๆ สีน้ำตาลต้องทยอยตักออกเมื่อตำละเอียดแล้ว นำเอาผงสาคูที่ได้จากการตำละเอียดนั้นมาคั้นน้ำ (เหมือนคั้นน้ำกะทิ) แล้วกรองด้วยเครื่องร่อนแป้ง จะได้ส่วนที่เป็นแป้งสาคูตกตะกอน และส่วนน้ำที่ได้ เรียกว่าน้ำฝาด (นำมาคั้นน้ำ ซ้ำประมาณ 3 ครั้ง) จนเป็นเนื้อสีขาว ทำการรินแยกน้ำฝาดออกจากแป้งสาคู แยกเอาแต่แป้ง ล้างจนน้ำใส จากนั้นจะได้เนื้อแป้งเป็นสีขาว เอาผงแป้งสีขาวมาตากแดด ประมาณ 2 วัน จนแป้งแห้งสนิท เก็บแป้งไว้ในกระสอบสะอาดหรือถุง แบ่งตามเกรดความหยาบ และความละเอียด เพื่อนำไปจำหน่ายหรือทำขนม เช่น ลอดช่อง ขนมกวนขี้มัน ฯลฯ (บทความจาก Rakbankerd.com)

Velo Cafe ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ฮอตในหมู่คอกาแฟของหัวหิน

ร้านกาแฟเล็กๆ บนถนนแนบเคหาสถ์ Velo Cafe ร้านขนาด 1 คูหา แต่เป็นร้านกาแฟที่ฮอตฮิตของหัวหิน ที่ผู้คนพูดถึงและแนะนำกันอยู่เสมอ ถ้าใครมีโอากาสมาเที่ยวที่หัวหิว ลองเข้ามาแวะสั่งขนมและกาแฟทาน ด้านในที่นั่งไม่เยอะ มีบาร์ให้นั่งสำหรับ 6-7 ที่ และโต๊ะเล็กๆ ภายในร้านอีก 3-4 โต๊ะ เป็นร้านกาแฟที่ถือว่าเปิดเช้ามากๆ สำหรับคนที่ตื่นมาจากที่พักเช้าๆ หากาแฟร้อนทาน

Velo Cafe ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ฮอตในหมู่คอกาแฟของหัวหิน

เมนูที่ทานคู่กับกาแฟ เขาว่ากันว่าต้องสั่งเอแคลร์ และแซนวิชอบ แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เลยเลือกแซนวิชแล้วกัน รสชาติอร่อยผิดคาด ไม่ได้เป็นเหมือนแซนวิชทั่วไป ให้ไส้เยอะ ตัวขนมปังจะเหมือนทุกเอาไปปิ้งก่อน กัดแล้วกรอบๆ นุ่มๆ กินคู่กับกาแฟแล้วเข้ากัน

ที่ตั้ง : ร้านตั้งอยู่บนถนนแนบเคหาสน์ หน้าหัวหินเพลสเกสเฮาส์ ตำบลหัวหิน อำเภอ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
เวลาเปิด-ปิด : 07.00-17.00 น. (ปิดวันพฤหัส)
เบอร์โทร : 080-282-5156