มูโซะ (Muso) บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นแสนอร่อย

สวัสดีแฟนๆ ตามรอยนักชิมทุก ท่านครับ หลังจากที่มีเสียงโหวตกันเข้ามาอย่างล้นหลามไม่ว่าจะเป็นทางอีเมล์หรือคอม เม้นว่าต้องการให้ช่วยแนะนำร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์อร่อยๆ อย่างร้าน SpecialK อีก”วันนี้มาเฟียฟู้ดเรา”จัดให้” แต่เปลี่ยนแนวหันมาลิ้มลองเป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นกันบ้างนะครับ…กับร้านนามว่า  มูโซะ Muso (ยากิ-ชาบู-ซูชิ) ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในซอย ถ.เศรษฐศิริ ข้างโรงพยาบาลวิชัยยุทธ (พระราม6) นี่เอง ซึ่งราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิดครับ….แถมรสชาติยังอร่อยขั้นเทพอีกต่างหากว่าแล้วก็ตามไปชมพร้อมๆ กันเลย

1

ถึงแล้วครับ! ภายนอกร้านนั้นดูใหญ่โตจริงๆ พร้อมที่จอดรถประมาณ 10 กว่าคัน

2

บรรยากาศภายในร้านดูเรียบง่ายอบอุ่นสบายๆ เป็นกันเองสะอาดสะอ้านตาตกแต่งในสไตล์ของญี่ปุ่นและผสมผสานความเป็นไทยๆ อยู่ด้วย ส่วนพนักงานที่ร้านมูโซะ (Muso)บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นก็มีจำนวนค่อนข้างมากและบริการดีอย่างทั่วถึงครับ นั่งสั่งอย่างเดียว…พนักงานเสิร์ฟถึงที่เร็วทันใจ ใครที่ชอบปิ้งย่างหรือยากินิคุก็เชิญโซนทางด้านซ้ายมือครับ

3

ใครที่ชอบซดน้ำซุปร้อนๆ หอมกลมกล่อมชุ่มคอต้องไม่พลาดที่จะมาลองลิ้มชิมรสชาติของชาบู ( Shabu) เชิญโซนด้านขวามือเลยจ้า

4

ลุยกันเลย!…พี่น้องตามรอยนักชิมทั้งหลาย พร้อมกันรึยัง

5

จุดเด่นของร้าน มูโซะ (Muso)บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ข้อแรกก็อยู่ตรงที่ ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งมีทั้งยากินิคุและชาบูรวมอยู่ในร้านเดียวกันให้เลือกทานอย่างจุใจต่อ มาคือ ความใหม่สดสะอาดของวัตถุดิบพร้อมน้ำจิ้มญี่ปุ่นรสเด็ดอันเป็นเอกลักษณ์ที่มี กลิ่นอายความเป็นไทยนิดๆ รับรองว่าถูกปากนักเชียว

6

และสุดท้ายคือ ราคาไม่แพงครับ สำหรับฝั่งบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง ยากินิคุ (Yakiniku) เพียง 399 บาท/ท่าน และ บุฟเฟ่ต์ชาบู (Shabu) เพียง 299 บาท/ท่าน (จำกัดเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที)นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเป็นเมนูพิเศษที่ต้องจ่ายต่างหากได้อีก เช่น เนื้อคาลบิย่าง,เนื้อวากิว (เนื้อนำเข้า) ซึ่งจากการที่ตัวผมได้ไปทานมาส่วนตัวรู้สึกชอบราคาก็ถือว่าไม่แพงสมเหตุสมผลดีครับ

7

ส่วนความเป็นมาของร้าน มูโซะ บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น นั้นเริ่มต้นจาก”ความคิดสนุก“ของคุณ ตุ๊ก (เจ้าของร้าน) ที่เดิมทีได้เปิดร้านอาหารไทยครัวสวนกุหลาบอยู่ แล้ว โดยพี่เค้ามีความเชี่ยวชาญด้านอาหารไทยมามากกว่ากว่า 50 ปี จนในปัจจุบันอยากที่จะริเริ่มทำร้านอาหารด้านอื่นๆ บวกกับความนิยมของคนในครอบครัวที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นประเภทยากินิคุและชาบูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ริเริ่มเปิดร้านโดยได้นำเอาชื่อพันธุ์ดอกกุหลาบชนิดหนึ่งมาตั้งเป็นชื่อร้านนั่นก็คือ มูโซะ (Muso) นั้นเองล่ะจ้า

8

จัดหนัก! ตามธรรมเนียมตามรอยนักชิม

เมนูแนะนำยอดฮิต

9

เริ่มต้นกันที่เนื้อติดมันคุณภาพสูงนำเข้าจากออสเตรเลีย ที่เมื่อนำลงไปปิ้งย่างในเตาถ่านไร้ควันที่ให้ความร้อนสูงแล้วจะส่งผลให้ตัวเนื้อนั้นสุก เร็วกว่าปกติ ส่วนเคล็ดลับของการย่างเนื้อสัตว์ให้อร่อยคือ ต้องย่างให้ผิวภายนอกสุกและพยายามให้เนื้อภายในเกือบสุก ด้วยวิธีนี้รสชาติที่ได้ก็จะเหนียวนุ่มลิ้นหวานไม่กระด้าง หอม อร่อย น่าทานป็นอย่างมากครับ

10

หมูสัน หนานุ่ม รสชาติเยี่ยมไม่ผิดหวัง!

11

หมูติดมัน แผ่นกลมโต…ใหญ่สะใจ

12

ไก่หมัก รสชาติเข้มข้นภายใน1ถาดมีมาให้หลายชิ้นทีเดียว

13

กุ้งเนื้อแน่น หิวจัด! มือสั่นซะงั้น

14

พิเศษ! แซลม่อนหมักเนยสดๆ ร้อนๆ ที่นี่เค้าก็มีไว้บริการให้ด้วยครับ แค่นำลงเตาและจากนั้นก็รอ..หม่ำ!

15

ออเรนจิ (Orange chi) หรือ เห็ดญี่ปุ่น ขาวนวลหวานนุ่มกรอบอร่อย

16

ซันจุหรือสลัดญี่ปุ่นรสชาติออกเปรี้ยวหวานกำลังดีเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการักษาหุ่นและสุขภาพ

17

ข้าวผัดกระเทียมญี่ปุ่นหอมฉุยเตะจมูกมาแต่ไกลทานคู่กับเนื้อย่างยากินิคุเข้ากันได้เป็นอย่างดีทั้งตัวข้าวญี่ปุ่นที่เหนียวนิ่มหนึบบวกกับเนื้อติดมันร้อนๆ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด งานนี้ความอร่อยจะไปไหนเสีย…สุดยอด!

18

ว้าว…แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้วนะเนี่ย!

19

ภายในฝั่งชาบูเองก็จะมีเมนูให้เลือกสรรมากมายพอตัวครับ เรียกว่าสมราคา 299 จริงๆ เช่น เนื้อติดมัน,หมูสับ,เส้นอูด้ง,วุ้นเส้นญี่ปุ่น,เมนูผักรวม ฯลฯแต่ของเด็ดจริงๆ จะอยู่ที่ เมนูลูกชิ้นแซลม่อน ครับที่ mafia food ของเราการันตีว่าอร่อยเข้าเส้นขึ้นสมองกันเลยทีเดียว (อย่าลืมสั่งมาชิมกันนะจ้ะ)

20

หอมอร่อยด้วยน้ำซุปหอมกลิ่นปลาโอญี่ปุ่น พร้อมน้ำจิ้มงารสชาติจัดจ้าน โดย คุณตุ๊ก (เจ้าของร้าน) จะสั่งและคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่มีคุณภาพเพราะฉะนั้นคุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากที่อื่นได้จริงๆ หรือแม้กระทั่งตัวหัวไชเท้าฝอยเองเค้าก็ทำใหม่ทุกวัน มั่นใจได้เลยครับว่า สดใหม่ (เค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ)

21

เอ้า!… หม่ำซะน้า Mthai

นอกจากนี้ทางร้านมูโซะ (Muso)บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเค้าก็ยังมีของหวานน่ารักๆ หลากหลายเมนูที่ทำเองเอาไว้ตบท้ายล้างกลิ่นของคาวกันอีกด้วย (แต่ไม่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์นะจ้ะ) ไปชมกันเลย!

22

เมนูที่กำลังจะทำออกมาจำหน่ายให้ได้ชิมกันในเร็วๆ นี้มีชื่อว่า โรลชาเขียวถั่วแดง สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่ง ทีมงานเราโชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้ชิมก่อนใครเพื่อนเลย หอมกลิ่นชาเขียวแท้ๆ ไม่หวานและเลี่ยนจนเกินไป ทุกอย่างกำลังดีครับ พอยิ่งตักเข้าใกล้ไส้ถั่วแดงที่อยู่ตรงใจกลางรสชาติก็ยิ่งเข้มข้นหวานมันโดน ใจเข้าไปอีก

23

ชูครีม (Choux Cream)  เอแคร์สไตล์ญี่ปุ่น ชิ้นเล็กน่ารักอร่อยพอดีคำ ประกอบไปด้วยไส้ในเป็นคัสตาร์ดและไอศกรีมสดซึ่งเป็นวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีสดใหม่ปราศจากผงฟู เรียกได้ว่าส่วนผสมเป็น Naturalล้วนๆโดย คุณ ตุ๊ก (เจ้าของร้าน) ลงทุนไปร่ำเรียนมาจากครัวญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยนะครับ

24

อีกเมนูของหวานที่ คุุณตุ๊ก (เจ้าของร้าน) ได้ไปร่ำเรียนมาจากครัวญี่ปุ่นก็คือ คัสตาร์ด คาราเมล (Custard Caramel)รสชาติหอมหวานจนเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าทุกเพศทุกวัยในความที่กินเท่าไหร่แต่กลับไม่รู้สึกถึงความเลี่ยนเลย(แบบยิ่งกินยิ่งอร่อยนะเนี่ย)

25

เค้กที่ชาวไทยส่วนใหญ่อย่างเราชอบทานและถูกปากกัน ก็คือ เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มและเค้กชาไทยครับ สำหรับเมูนี้ตัวผมขอแนะนำอีกเช่นกันว่า มีรสชาติที่อร่อยจริงๆ เพราะเล่นชิมซะหมดถ้วยเลย เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีครับ และยังเหมาะสมสำหรับการนำมาเป็นของฝากน่ารักๆ สำหรับญาติผู้ใหญ่ของเราก็ได้ครับ

26

มาต่อกันที่เมนูของหวานแบบอิตาเลี่ยนกันบ้างกับ ทีรามิสุ (Tiramisu) ที่มีรสชาติแตกต่างอร่อยลงตัวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

27

สาเกและเครื่องดื่มนำเข้าจากญี่ปุ่นอีกมากมาย

28

พิเศษ! สำหรับชาว Mthai ทุกท่าน เมื่อท่านปั้มสะสมสัญลักษณ์กับทางร้านครบ 12 ดวง ทานฟรี 1 ท่านทันทีจ้า (คือสมมุติว่าไปทาน 8 คน ก็ได้รับ 8 ปั้มสัญลักษณ์ที่บัตรสะสมทันที สรุปว่ายิ่งไปเยอะก็ได้ปั้มสัญลักษณ์เยอะครับ) หรือท่านที่สงสัยสามารถไปติดตามในคลิปวีดีโอได้เลยครับ

เมนู ผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า เผ็ดร้อนสมุนไพรไทย

วันนี้ทาง  food.mthai ได้ นำ เมนู เกี่ยวกับสมุนไพรไทยมานำเสนอให้แก่สมาชิก สูตรอาหาร และวิธีการทำ เมนูต่างๆ เพื่อที่จะทำอาหารไทยประยุกต์ที่แสนอร่อยด้วยฝีมือตนเอง เพื่อให้ได้ลิ้มรสของ ผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า เพื่อทำกินเอง ที่บ้านกับคนภายในครอบครัว จะเด็ดขนาดไหนไปลองทำกันดีกว่าครับ

1

(ภาพนี้เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

ส่วนผสม  ( สำหรับ 3 ที่ )

  • ไข่เยี่ยวม้า                                                         3  ฟอง
  • กุ้งสับ                                                            100  กรัม
  • พริกชี้ฟ้าเหลืองและแดงหยาบ  อย่างละ                 1  เม็ด
  • กระเทียมสับละเอียด                                    1 1 – 4  ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าเขียวเหลืองและแดงหั่นแฉลบ  อย่างละ     1  เม็ด
  • ใบกระเพรา                                                    1 – 4  ถ้วย
  • น้ำปลา                                                               1  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย                                                      1 – 2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย                                                   1 – 2  ช้อนชา
  • น้ำมันพืชสำหรับผัด                                         2 – 3  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืชสำหรับทอดไข่
  • ใบกระเพราทอดกรอบสำหรับโรยหน้าตามชอบ

2

(ภาพนี้เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกไข่เยี่ยวม้าและผ่าให้ได้ฟองละ 4 ชิ้น จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนด้วยไฟกลางจนเหลืองกรอบตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  2. ผัดพริกชี้ฟ้าบดและกระเทียมกับน้ำมันด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอม
  3. ใส่กุ้งสับลงผัดจนสุก  ปรุงรสด้วยน้ำปลา  น้ำมันหอย  และน้ำตาลทราย
  4. ใส่ไข่เยี่ยวม้าที่ทอดไว้  พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ  และใบกระเพราลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  5. ตักใส่จาน  โรยใบกะเพราทอดกรอบ

เคล็ดลับความอร่อย

เตรียมใบกระเพราทอดกรอบโดยเด็ดใบกระเพรา  ล้างผ่านน้ำแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำจากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดด้วยไฟกลาง สักครู่  และตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันทันที

 เมนู ”ผัดกระเพราไข่เยี่ยวม้า“ แสนอร่อยจาก
หนังสือในเครือ อมรินทร์
อาหารไทยประยุกต์

อาหารไทยประยุกต์