ปกติผมจะชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แต่วันนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศหันมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ดูบ้าง
ลองหาความรู้รอบตัวใส่สมองดู แล้วมันก็น่าทึ่งจริงๆครับ
กับ พิพิธภัณฑ์เครื่องถ้วย แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มิวเซียมแห่งนี้ รวบรวมเครื่องถ้วยและวัตถุเก่าแก่แห่งภูมิภาค
เต็มไปด้วยรากเหง้าอารยธรรมที่น่าศึกษา และมนต์ขลังที่ซ่อนอยู่บนผิวถ้วยชาม
พิพิธภัณฑ์เครื่องถ้วยฯ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต

การมาทำธุระ ที่ ม.กรุงเทพ ของผม ทำให้ได้รู้จักกับมิวเซียมเจ๋งๆ อีกแห่งในเมืองไทย
มหาลัยที่ดูกว้างขวาง เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์
สมแล้วที่เป็นที่ตั้งของมิวเซียม ผมจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปเก็บภาพมาฝากท่านสมาชิกกัน
ยังไงก็ลองไปเที่ยวกันดูนะครับ

พิพิธภัณฑ์สถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2543
เก็บรวบรวมเครื่องถ้วยโบราณกว่า 2,000 รายการ ที่อาจารย์สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยมอบให้
มุ่งหวังให้ผู้เข้าชมรู้สึกซาบซึ้งและเห็นคุณค่าทางมรดกวัฒนธรรมไทย
ทางมหาวิทยาลัยมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้มิวเซียมแห่งนี้ เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกี่ยวกับเครื่องถ้วยสมัยประวัติศาสตร์ทุกแง่มุม

อาคารจัดแสดงถูกออกแบบมาได้สร้างสรรค์สุดๆ ตั้งอยู่ใกล้กับน้ำตกประดิษฐ์
ตัวมิวเซียมบางส่วนจะอยู่ใต้ดิน จนเคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบัน หรืออาคารทางศาสนา
เมื่อปี 2551 และเป็น 1 ใน 9 ของสถาปัตยกรรมสีเขียวดีเด่นของไทย (ASA Green Awards) ในปี 2552

ตู้จัดแสดงเจาะช่องให้เราเอามือเข้าไปสัมผัสได้ด้วยนะ เจ๋งไปเลย

ภายในอาคาร จัดแสดงเรื่องวิวัฒนาการของเครื่องถ้วยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เน้นที่ผลิตจากกลุ่มเตาในราชอาณาจักรไทย รวมทั้งประวัติความเป็นมา
โดยอาศัยหลักฐานที่ค้นพบจากเรืออับปางและแหล่งเตาในภูมิภาค
และที่ค้นพบจากเทือกเขาถนนธงชัย ทางภาคตะวันตกของเรานี่เอง

เปิดทำการ: อังคาร – เสาร์ ตั้งแต่ 09.00 – 16.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม: 02-902-0299 ต่อ 2890

ขอบคุณข้อมูลจาก: tavel.mthai.com

ร้านอาหารญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้านที่มาแนะนำ และมาทานกันในวันนี้ คือ ร้าน Sushi Hiro (ซูชิ ฮิโร่) สาขา The Shoppes Grand Rama 9 ใกล้ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ถือได้ว่าเป็นร้านโปรดของใครหลายๆ คน ด้วยความสดของวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ซาซิมิปลาดิบ ข้าวหน้าปั้นต่างๆ และรายการเมนูอื่นๆอีกมากมาย ให้ลูกค้าได้รับความอร่อยกัน อีกทั้งทางร้านยังมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาดึงดูดลูกค้าอยู่เป็นระยะๆ อย่างเช่นเมนูบางรายการจะลดราคา 50% ทำให้ลูกค้าเดิมทั้งที่เคยมาทานแล้วก็อยากจะมาทานซ้ำ และลูกค้าที่อยากจะมาลองทานด้วยราคาโปรโมชั่น ก็เข้าร้านมาเรื่อยๆ เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 21:30 น.

Salmon sashimi 

Salmon Spicy Rol

Ebi Tempura

คัสตาร์ด

วันแห่งความรักใกล้เข้ามาทุกที วันนี้ตามรอยนักชิมและมาเฟียฟู้ดมาชิมกันที่ร้านสีชมพูหวานแหวว ที่ชื่อร้านมีเสน่ห์สุดๆ กับที่ร้าน เวียงจูมออนทีเฮ้าส์ ร้านชาชื่อดังจากเชียงใหม่ มาตั้งที่ Central World ให้คนเมืองกรุงที่ชื่นชอบชาไม่ผิดหวังแน่นอน

เวียงจูมออนทีเฮ้าส์ Vieng Joom On Teahouse

ร้าน เวียงจูมออนทีเฮ้าส์ (Vieng Joom On Teahouse) ตั้งอยู่ชั้น 5 ของ Central World ติดบรรไดเลื่อน ตรงหน้าทางเข้าฝั่ง ZEN ร้านสีชมพูโดดเด่น โทนชมพูตัดกับสีน้ำตาลของไม้ ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์จากเมืองล้านนา

เวียงจูมออน ที่มีความหมายว่า “เวียง” แปลว่า วิมาน หรือ นคร “จูมออน” แปลว่า สีชมพู จึงมีความหมายว่า วิมานสีชมพูนั้นเอง

ร้านโล่งโปร่งใส ประดับด้วยโคมไฟที่มีเสน่ห์น่าหลงไหล และเฟอร์นิเจอร์ไม้ทำให้อบอุ่น

เมนูแนะนำ

High Tea For Two 550 บาท จะมี บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก , มูสชาแดงแอฟริกัน กับซอสสูตรพิเศษ , สลัดผลไม้ตามฤดูกาล เสิร์ฟพร้อมกับชารสที่ชื่อชอบ

บลูเบอร์รี่ชีสเค้กเนื้อแน่น กับวิปครีมนุ่มๆ และบลูเบอร์รี่เข้มข้น ราคาปกติ 170 บาท

มูสชาแดงแอฟริกัน นุ่มๆ หวานหอมด้วยกลิ่นชา ละมุนลิ้น และราดด้วยซอสราสเบอร์รี่ ราคาปกติ 180 บาท

สลัดผลไม้เสิร์ฟมากับซอสราสเบอร์รี่โฮมเมด จากผลไม้ตามฤดูกาล หั่นเต๋า ราคาปกติ 95 บาท

ครีมบูเล 160 บาท โดยเสริมรสด้วย ผลไม้รสเปรี้ยวและน้ำซอสสตรอเบอรี่ ตัดรสหวานของครีมบูเล อย่างลงตัว

สโคน ( 2 Pieces 140 บาท / 4 Pieces 190 บาท ) สั่งมา 2 รสชาติ รสธรรมดา และ แบบลูกเกด เสิร์ฟคู่กับโฮมเมดแยม และ ไลท์ครีม วิธีทานสโคนคือใช้มีดผ่าตรงกลางแล้วปาดแยมและไลท์ครีม แล้วทานจะได้ควาอร่อยอย่างเต็มคำ

มาเฟียฟู้ดทานชาและขนมเข้าไปถึงกับเพ้อฝันไปถึงไหนต่อไหนแล้วค่ะ ใครที่ชื่นชอบชาและขนมหวาน และต้องการหาร้านความเป็นส่วนตัวไว้นัดเดทกับตรงกลางใจเมืองแบบนี้ แนะนำที่ร้านเวียงจูมออนทีเฮ้าส์ ชั้น 5 Central World แห่งนี้