10 สถานที่ท่องเที่ยวแบบฮิปสเตอร์

10 สถานที่ท่องเที่ยวแบบฮิปสเตอร์ ฟินเวอร์ฟรุ้งฟริ้ง

 

 001

 

ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จัก “ฮิปสเตอร์ แบบคร่าวๆ กันก่อน นั่นก็คือกลุ่มคนที่มีวิถีชีวิต วิธีคิด
และมุมมองที่ไม่เหมือนใคร พวกเขามักชอบอ่านหนังสือ ดูงานศิลปะ ปั่นจักรยาน นั่งร้านกาแฟเล็กๆ
ถ่ายรูปด้วยฟิลเตอร์ฟุ้งๆ กินอาหารออแกนิก ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือจะปลูกต้นตะบองเพชร
ซึ่งบางที วิถีชีวิตแบบนี้อาจมีเป็นล้านคนที่เขาทำ เพียงแต่มันเพิ่งจะมีคำจำกัดความแค่นั้นเอง หาก
มองรวมๆ แล้ว “ฮิปสเตอร์ ก็ถือเป็นแนวปฏิบัติที่ยอดเยี่ยมในการใช้ชีวิต ดูมีความสุขสงบ เรียบ
ง่าย ไม่มีพิษมีภัย แต่อย่าลืมว่าคุณก็เป็นคุณอยู่วันยังค่ำ การพยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่คุณ มัน
เหนื่อยนะ! แหม่ ผมก็นอกเรื่องไปเรื่อย เอาเป็นว่าเราไปดูสถานที่ท่องเที่ยวกันเลยดีกว่า …

 

1.เชียงคาน จ.เลย

01

เมืองแห่งวิถีชีวิตสโลวไลฟ์ เรียบง่าย ช้าๆ ตามแบบฉบับฮิปสเตอร์ เดินชมบ้านเรือนที่ยังคงความ
ดั้งเดิม ผู้คนที่เป็นมิตร ปั่นจักรยานริมฝั่งโขง อะไรจะสุขใจไปกว่านี้ …

 

2.ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

02

เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทัศนียภาพอันน่ามหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็น
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ท่องไร่ชาบนเชิงเขา
ตลอดจนต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสดใสในหน้าหนาว

 

 

3.เมืองราชบุรี

03

แหล่งชุมชนคนอาร์ต 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม … พลาด ถูกใจเหล่าฮิปสเตอร์ ด้วยการเดินเล่นชมตึก
เก่าในราชบุรี ไม่ว่าจะเป็นตึกแถวโบราณของย่านเก่าโพธาราม ตึกเก่าใจกลางอำเภอเมืองที่ยังคง
สถาปัตยกรรมคลาสสิก

 

4.ยอดเขาเทวดา จ.สุพรรณบุรี

04

ยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สพรรณบุรี พบกับเส้นทางขึ้นเขาที่เต็มไปด้วยต้น
หญ้าอันเขียวขจี และทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิด เหล่าฮิปสเตอร์เห็นแล้วมันน่าไปนอนเกลือกกลิ้งซะจริงๆ

 

5.เกาะไหง จ.ตรัง

05

เกาะสวรรค์แห่งเมืองตรัง ฟ้าสวย ทะเลใส หาดทรายขาว และเมื่อเทียบกับเกาะอื่นๆ ในทะเล
อันดามันแล้ว ที่นี่ยังคงความเป็นธรรมชาติ และมีความเงียบสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อน
นั่งอ่านหนังสือริมหาด ฟินสุดๆ เลยล่ะ

 

6.ทุ่งหนองหญ้าม้า จ.อุบลราชธานี

06

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นจุดถ่ายภาพที่เหมาะกับฮิปสเตอร์อย่างที่สุด รายล้อมไปด้วยทุ่ง
ดอกไม้ป่านานาชนิด บวกกับแสงแดดอ่อนๆ ที่สาดลงมาอย่างนุ่มนวล ทุ่งหนองหญ้าม้า
ตั้งอยู่ที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

 

7.นิมมานเหมินทร์ จ.เชียงใหม่

07

ขาดไปไม่ได้เลย สำหรับแหล่งรวมความเป็นฮิปสเตอร์ขนานแท้ “นิมมานเหมินทร์” กลางเมือง
เชียงใหม่ เต็มไปด้วยร้านอาหารออแกนิก คาเฟ่สุดชิค แกลลอรี่สุดอาร์ต กับการตกแต่งสุด
สร้างสรรค์ สวรรค์ของคนรักศิลปะ

 

8.เมืองภูเก็ต

08

บ้านเมืองที่ถูกรังสรรค์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส กลิ่นอายและมนต์ขลังของความเก่าแก่
เต็มไปด้วยร้านกาแฟโบราณ ได้อารมณ์วินเทจ แถมยังปลีกวิเวกไปนั่งชมพระอาทิตย์ที่แหลม
พรหมเทพได้อีกต่างหาก

 

9.เสียมเรียบกัมพูชา

09

ลองข้ามมาฝั่งประเทศเพื่อนบ้านดูบ้าง กับ “เสียมราฐ” หรือ “เสียบเรียบ” ในภาษาท้องถิ่น สถานที่
ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณมากมาย เป็นที่ตั้งของปราสาทอังกอร์
วัด (นครวัด) อันเป็นมรดกโลก เป็นการท่องเที่ยวในแบบฮิปสเตอร์อีกมุมหนึ่ง ที่แฝงไปด้วยความ
ท้าทาย แต่เรียบง่ายและน่าค้นหา

 

10.วังเวียง สปป.ลาว

010

วังเวียง กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งถ้ำและสายน้ำ รับรองว่า
คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด ด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมกับมองดูวิถีชีวิตอันแสน
เนิบนาบ ไม่เร่งรีบของผู้คนที่นี่ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการพายเรือคายักชมความสวยงามของแม่น้ำซอง

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://travel.mthai.com/blog/110998.html

 

ที่ไหนมีชีสที่นั่น7พิกัดร้านชีส

ที่ไหนมีชีสที่นั่นมีเฮ!! 7 พิกัดร้านชีส ยืดไม่หยุดฉุดไม่อยู่

 

 

ของอร่อยไม่ต้องกลัวอ้วน ยุคสมัยนี้มีวิธีออกกำลังกายง่ายๆ แต่ของดีเราจะอดกันไปทำไม
อย่าง ชีส สาวๆ หลายคนคงจะอดใจไม่ไหวกับความยืดความหอมมันของชีส เป็นใครก็อดใจไม่
ได้กันทั้งนั้น และชีสไม่ว่ากินกับอะไรก็อร่อย วันนี้เรารวบรวมร้านที่มีชีส ให้คนรักชีสได้ไปตามรอย
กัน กับ 10 ร้านที่มีชีสที่ต้องไปกินให้ครบ

 

 

1.ชาบูล้อมโต๊ะ

01

ชาบูบุฟเฟ่ต์ หัวละ 299 บาท ส่วนชีสก็กินได้ไม่อั้นอีกแค่คนละ 59 บาท แถมน้ำซุปก็มีให้เลือก
หลายแบบ มีน้ำใส เย็นตาโฟ ซุปดำสาหร่าย แกงส้ม แยกหม้อเป็น 2 ฝั่ง สามารถสั่งซุปได้สอง
รสชาติ เพิ่มความลงไปด้วยมันกุ้ง เป็นเมนูเด็ดของร้านอีกเมนูหนึ่งเลยก็ว่าได้

พิกัด : สี่แยกวังหิน ตรงข้ามตลาดนัด Prom ถนนโชคชัย4 ลาดพร้าว , กรุงเทพมหานคร

จันทร์ – ศุกร์ : 15.00 – 22.00 น. , เสาร์ – อาทิตย์ : 11.00 – 22.00 น.

 

 

 

2.Saranghae

02

Saranghae Special set pork set B คอหมู หมูสามชั้น และหมูหมัก เนื้อหมูออแกนิค มีบันซัน
เป็นเครื่องเคียง มอสเซอเรร่าชีสนำเข้าจากยุโรป กิมจิ รสเปรี้ยวตัดกับรสชาติหมูจุ่มชีส ทานกับ
ผัก เกนนิป หรือ ใบงา และหัวใชเท้าดอง ราดน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้าน และยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมาย

พิกัด : อาคาร เพลสทีค ชั้น 3 สุขุมวิท63 (เอกมัย) คลองตันเหนือวัฒนา กรุงเทพ 10110

เปิดทุกวัน 11.00 – 21.00 น.

 

 

3.UKI – Cheesy Korean BBQ Restaurant

03

ร้าน ยูกิ ร้านบุฟเฟ่ต์เกาหลีที่โดดเด่นทางด้านชีส แค่เห็นชื่อร้านที่มีคำว่า Cheesy Korean ต้องมี
ทีเด็ดที่ชีสแน่นอน มี 2 ราคาคือ 379 บาท และ 499 บาท ส่วนชีสถ้วยแรกยกเสิร์ฟมาให้ฟรีๆ
ส่วนถ้าจะสั่งต่อก็ถ้วยละ 99 บาท

พิกัด : อยู่ในตึก MD Tower ติดกับ BigC บางนา

เปิดทุกวัน : 10:30 – 22:00 น

 

 

4.‎Jeju Dony

04

ร้านหมูย่างเกาหลี โดยเจ้าของร้านเป็นคนเกาหลีแท้ๆ รสชาติของอาหารจึงกล้าการันตีได้ว่าอร่อย
แบบต้นตำรับแน่นอน ที่นี่มีทั้งอาหารเกาหลีที่สั่งมาแบบเป็นจานและปิ้งย่าง แต่เมนูที่คนส่วนมากที่ี
เข้ามาจะต้องสั่งเลย นั่นก็คือ บุฟเฟ่ต์หมู เริ่มต้นเพียง 299 บาทเท่านั้น ส่วนชีสคิดเพิ่มถาดละ 100 บาท
ทานได้ไม่จำกัดเวลา แต่จำกัดการสั่งออเดอร์เพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่ละครั้งจะสั่งปริมาณเท่าไหร่
ก็ได้ แต่ต้องกินให้หมดนะจ๊ะ

พิกัด : ถนน สมโภชเชียงใหม่ 700 ปี โครงการ The Best Point Plaza จังหวัดเชียงใหม่

เปิดทุกวัน : 11:00 – 22:00 น.

 

 

 

 

 

5.MASIZZIM

05

MASIZZIM ร้านอาหารเกาหลีแนวใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลี และ
ขยายความอร่อยมาสู่ประเทศไทยที่สยามสแควร์ เมนูที่นี่เป็นเมนูหมูตุ๋น เนื้อตุ๋นที่เสิร์ฟมาในหม้อไฟ
เมนูเด็ดที่ต้องสั่งเลยคือ Pork short rib stew สามารถเพิ่มท็อปปิ้งชีสได้

พิกัด : สยามสแควร์, ตรงข้ามศูนย์หนังสือจุฬา

เปิดทุกวัน : 10:00 – 22:00 น.

 

 

 

6.พ.พุง พุงกาง

06

ร้านคล้ายๆ ร้านหมูกระทะ แต่ดัดแปลงกระทะเป็นกระทะแบบมีช่องให้ใส่ชีส สั่งเป็นเซ็ตหมูและเซ็ต
ทะเลย มีสองราคา 359 กับ 459 บาท ส่วนท็อปปิ้งที่เหลือสั่งแยกมาอีกต่างหาก เพิ่มชีสถาดละ 69 บาท

พิกัด : ซอย ทุ่งสุขลา ประตูสาม ม.เกษตร ฝั่งตรงข้าม แฟมิลี่มาร์ท ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

จันทร์ – พุธ : 17.00 – 23.00 , ศุกร์ 17.00 – 23.00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 14.00 – 23.00 น.

 

 

7.Lobster bucket

07

ร้าน 삼겹살 (ซัมเกียบซัล) ปิ้งหมูจุ่มชีส By Lobster Bucket ปิ้งย่างเกาหลีอยู่ในสถานที่แนวๆ
อย่างเจเจกรีน ตั้งอยู่ชั้น2 ของศูนย์อาหาร กรีน ฟู้ด พาร์ค แตกสาขามากจาก
Lobster bucket บางแสนชลบุรี ราคาเริ่มต้นเพียง 129 บาท

พิกัด : โครงการจตุจักรกรีน (เจเจกรีน)

เปิดทุกวัน : .วันอังคาร-พุธ เวลา 16:00 -22:00น. ,วันพฤหัส-อาทิตย์ เวลา16:00 – 24:00 น.

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://food.mthai.com/food-recommend/111147.html

วิธีทำ ข้าวมันไก่ สูตรเด็ดทำกินได้ทั้งครอบครัว

ข้าวมันไก่ เป็นเมนูที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อตอนหิว แต่พอไปกินตามร้านข้าวมันไก่ บางเจ้าทำให้น้อย แถมสั่งพิเศษแล้ว ก็ยังไม่อยู่ท้อง เรามาหัดทำข้าวมันไก่ที่บ้านกันดีกว่า สูตรข้าวมันไก่ ใครทำก็อร่อย

วิธีทำ ข้าวมันไก่ สูตรเด็ดทำกินได้ทั้งครอบครัว

iStock_000017042355_Small

ส่วนผสม

  • ข้าวสาร  350 กรัม
  • สะโพกหรืออกไก่  700  กรัม
  • ขิงแก่ฝานเป็นแว่น  6 แว่น
  • กระเทียมสับหยาบ  2  ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชีบุบ  2  ราก
  • เกลือป่น  1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า  6  ถ้วย
  • น้ำมันเจียวจากหนังไก่หรือนำมันพืช  14  ถ้วย
  • ใบผักชีและแตงกวาหั่นตามขวางปริมาณตามชอบ
  • น้ำจิ้มข้าวมันไก่และน้ำซุปตามชอบ เช่น แกงจืด สำหรับทานคู่กัน

วิธีทำ

  1. ต้มไก่ในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นพักไว้ กรองน้ำต้มไก่ผ่านกระชอนเตรียมไว้สำหรับหุงข้าว
  2. ซาวข้าวสารผ่านน้ำ 1 ครั้ง แล้วใส่หม้อหุงข้าวเตรียมไว้
  3. เมน้ำมันเจียวจากหนังไก่ใส่กระทะประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟให้ร้อนเจียวกระเทียมจนได้กลิ่นหอมแล้วใส่ลงในหม้อหุงข้าว
  4. ใส่ขิงและรากผักชีลงไป ตามด้วยน้ำต้ม เกลือป่น และน้ำมันที่เหลือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝา หุงข้าวจนสุกดี
  5. ระหว่างนั้นเลาะกระดูกออกจากเนื้อไก่แล้วหั่นเป้นชิ้นตามยาว เตรียมไว้
  6. ตักข้าวมันใส่จานเสิร์ฟ วางไก่ต้มลงไปตกแต่งด้วยผักชี รับประทานคู่กับแตงกวา น้ำจิ้ม และน้ำซุปตามชอบ

ส่วนผสมน้ำจิ้มข้าวมันไก่

  1. ของแก่สับละเอียด  2  ช้อนโต๊ะ
  2. กระเทียมสับละเอียด  1  ช้อนโต๊ะ
  3. พริกขี้หนูสับหยาบ  1-2 ช้อนโต๊ะ
  4. เม็ดเต้าเจี้ยวดำบดละเอียด  3  ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทราย  2  ช้อนโต๊ะ
  6. ซีอิ๊วขาว  1  ช้อนโต๊ะ
  7. ซีอิ๊วดำ  1/4  ช้อนชา
  8. น้ำส้มสายชู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ แล้วตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ

เป็ดไก่

สูตร ข้าวมันไก่ จากหนังสือ จานอร่อย เป็ด ไก่ หนังสืออมรินทร์