เมนู หมูย่างมิโซะ เมนูอร่อยรูปร่างดี

สูตรเด็ดเคล็ดลับ food.Mthai ตอนรับเดือนธันวาคมนี้ กันด้วย เมนูอร่อยรูปร่างดี (Chef in Shap) เพื่อในปีหน้า เราจะได้มีรูปร่างดี ร่างกาย แข็งแรง ตอนรับปีใหม่ที่จะมาถึงกันอย่างเต็มที และแข็งแรงไปตลอดปี กันด้วย เมนูเด็ดๆ ไม่จำเจ โดยตอนรับเมนูแรกกันด้วย หมูย่างมิโซะ

โดยมีส่วนผสมในการทำ หมูย่างมิโซะ สำหรับ 1 ที่

– สั้นนอกหมูไม่ติดมัน (หั่นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม.)                       120                   กรัม
– มิโซะ                                                                                       1                   ช้อนโต๊ะ
– กระเทียบสับละเอียด                                                                  1                   ช้อนโต๊ะ
– ขิงแก่สับละเอียด                                                                       1                   ช้อนโต๊ะ
– น้ำฝึ้ง                                                                                       1                   ช้อนโต๊ะ
– น้ำมัมงา                                                                                    1                   ช้อนโต๊ะ
– นมข้นจืดสำหรับหมัก                                                                1/4                  ถ้วย
– น้ำเปล่าสำหรับน้ำราด                                                               1/4                  ถ้วย
– ผักสลัด (ตามใจชอบสำหรับเสิร์ฟคู่กัน)

หมูย่างมิโซะ

วิธีทำ หมูย่างมิโซะ ที่ไม่ง่ายและไม่ยากจนเกินไปนัก

1. ใช้ค้อนทุบเนื้อหมูให้ที่วทั้งสองด้าน และพักไว้
2. โขลกกระเทียมพร้อมขิงให้ละเอียด นำไปผสมกับนมข้นจืด น้ำผึ้ง น้ำมันงา และ มิโซะ แล้วเคล้ากับเนื้อหมูให้ทั่วนำไปแช่เย็นนาน 2 ชม. หรือ 1 คืน
3. ย่างเนื้อหมูด้วยไฟกลางบนกระทะให้สุกทั้งสองด้าน จึงตักขึ้นพักไว้
4. นำน้ำหมักที่เหลือเทใส่กระทะใบเดิม แล้วเติมน้ำ เคี่ยวด้วยไฟกลางให้ข้นขึ้นเล็กน้อย และปิดเตา
5. จัดเนื้อหมูและผักสลัดใส่จาน ราดน้ำซอสที่ปรุงไว้นั้น ก็เป็นอันเสร็จยกเสิร์ฟได้เลย

เคล็ดลับรูปร่างดี จากเมนู หมูย่างมิโซะ นี้ คือ ผสมผสานรสชาติระหว่างขิงและมิโซะ ทำให้ได้เมนูย่างที่หอมต่างจากสูตรอื่นๆ เหมาะสำหรับรับประทานเป็นมื้อกลางวัน หรือวันที่ต้องทำกิจกรรมมากๆ

*หมูย่างมิโซะ จานนี้ ให้พลังงานทั้งหมด 416 กิโลแคลลอรี ,คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม, โปรตีน 30 กรัม และไขมัน 28 กรัม

เลเทส เรซิพี (Latest Recipe) กับเทศกาล อาหารฝรั่งเศส เลิศรส

วันนี้ตามรอยนักชิมของเรา นำโดยน้องเต้ตามรอยฯ จะพาเพื่อนๆ พี่ๆ สมาชิกชาว MThai ไปชิมอาหารฝรั่งเศสบนชั้น 2 ของโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ (Le Meridien Bangkok) ซึ่งเป็นห้องอาหารเลเทส เรซิพี (Latest Recipe) ห้องอาหารที่ตกแต่งสวยงาม น่านั่ง และที่แน่นอนคือ รสชาติอาหารถูกปากคนไทยแน่นอน และช่วงนี้เป็นเทศกาลอาหารฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2555 นี้เท่านั้น ในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์ ราคาถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับอาหารและบรรยากาศต่างๆ แล้วนับว่าคุ้มค่ามากๆ ครับ

le 1

ป้ายห้องอาหาร Latest Recipe โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ

ห้องอาหารเลเทส เรซิพี (Latest Recipe) เป็นห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ที่มีให้เลือกตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อย เช่น สลัด ซูชิ ซาซิมิ และซีฟู้ดสดๆ จากทะเล นอกจากนี้ยังมีอาหารไทย เมนูปิ้งย่าง ส้มตำ ปิ้งๆ ย่างๆ เมนูอิตาเลียน เมนูเกาหลีเพียบ เรียกว่าไลน์อาหารเยอะมาก เลือกทานได้ไม่หวาดไม่ไหวจริง และพิเศษช่วงเทศกาลอาหารฝรั่งเศส ทางห้องอาหารเปลี่ยนมุมหนึ่งเนรมิตให้เป็นมุมเทศกาลอาหารฝรั่งเศส มีเมนูไฮไลท์ที่คิดค้นโดยหัวหน้าเชฟมือหนึ่งของโรงแรม เช่น เอสคาโก้อบผักขม, เป็ดอบซอสตับห่าน, แรททาทูอี้ (คุ้นๆ ม่ะ) และอย่างอื่นอีกมากมาย นอกจากนี้ของหวานแนะนำก็มี มาการูน ชูครีม พัฟโลว่า (เมอร์แรงก์) เป็นต้น

เชฟ ตั้งใจทำอาหารสุดๆ เพื่อลูกค้าจะได้ทานอาหารที่อร่อย และได้ความสดของอาหารจริงๆ เนื่องจากทำให้ทานกันเป็นจานๆ ไม่ได้ทำทิ้งไว้ อันนี้เป็นมุมพาสต้าและเทปันยากิครับ

le 2

le 3

อาหารแนะนำ

le 4

พาสต้าเส้นดำทะเลรสชาติจัดจ้านสำหรับคนที่ชอบรสจัดสั่งทำสดๆรอประมาณ 2 นาทีได้ชิมแน่นอน

le 5

ของแปลกอันนี้คืออะไรเอ่ย ต้องหยิบมาลอง

le 6

แกะออกมาแล้วเป็นปลานึ่งพร้อมปรุงรสอย่างดี กลิ่นหอมฉุย

le 7

ใครต้องการทานเป็นชุดก็สั่งได้ พร้อมเสิร์ฟถึงโต๊ะเลยครับ

le 8

ขนมปังฝรั่งเศส ห่อด้วยผ้าอย่างดี สวยงามน่ารับประทาน

le 9

อันนี้เป็นอีกเมนูแนะนำ สำหรับอาหารฝรั่งเศส ที่เป็นไฮไลท์สำหรับเดือนนี้ – 10 ธันวาคม 2555 เท่านั้น

นอกจากจะเป็นอาหารตามเทศกาล อย่างอาหารฝรั่งเศสแล้ว ทางห้องอาหาร เลเทส เรซิพี ยังมีมุมอาหารไทย ญี่ปุ่น เกาหลีอินเดียอีกมากมาย เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ

le 10

มุมซีฟู้ด กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ มีให้เลือกปิ้งย่าง ตามสั่ง

le 11

มุมอาหารไทยๆ ทั้งส้มตำ น้ำตก ยำต่างๆ หาได้ที่มุมนี้ครับ

le 12

อีกมุมหนึ่งที่เชฟทำอาหารให้ดูกันแบบครัวเปิด มองเห็นกรรมวิธีการทำทุกขั้นตอน

le 13

มุมสุขภาพสำหรับคนขอบทานผัก สลัดต่างๆ หาได้ที่มุมนี้

le 14

Seafood On Ice เป็นอาหารทะเลบนน้ำแข็ง สไตล์ฝรั่งเศส แต่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยๆ เราด้วย

le 15

มุมซาซิมิ ปลาดิบต่างๆ ทั้งแซลม่อน ปลาหมึก เลือกได้ที่นี่

le 16

พลาดไม่ได้สำหรับคนชอบหมูในรูปแบบต่างๆ

le 17

บรรดาอาหารต่างๆ โดยรวมๆ เยอะมาก นี่แค่มุมเดียวนะครับ

le 18

มุมขนมปังฝรั่งเศสและขนมต่างๆ เยอะจริงๆ

le 19

อาหารไทยๆ เราก็มีอย่างเช่น ซี่โครงหมูมันฝรั่ง

le 20

ไก่คาริปเบี้ยนสัปปะรด

le 21

เนื้อตุ๋นซอสพุดดิ้ง

le 22

และพลาดไม่ได้เลยกับเมนูนี้ ลิ้นวัวตุ๋น นุ่มมากๆ

มาดูมุมของหวานกันบ้างครับ ที่นี่มีของหวานมากมาย ทั้งขนม ทั้งผลไม้ตบท้าย สำหรับย่อยอาหาร ที่นี่เขาแนะนำว่า ต้องทาน เอแคร์ให้ได้ครับ ที่สำคัญที่นี่เขาจัดวางให้เป็นรูปทรงสูง แปลกๆ และเป็นจุดเด่นของที่นี่เลยครับ

le 23

มุมของหวานนานาชนิด

le 24

ซาวารินเค้ก (Savarin Cake) เป็นเค้กหอมนุ่ม ไม่หวานจัด ท็อปปิ้งด้วยผลไม้รสเปรี้ยวนิดๆ เพื่อกลบความหวานของเค้ก ทำให้ได้รสชาติที่เข้ากันมาก

ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มต่างๆ เช่น สมูทตี้, ชา, กาแฟ สั่งได้ที่นี่ครับ

le 25

สำหรับมุมนี้ เป็นอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อ Tempo ครับ

le 26

งานนี้น้องเต้ตามรอยฯ รับประกันความอร่อยเช่นเคยครับ พลาดไม่ได้ กับบุฟเฟ่ต์เลิศรส ราคาไม่แพงเกินไป และคุ้มค่าคุ้มราคาในย่านสุรวงศ์ สีลม ก็ลองแวะหาทานได้ที่ ห้องอาหารเทเลส เรซิพี ชั้น 2 โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ แล้วพบกับ ตามรอยนักชิมได้ใหม่ในร้านหน้า “อร่อยจริงเจอกัน”

พิเศษสำหรับสมาชิก MThai.com

ลุ้นรับรางวัล Gift Voucher มูลค่า 2,200 บาท จำนวน 4 รางวัล เพียงตอบคำถามง่ายๆ ลงในเว็บบอร์ด แล้วส่งชื่อ ที่อยู่ เพื่อลุ้นรับรางวัล มาที่ food@mthai.com ใส่หัวเรื่องว่า “กิจกรรมห้องอาหารเทเลส เรซิพี” เท่านั้น หมดเขตทำกิจกรรม วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 นี้เท่านั้น ประกาศผล วันที่ 3 ธันวาคม 2555

คำถาม

1. ห้องอาหารเทเลส ตั้งอยู่ที่ไหน?
2. ถ้าท่านได้รับ Voucher ท่านจะไปทานอาหารกับใคร เพราะอะไร?

ข้อมูลห้องอาหารเทเลส เรซิพี

ที่อยู่ 40/5 Surawong Road, Bangrak,Bangkok, 10500
โทรศัพท์: (66)(2) 232 8888
เปิดบริการ: 12.00 – 14.30 น.
ราคา : 599 บาท ++ (มื้อกลางวัน) และราคา 800 บาท ++ (สำหรับซันเดย์ บรันซ์)